เมื่อได้ยินเรื่องทานข้าว ประธานเพ๋ยรีบพูดว่า “คุณจาน คุณเป็นแขกผู้มีเกียรติของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดเรา อาหารวันนี้ ไม่ว่ายังไงต้องให้ผมจัดการนะครับ!”
เฟ่ยเข่อซินรู้ดีว่า ตอนไหนควรเกรงใจ ตอนไหนไม่ควรเกรงใจ
เช่น เรื่องคนอื่นจะเลี้ยงข้าว ถ้าอีกฝ่ายแค่พูดเป็นมารยาท ก็ต้องตอบเป็นมารยาท จากนั้นปฏิเสธอย่างอ้อมๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายจะได้ไม่เสียหน้า ทุกคนต่างมีความสุข
แต่ถ้าอีกฝ่ายอยากเลี้ยงข้าวอย่างจริงใจ ตัวเองไม่จำเป็นต้องมีมารยาทจนเกินไป ยิ่งไม่ต้องกังวลว่าจะชิงจ่ายค่าอาหารดีหรือเปล่า แค่ตกลงอย่างสบายใจ ก็เป็นการเคารพอีกฝ่ายอย่างมากแล้ว
ดังนั้น เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ประธานเพ๋ย ในเมื่อคุณพูดขนาดนี้แล้ว งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะคะ! เย็นนี้เอาตามที่คุณว่าเลยค่ะ!”
ประธานเพ๋ยตบอก แล้วพูดว่า “วางใจได้เลยครับ เย็นนี้ผมเตรียมร้านอาหารที่ดีที่สุดในจินหลิงให้อย่างแน่นอนครับ!”
พูดพลาง เขามองเซียวฉางควน แล้วพูดว่า “ฉางควน นายรู้จักกับท่านหงห้าของเทียนเซียงฝู่ งั้นนายช่วยฉันจองห้องอาหารที่เทียนเซียงฝู่ให้ฉันสักห้องสิ เย็นนี้เราไปเลี้ยงต้อนรับคุณจานที่เทียนเซียงฝู่!”
แน่นอนว่าเซียวฉางควนไม่ปฏิเสธเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะหงห้านอบน้อมกับเขา ให้หงห้าเตรียมห้องอาหารแค่ห้องเดียว เรื่องนี้แค่พูดเพียงประโยคเดียวเท่านั้น
ดังนั้น เขารีบพูดว่า “ได้ครับประธาน ผมขอไปโทรหาหงห้าก่อน บอกให้เขาเตรียมห้องอาหารให้เรา!”
เมื่อเฟ่ยเข่อซินได้ยินคำว่าเทียนเซียงฝู่ เธอตื่นตระหนกทันที รีบพูดว่า “รองประธานเซียว คุณอย่าเพิ่งรีบค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน