รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 295

ปัง!

มายมิ้นท์เห็นคอมเมนต์จำนวนมาก รวมถึงใบหน้าประสบความสำเร็จของส้มเปรี้ยว ก็กำหมัดขึ้นมาทุบโต๊ะด้วยความโกรธ

เปปเปอร์จับข้อมือเธอไว้

“คุณทำอะไร?” มายมิ้นท์ชักมือกลับด้วยจิตใต้สำนึก มองเขาอย่างระแวง

เปปเปอร์เห็นเธอระแวดระวังเขาแบบนี้ ในใจก็รู้สึกแย่เล็กน้อย ผลุบตาลงขณะตอบกลับ “ฉันอยากดูว่ามือคุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า”

“แค่ทุบทีเดียว จะบาดเจ็บได้ไง คุณดูถูกฉันเกิดไปแล้ว” มายมิ้นท์ละสายตากลับมาแล้วตอบเรียบๆ

เปปเปอร์ตอบอืม “งั้นก็ดี แต่ต่อไปไม่ว่าจะโกรธแค่ไหน ก็อย่าทำแบบนี้ จะทำร้ายตัวเองเอาง่ายๆ”

“ฉันรู้ ไม่ต้องให้คุณเตือนหรอก” มายมิ้นท์เม้มปากแดงแล้วพูดขึ้น

เปปเปอร์ดึงมือกลับ ยังอยากพูดอะไรบางอย่าง ประตูห้องทำงานก็มีใครบางคนเปิดออก

เตชิตพุ่งเข้ามาด้วยความโมโห “มายมิ้นท์ เธอจะถอนตลาดหลักทรัพย์เหรอ?”

เขาจ้องมายมิ้นท์ เพิกเฉยเปปเปอร์ที่อยู่ข้างกายมายมิ้นท์ไปเลย

มายมิ้นท์ปิดการถ่ายทอดสดส้มเปรี้ยว

ส้มเปรี้ยวเล่าให้เหล่าผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดไปแล้วว่าเธอวางแผนอย่างไร และวางแผนไปทำไม

งั้นเนื้อหาภายหลัง แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องดูมันต่อไป

“ถูกต้อง เลขาซินดี้พูดกับพวกคุณรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ?” มายมิ้นท์ปล่อยเมาส์ เงยหน้ามองเตชิตอย่างเย็นชา

เตชิตตบโต๊ะเธอ “การถอนตลาดหลักทรัพย์เรื่องแบบนี้ เธอคิดว่าตัดสินใจแล้วจะทำได้งั้นเหรอ?”

“ฉันทำได้แน่นอน!” มายมิ้นท์ยืนขึ้นมา “เพราะฉันคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในเทนเดอร์กรุ๊ป!”

เปปเปอร์เห็นมายมิ้นท์กล้าหาญแบบนี้ ดวงตาก็ฉายแววชื่นชม

“เธอ……” ความโกรธของเตชิตติดอยู่ในลำคอ ทำให้เขากลืนคำพูดภายหลังลงไป นานสักพักกว่าจะกลับมาเหมือนเดิม “ใช่ เธอคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในเทนเดอร์กรุ๊ป แต่เธออย่าลืมนะ ฉันต่างหากที่เป็นประธานเทนเดอร์กรุ๊ป เธอเป็นแค่รองประธาน!”

“แล้วไง” มายมิ้นท์กอดอก ตอบกลับด้วยออร่าไม่อ่อนแอสักนิด “ประธานเตชิต คุณควรดีใจนะที่คุณเป็นผู้สูงอายุในเทนเดอร์กรุ๊ป ในบริษัทมีคนครึ่งหนึ่งสนับสนุนคุณ ไม่งั้นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดอย่างฉัน สามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้น เอาสิทธิ์บริหารอีกครึ่งหนึ่งของคุณกลับมา แล้วกลายเป็นท่านประธานที่แท้จริง”

ต้องรู้ว่าผู้ที่ถือหุ้นมากสุดในองค์กร ก็คือคนตัดสินในองค์กร

แต่เพราะลูกน้องที่อยู่ใต้เธอมีไม่กี่คน ถึงแม้จะถือหุ้นมากที่สุด ก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเตชิต ถ้าเตชิตโกรธจนออกจากเทนเดอร์กรุ๊ปไป แล้วเอาคนส่วนหนึ่งที่สนับสนุนเขาไปด้วย ถ้าอย่างนั้นเทนเดอร์กรุ๊ปก็จะพังทลาย

เพราะเทนเดอร์กรุ๊ปในตอนนี้ รับสมัครผู้มีความสามารถเพื่อมาเติมเต็มตำแหน่งคนที่เป็นลูกน้องเตชิตไม่ได้เลย ดังนั้นเธอจึงกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมาตลอด ทั้งๆ ที่ถือหุ้นมากที่สุด แต่ยอมเป็นแค่รองประธาน เหตุผลก็เพราะแบบนี้

และเตชิตก็รู้แน่นอนว่าเธอกลัวเรื่องนี้ จึงไม่ใส่ใจมาตลอดเลยว่าเธอคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในเทนเดอร์กรุ๊ป

“ฮะ? จัดประชุมผู้ถือหุ้น เอาสิทธิบริหารของฉันกลับไป?” เตชิตเหมือนได้ยินเรื่องตลกครั้งใหญ่ ยิ้มอย่างดูถูกขึ้นมา “หลานสาว เธอจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอ? เธอไม่กลัวฉันเอาคนพวกนั้นไปบริษัทอื่นหรือไง? ยังไงแล้วพวกนั้นที่เป็นลูกน้องฉัน เป็นคนมีความสามารถหลักๆ ของเทนเดอร์กรุ๊ป ถ้าพวกเขาไปแล้ว เทนเดอร์กรุ๊ปก็จบเห่! งั้นเธอกล้าไหมล่ะ?”

มายมิ้นท์กำมือแน่น กำลังจะตอบ เสียงของผู้ชายที่มีความเย็นชาแต่ปนไปด้วยความกดดันก็ดังขึ้น “ทำไมจะไม่กล้า?”

มายมิ้นท์หันศีรษะไปมองเปปเปอร์อย่างอึ้งๆ ทันที

เตชิตก็เช่นกัน มองไปอย่างไม่พอใจ “นี่มันเรื่องของฉันกับรองประธานมายมิ้นท์ ผู้ช่วยต๊อกต๋อยอย่างแกจู่ๆ พูดแทรกทำไม……ประธานเปปเปอร์?”

เขาเสียงสูงฉับพลัน มองเปปเปอร์อย่างเหลือเชื่อ

ตอนเขาเข้ามา เห็นมายมิ้นท์มีคนอยู่ข้างๆ แต่นึกว่าเป็นผู้ช่วย ก็ไม่ได้ไปมองหน้าคนคนนั้น เพราะรีบร้อนตำหนิมายมิ้นท์

แต่ใครจะไปคิด ผู้ช่วยต๊อกต๋อยที่เขาคิด จะเป็นประธานบริษัทตระกูลนวบดินทร์ เปปเปอร์!

เตชิตมองเปปเปอร์อย่างตกตะลึง “ประธานเปปเปอร์ คุณ……คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

เขาชี้เปปเปอร์ แล้วชี้มายมิ้นท์อีกครั้ง “คุณกับมายมิ้นท์……พวกคุณ……”

“ฉันมาที่นี่ แค่มาคุยเรื่องงานกับรองประธานมายมิ้นท์ อย่าลืมนะ ฉันกับมายมิ้นท์ร่วมมือกันเรื่องพลังงานใหม่” เปปเปอร์ดวงตาหลบหลีกเล็กน้อย ตอบกลับเรียบๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว