หลินไป๋หลัน นิยาย บท 63

มีมี่ที่เห็นพี่ชายบุญธรรมทำหน้าเหมือนหมาหงอยจึงเอ่ยปลอบใจ "หลันหลัน นางเพิ่งย่างเข้าสิบสี่ปีเอง ยังอีกนานกว่าจะโตออกเรือนได้ นางไม่ได้จะแต่งวันนี้พรุ่งนี้เสียหน่อย"

"พี่รู้แล้วแต่มันก็อดคิดไม่ได้เมื่อคิดแล้วก็เศร้าใจขึ้นมา" เฉินหยางเอ่ยเสียงอ่อย

"เฮ้อ...เอาที่ท่านสบายใจเลย ข้าเองก็เศร้าเช่นกัน" มีมี่เอ่ยปลอบพี่ชายบุญธรรมแต่เมื่อเห็นคนตรงหน้าเศร้านางเองก็อดเศร้าตามไม่ได้เช่นกัน เฉินหยางที่หันไปมองน้องสาวบุญธรรมทำหน้าเศร้าก็เอื้อมมือไปโอบศีรษะน้องสาวบุญธรรมเข้าหาอกแกร่งเพื่อหวังปลอบใจ

เฉินหยวนและอู๋เหยาเมื่อเห็นบุตรชายและบุตรสาวบุญธรรม ปลอบประโลมกันด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยก็นึกขบขันพลางเอ็นดูที่ทั้งสองรักใคร่กลมเกลียวกัน

              #พรรคจันทรา

               "ท่านยายทำอะไรอยู่หรือเจ้าคะ" ร่างอรชรเอ่ยถาม เมื่อเห็นสตรีสูงวัยทำอะไรบางอย่างอยู่ภายในเรือน

               "ยายกำลังตรวจนับสินเดิมของมารดาอาหลงอยู่นะซูเอ๋อร์" อู๋หลิงเซียงเอ่ยตอบหลานสาวเพื่อนสนิท ที่เดินทางมาจากแคว้นเหว่ยเมื่อช่วงสาย ๆ ของวัน

                ร่างอรชรลิงโลดในใจเมื่อได้ยินสตรีสูงวัยเอ่ยเช่นนั้น เพราะนางคือสตรีที่ท่านยายทั้งสองเคยเอ่ยปากหมายหมั้นเคียงคู่กันกับหลานชายที่มีตำแหน่งเป็นถึงประมุขหนุ่มผู้หล่อเหลาและเก่งกาจ

               "มีอะไรให้ซูเอ๋อร์ช่วยหรือไม่เจ้าค่ะท่านยาย" ร่างอรชรเอ่ยอาสาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนน่ารัก

               เมิ่งซูฮวาเดินทางมาจากแคว้นเหว่ยเพื่อการสอบคัดเลือกศิษย์ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียงข้ออ้างที่นางจะได้พบหน้าบุรุษที่มีใจให้และไม่ได้พบหน้าเขามาหลายปี ตอนที่พบหน้ากันครั้งล่าสุดนางมีอายุเพียงสิบวบปีเท่านั้น

               ท่านยายบอกว่าจะให้นางได้หมั้นหมายกับหลานชายสหาย ที่มีบิดาเป็นถึงฮ่องเต้เเห่งแคว้นหนาน และเมื่อนางได้พบหน้าเขาบุรุษที่มีนามว่าหนานเหวินหลงตอนนั้นเขาอายุสิบห้าปี แต่ใบหน้าช่างหล่อเหลาคมคายหาผู้ใดเปรียบได้

               ตั้งแต่ครานั้นหัวใจของนางก็นึกถึงแต่บุรุษผู้นั้นและไม่คิดจะชายตาแลบุรุษผู้ใดอีกเลย ก่อนที่จะเดินทางมาท่านยายบอกว่าให้นางเอาชนะใจพี่เหวินหลงให้สำเร็จจะได้หมั้นหมายและตบแต่งกันเสียที ท่านไม่อยากมัวรอช้าเพราะอยากอุ้มเหลนโดยไว

               "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ยายตรวจนับเสร็จเรียบร้อยพอดี แล้วเจ้าถ้าขาดเหลือสิ่งใดก็แจ้งกับยายได้เลยมิต้องเกรงใจ เจ้าก็เปรียบเสมือนกับหลานของยายคนหนึ่งด้วยเช่นกัน" อู๋หลิงเซียงเอ่ย หลานสาวของสหายงดงามสมชื่อ กิริยามารยาทเรียบร้อยถ้าอาหลงผูกใจรักใคร่นางเองก็ยินดี 

               แต่...อาหลงยังคงยืนยันคำเดิมคือไม่สนใจสตรีร่างอรชรผู้นี้ นางเองก็ไม่เข้าใจหลานชายเหมือนกันว่าเพราะเหตุใด จะกล่าวว่าเป็นเพราะหลานชายมีใจให้คุณหนูไป๋หลันก็ไม่ใช่ เพราะนางพยายามจะหมั้นหมายหลานชายก่อนที่เขาจะได้พบกับคุณหนูไป๋หลันเสียอีก

      ตอนแรกนางก็กังวลว่าหลานชายอาจจะไม่ยอมมีคนรักเสียอีก เพราะสตรีที่งดงามเพียบพร้อมตั้งแต่วัยเยาว์อย่างเมิ่งซูฮวาอาหลงยังไม่สนใจแล้วจะหาสตรีใดมาทำให้หลานชายเขาหวั่นไหวได้อีก แต่แล้วสวรรค์ก็เปิดทางให้เขาได้พบกับสตรีน้อยน่ารักจิตใจดีผู้หนึ่งที่ทำให้หัวใจแกร่งของอาหลงอ่อนลงได้ช่างน่ายินดียิ่งนัก...

      "ขอบคุณเจ้าค่ะท่านยาย ข้ามิขาดเหลือสิ่งใดเจ้าค่ะ ว่าแต่ท่านพี่เหวินหลงติดงานสำคัญหรือเจ้าคะข้ายังมิได้ทักทายเขาเลย" เมิ่งซูฮวาเอ่ยถาม นางมาถึงตั้งแต่ช่วงสาย ๆ แล้วแต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่นางอยากพบเลย

       "อาหลงไปงานสำคัญของเขาในเมืองอีกประเดี๋ยวก็คงจะกลับ" อู๋หลิงเซียงเอ่ยตอบ แต่ไม่ได้บอกว่างานสำคัญของหลานชายคืออะไร รอให้เจ้าตัวได้บอกกล่าวกับนางเองดีกว่า

               "เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าไม่รบกวนท่านยายแล้วขอตัวก่อนนะเจ้าคะ" เมิ่งซูฮวาเอ่ย พร้อมกับเดินกลับเรือนของตน เย็นนี้นางจะต้องแต่งกายให้งดงามเพื่อพบเจอว่าที่คู่หมั้นที่นางเฝ้าคะนึงหามานาน

         กลางยามอิ่ว(17.00-18.59) ขณะนี้ครอบครัวสกุลหลินได้เดินทางกลับมายังจวนเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เหนื่อยล้ากันมาทั้งวัน เพราะเปิดร้านวันแรกก็เรียกลูกค้าเข้าร้านได้อย่างคับคั่ง จนพี่ใหญ่ มีมี่และตัวนาง ต้องช่วยกันต้อนรับลูกค้ามิได้หยุดพัก ส่วนท่านพ่อ และท่านแม่นางให้คอยช่วยนั่งเก็บเงินเพียงอย่างเดียวเพราะกลัวว่าพวกท่านจะเหนื่อย

      หลังจากส่งลูกค้าผู้สูงศักดิ์และบรรดาคุณหนูคุณชายทั้งหลายเรียบร้อย ก็สั่งให้พนักงานเก็บข้าวของและปิดร้านกันตั้งแต่ต้นยามอิ่วแล้ว(17.00-18.59)  ส่วนพนักงานที่อยู่ทำขนมต้องอยู่ทำกันตอนกลางคืนจำนวนสิบคน นางให้พวกเขาเข้างานตอนกลางยามอู่(11.00-12.59) ส่วนคนที่ไม่ได้ทำขนมตอนกลางคืนก็ต้องมาเปิดร้านตามปกติยามเฉิน(7.00-8.59)ให้พวกเขาตกลงกันเองว่าใครจะอยู่ทำตอนไหน

        ไป๋หลันขณะนั่งกินข้าวก็ถูกซักถามเรื่องการหมั้นหมายของนางกับประมหนานว่าเหตุใดถึงได้รีบร้อนนัก นางจึงเล่าเรื่องเกี่ยวกับสตรีที่เป็นหลานสาวของสหายท่านยายหลิงเซียงให้พวกเขาฟัง ประมุขหนานต้องการให้นางมั่นใจในตัวเขาว่าเขาจริงใจกับนางเพียงผู้เดียว ทั้งหมดที่ได้ฟังก็รับรู้และเข้าใจ...

        #บนโต๊ะอาหารพรรคจันทรา

      ร่างอรชรแต่งกายด้วยอาภรณ์สีชมพูหวานขับให้ใบหน้าดูงดงามยิ่งขึ้น เมิ่งซูฮวาที่ได้เห็นหน้าคนที่ผูกสมัครรักใคร่มาตั้งแต่วัยเยาว์ถึงกับใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นดีใจ และคนตรงหน้าช่างหล่อเหลางดงามดุจเทพเซียนหาผู้ใดเปรียบได้ มิเสียแรงที่นางเฝ้ารักเฝ้ารอมานาน...

        "พี่เหวินหลง สบายดีนะเจ้าคะไม่ได้พบกันเสียนาน" เมิ่งซูฮวาเอ่ยทักทายด้วยใบหน้าที่ยิ้มหวานชวนหลงใหล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน