บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1257

นับว่าท่านชายสี่ได้ช่วยแก้ไขการโดนปิดล้อมให้หยู่เหวินเห้า หยู่เหวินเห้าหันกลับไปยิ้มให้ท่านชายสี่ “กระบี่ดี!”

“เหล็กนิลหล่อหลอม ทำลายสิ่งที่แข็งแกร่งได้ โจมตีป้องกันในร่างเดียว!”

ระหว่างพูดคำนี้ กระบี่ด้ามหนึ่งผ่าอากาศเข้ามาทางท่านชายสี่ กระบี่นี้เปล่งแสงสีเขียว ดูออกว่าเป็นกระบี่ที่ดีเล่มหนึ่ง และเจ้าของกระบี่มีกำลังภายในที่ลึกล้ำ กระบี่นี้ผ่าลงมา มีพลังเหมือนสายฟ้าหมื่นชั่ง ท่านชายสี่จับกระบี่ขวางไว้อย่างมั่นคง ได้ยินเพียงเค้งเสียงหนึ่ง กระบี่ของนักฆ่าหักเป็นสองท่อน ตกลงพื้นด้วยเสียงสดใส นักฆ่าผู้หนึ่งสูญเสียอาวุธ เท่ากับชีวิตสูญหายไปครึ่งหนึ่ง นักฆ่าผู้นั้นหน้าซีดทันที มองดูท่านชายสี่เอากระบี่แทงเข้าหัวใจของเขาอย่างนิ่งเฉย ผลักคมกระบี่เข้าไป นักฆ่าจบชีวิตทันที!

คืนนี้คนของสำนักเหมยแดงก็มาแล้ว ทุกคนล้วนรู้ คืนนี้เป็นฉากที่ปฏิบัติการโดยไม่คิดชีวิต รอจนจอมมารกระบี่มาถึง การตะลุมบอนเช่นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

ทั้งจวนเหลิ่ง ถูกปกคลุมด้วยประกายของกระบี่ เสียงการฆ่าฟัน เสียงร้องอย่างน่าอนาถ ดังสะเทือนทั่วฟ้าไปชั่วขณะ

และจวนอ๋องฉู่คืนนี้ก็ไม่เป็นสุขมาก

อย่างไรเสียก็ไม่ใช่ว่านักฆ่าจะเป็นคนตรงไปตรงมา มีบ้างทีที่ใช้วิธีการที่ไม่ซื่อตรง ก็รู้ว่ารัชทายาทรักพระชายารัชทายาทอย่างสุดซึ้ง หากต้องการให้รัชทายาทมอบศีรษะมาให้อย่างว่านอนสอนง่าย บีบบังคับข่มขู่พระชายารัชทายาทก็เป็นวิธีการสุดท้ายและเป็นวิธีเดียว

ดังนั้น ขณะที่จวนเหลิ่งทางนั้นอยู่ในการฆ่าฟัน นักฆ่าสิบกว่าคนก็พุ่งตรงไปที่จวนอ๋องฉู่

เพราะล้วนรู้ว่าเป้าหมายของนักฆ่าคือหยู่เหวินเห้า ดังนั้น ผู้ที่มีวิทยายุทธสูงในจวนอ๋องฉู่ก็ไปทางนั้นหมด สวีอีก็ไปด้วย ตอนนี้ในจวนมีเพียงทังหยางและองครักษ์ในจวนสิบกว่านายที่อยู่เท่านั้น

หยวนชิงหลิงอยู่เป็นเพื่อนลูกๆในตำหนักเซี่ยวเยว่ หลังจากที่พวกเด็กๆเข้าวังไปเรียนหนังสือ ก็อบรมและฝึกฝนให้อ่านเขียนหนังสือตอนค่ำแล้ว เมื่อถึงช่วงค่ำ ก็จำเป็นต้องอ่านหนังสือครึ่งชั่วยาม เขียนตัวอักษรครึ่งชั่วยาม

คืนนี้ซาลาเปาคัดลอกเพชรพระสูตรฉบับหนึ่งตามฉบับเดิม หยวนชิงหลิงดูแวบหนึ่ง กลับแปลกใจ “ทำไมถึงได้คัดลอกพุทธคัมภีร์?”

“เพชรพระสูตร ห้ามสัมผัสกับสิ่งที่ชั่วร้ายหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของจิตใจ!” ซาลาเปาหัวเราะอย่างทะเล้น เป่าแห้งแล้วก็พับ “นี่คือของที่ให้แม่นม แม่นมบอกว่าต้องการจะเผาเพชรพระสูตรไปให้เสด็จย่าเสียน”

“เสด็จย่าเสียน?” หยวนชิงหลิงคิดแล้วคิดอีก จึงจำได้ว่าใกล้จะถึงวันเกิดของเสียนเฟยแล้ว กลับยังต้องลำบากให้แม่นมจดจำเรื่องนี้อีก อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นวันเกิดหรือวันสิ้นพระชนม์ของเสียนเฟย สองปีมานี้ก็เป็นแม่นมสี่จัดการทั้งหมด เผากระดาษในจวน

“อืม เช่นนั้นก็คัดลอกต่อไป!” หยวนชิงหลิงยิ้มแล้วกล่าว

“ทังหยวน ข้าวเหนียว คัดลอกเสร็จกี่ฉบับแล้ว?” ซาลาเปาขยับใกล้เข้าไปเอ่ยถาม

บนใบหน้าของทังหยวนเปื้อนหมึก กล่าวอย่างเอื่อยเฉื่อย “คัดลองพุทธคัมภีร์นี่ จะต้องจิตใจสงบ ตอนนี้ในจิตใจไม่สงบเล็กน้อย คัดลอกได้ไม่มากเท่าไหร่”

หยวนชิงหลิงได้ยินดังนั้น เผลอหัวเราะ หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดแก้มน้อยๆให้เขา “ทำไมจิตใจถึงไม่สงบล่ะ? คิดอะไรน่ะ?”

“ท่านแม่ มีนักฆ่ามาแล้ว!” ทังหยวนแฝงไปด้วยความน่ารักเล็กน้อย มองดูหยวนชิงหลิงแล้วกล่าว

หยวนชิงหลิงตะลึงงัน “นักฆ่า? นักฆ่ามาจากที่ไหน?”

“อืม มีนักฆ่ามาในจวนแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” ซาลาเปาเอียงหน้าฟังครู่หนึ่ง พริบตานั้นบนใบหน้าก็ปรากฏความตื่นเต้นออกมา “ในที่สุดข้าก็เหมือนท่านพ่อเช่นนั้น สังหารพวกคนไม่ดีเหล่านั้นอย่างหนักๆแล้ว!”

ตอนนี้หยวนชิงหลิงก็ได้ยินแล้ว เสียงพลังกระบี่สั่นสะเทือนกลางอากาศ ฝีเท้าร่วงลงพื้นอย่างรีบร้อน แม้ว่าจะแผ่วเบาเป็นที่สุด แต่ความสามารถในการฟังของหยวนชิงหลิงดีเป็นที่สุด ฟังออกแล้ว

นักฆ่าน่าจะยังไม่ได้เข้ามาในจวน แต่ได้ฟังเสียงฝีเท้าเป็นการมาทางนี้

นางสาวเท้าออกไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว ตะโกนไปทางด้านนอก “ใต้เท้าทัง มีนักฆ่ามาแล้ว!”

ทังหยางอยู่ด้านนอกลานพอดี ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าเคร่งขรึม รับสั่งให้องครักษ์เฝ้ารักษาตำหนักเซี่ยวเยว่ทันที เขาเรียกคนสองสามคนมารวมตัวออกไปคุ้มกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน