จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 146

บทที่ 145 การคาดเดาของทุกคน

บรรดาคนที่มา ล้วนเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับครั้งที่แล้ว เพราะถึงยังไงทุกคนต่างก็ทำเพื่อจางเหมิงจนสุดกำลังกันทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะได้ผลหรือไม่ ทุกคนต่างก็พยายามช่วยเธอกันเต็มที่ จางเหมิงไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชังอีกต่อไป

แต่ครั้งนี้ จางเหมิงไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย หรือแสดงท่าทีอ่อนแอเหมือนครั้งก่อนอีกต่อไป

แต่เธอกลับไปมีท่าทียโสโอหัง และอวดดีแบบก่อนหน้านี้ขึ้นมาอีกครั้งแล้ว

"ทุกคนนั่งตามสบายนะ!" จางเหมิงพูดจาแบบสบาย ๆไม่เป็นทางการนัก

นักเรียนหลายคนรู้สึกไม่สะดวกใจนัก เพราะอันที่จริงแล้ว พวกเขาก็ไม่อาจช่วยอะไรเธอได้เลย

มีหลายคนยังไม่รู้ข่าว เรื่องที่เจี่ยงสงประกาศสงครามกับบริษัทชิงเหมิงกรุ๊ป มีเพียงเพื่อนนักเรียนหญิงไม่กี่คนที่อยู่ในหอเดียวกันกับจางเหมิงเท่านั้น ที่รู้ข่าวเรื่องนี้ก่อนใคร

เป็นเพราะพวกฉินโส่ว ได้รับฟังข่าวสารผ่านทางโหลวจิ้งโยวที่แจ้งมาให้รู้ แต่กับนักเรียนคนอื่นต่างก็ไม่ได้รับสิทธิพิเศษเช่นนี้

เมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของจางเหมิงในวันนี้ พวกเขาก็เดาได้ทันทีว่า วิกฤตของครอบครัวเธอได้รับการแก้ไขแล้ว

แต่มันถูกแก้ไขได้ยังไงกันล่ะ?

บริษัทชิงเหมิงกรุ๊ป เป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่เชียวนะ! ใครกันที่มีกำลังมากมายมหาศาล จนสามารถช่วยครอบครัวของจางเหมิงได้?

หลี่หงถูไม่อาจซ่อนความอยากรู้อยากเห็นของเขาได้ จึงโพล่งถามขึ้นว่า "จางเหมิง วันนี้ดูเธออารมณ์ดีจังเลย วิกฤตในครอบครัวของเธอ ถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้วสินะ?"

จางเหมิงพยักหน้ารับ พูดอย่างร่าเริงว่า "ใช่แล้วล่ะ! ตอนนี้พวกบริษัทชิงเหมิงกรุ๊ปนั่น มันยุ่งวุ่นวายจนแทบจะดูแลตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ จะเอาปัญญาที่ไหนมาสร้างเรื่องลำบากให้ครอบครัวของฉันอีกล่ะ!"

"อะไรนะ!" หลี่หงถูตกตะลึงไปชั่วขณะ "ไม่จริงมั๊ง บริษัทชิงเหมิงกรุ๊ปเจ๋งซะขนาดนั้น ใครจะไปบีบบังคับพวกเขาจนถึงจุดที่เอาตัวไม่รอดได้กันล่ะ?"

“แม้แต่กลุ่มบริษัทซื่อหรงกรุ๊ปก็ยังทำไม่ได้เลยนะ! เว้นแต่ว่าต้องเป็นตัวตนระดับท่านเจี่ยงนู้นแหละถึงจะทำได้!”

แน่นอนว่าซื่อหรงกรุ๊ป ก็คือบริษัทของจินซื่อหรง การล้อมปราบชิงเหมิงกรุ๊ปครั้งนี้ จินซื่อหรงก็เข้าร่วมด้วย

จางเหมิงพูดด้วยท่าทีลำพองใจ "นายเดาถูกแล้วล่ะ เป็นท่านเจี่ยงที่ลงมือด้วยตัวเอง!"

“ ท่านเจี่ยงลงมือเองเลย!” หลี่หงถูตกใจจนผงะ

“จางเหมิง นี่เธออัญเชิญมหาเทพองค์ไหนมาล่ะเนี่ย ถึงทำให้ท่านเจี่ยงยอมเคลื่อนไหวได้!”

หลี่หงถูรู้สึกไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ถ้าครอบครัวของจางเหมิงสามารถเชิญท่านเจี่ยงออกหน้าได้จริงๆ ครั้งที่แล้วเธอก็คงไม่ต้องมาขอความช่วยเหลือ จากบรรดาเพื่อนร่วมชั้นอย่างแน่นอน

การที่สุดท้ายต้องมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมชั้น ในมุมมองของพวกเย่อหยิ่งอวดดีอย่างหลี่หงถูแล้ว มันก็เป็นอะไรที่น่าอับอายไม่น้อยจริง ๆ นั่นแหละ

ยิ่งไปกว่านั้น สถานะโดยรวมของเจี่ยงสงในหลินโจว ก็สูงกว่านายกเทศมนตรีประจำเมืองซะอีก ถ้ามีญาติหรือเพื่อนคนไหนของเธอ ที่สามารถขอความช่วยเหลือจากเขาได้ ต่อให้มอบความกล้าหาญให้ชิงเหมิงกรุ๊ปอีกสักแปดเท่า พวกเขาก็ไม่มีวันกล้าพอจะลงมือโหดเหี้ยมกับครอบครัวของจางเหมิงแน่

"จริงด้วย เหมิงเหมิง สรุปว่าใครกันแน่ที่ช่วยเธอ? คนคนนี้ถึงกับสั่งการให้ท่านเจี่ยงเคลื่อนไหวได้เลยนะ เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ เธอต้องขอบคุณในบุญคุณครั้งนี้ของเขามาก ๆ เลยรู้มั้ย!" ผู้หญิงคนหนึ่งยักคิ้วหลิ่วตาใส่จางเหมิง คล้ายมีเจตนาแอบแฝง

พวกเสิ่นหย่งกับเถียนชุ่ยชุ่ยต่างก็อยากรู้ สำหรับพวกเขาแล้ว คนระดับเจี่ยงสงเกือบจะเป็นตำนานที่แค่ได้ยินผู้คนเขาเล่าลือต่อ ๆ กันมาก็ว่าได้

พอตอนนี้มาได้ยินว่า เพื่อนร่วมชั้นบางคนถึงขั้นสั่งให้ท่านเจี่ยงเคลื่อนไหวได้ เป็นธรรมดา ที่คนพวกนี้ย่อมอยากจะไปประจบสอพลอกันแทบแย่ !

ในกรณีที่สักวันหนึ่ง ครอบครัวของตัวเองต้องตกที่นั่งลำบาก การมีเพื่อนร่วมชั้นที่เจ๋งขนาดนี้อยู่ทั้งคน นั่นเท่ากับมีเชือกช่วยชีวิตที่วิเศษสุด ๆ ไปเลยไม่ใช่เหรอ!

ทุกคนพากันจ้องมองไปที่จางเหมิง ด้วยแววตาสดใสเป็นประกาย คาดหวังรอคอยให้เธอบอกออกมาว่าคนคนนี้คือใคร

แน่นอนว่า มีหลินหยุนเพียงคนเดียวที่เป็นข้อยกเว้น เขานั่งอยู่ตามลำพังบนเก้าอี้ ฟังการคาดเดาต่างๆนานาของคนเหล่านี้ สีหน้าเรียบเฉยนิ่งสนิท ไม่มีทั้งความยินดีหรือความโศกเศร้าใดๆให้เห็น

สำหรับจางเหมิงแล้ว เรียกได้ว่าหลินหยุนเกือบจะช่วยทั้งครอบครัวของเธอให้พ้นทุกข์ แต่สำหรับหลินหยุน มันก็เหมือนการเก็บขยะที่คกอยู่บนพื้นไปใส่ถังขยะ

ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย!

เมื่อเห็นสายตาคาดหวังจากทุกคน จางเหมิงก็ส่ายหน้า "จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้หรอก ว่าใครช่วยครอบครัวของฉันไว้?"

"เอ๊ะ! เป็นไปได้ยังไง?"

"หรือว่าคนคนนี้จะเป็นเหลยเฟิงรึเปล่าเนี่ย? ถึงได้ทำความดีแบบไม่เปิดเผยชื่อน่ะ!" (เหลยเฟิง เป็นนายทหารหนุ่มของพรรคคอมมิวนิสจีน ได้รับยกย่องจากท่านเหมาเจ๋อตงว่าเป็นยอดคนดี)

ในใจของพวกนักเรียนต่างก็งงงันกันไปหมด หากพวกเขาคือคนที่สามารถสั่งการคนระดับท่านเจี่ยงได้ พวกเขาคงอดใจไม่ไหว ที่จะป่าวประกาศให้คนทั้งโลกรู้แน่ๆ ว่าฉันมันเจ๋งแค่ไหน! ฉันถึงขนาดสั่งท่านเจี่ยงได้เชียวนะ! อิจฉาฉันสิ! ก้มลงกราบไหว้บูชาฉันสิ! ดาวมหาลัยจางเหมิง เข้ามากอดฉันให้เต็มรักซะสิ!

แต่ตอนนี้ คนคนนี้ก็เสียโอกาสในการแย่งซีนอวดโอ้ โชว์ความเจ๋งไปอย่างเปล่าประโยชน์แล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์