ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 537

อย่าดูตอนที่ตู้เคอหลินยั่วยุเย่เทียนและแสดงท่าทีว่าไม่ขาดตกบกพร่องเงิน ราคาหนึ่งร้อยล้านถือเป็นราคาที่เกินงบของเขาแล้ว

สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย เป็นเพียงแค่ลูกผู้ดีมีเงินที่มีเงินให้ใช้อย่างจำกัดก็เท่านั้น

เขาเป็นคุณชายใหญ่ตู้ผู้สง่างามซึ่งมีขีดจำกัดในการเอาเงินออกมาใช้ได้เพียงหนึ่งร้อยล้านเท่านั้น เด็กอย่างเย่เทียนจะมีเงินขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?

"เฮ้!?นายคงไม่ได้เสนอราคาอย่างประมาทเลินเล่อหรอกใช้ไหม?"

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ตู้เคอหลินก็มองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่แปลกใจ “แต่อย่าหาว่าฉันไม่ได้เตือนนายนะ หากตอนสุดท้ายไม่มีเงินจ่ายล่ะก็บริษัทหรูอี้ประมูลจำกัดจะไม่ปล่อยนายไม่อย่างแน่นอน”

“นี่เป็นเรื่องของบริษัทหรูอี้ประมูลจำกัด มีอะไรให้นายต้องเป็นกังวล?”

เย่เทียนมุ่ยปากพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่ยิ้ม “หรือว่านายกลัว?”

“กลัว?ฉันตู้เคอหลินเนี่ยนะกลัว?”

ความโกรธของตู้เคอหลินพลุ่งพล่านขึ้นในทันที “ไม่ใช่แค่เงินหรอกหรือ!ตั้งแต่เด็กมากูไม่เคยขาดเงินเลยแม้แต่น้อย!”

“หนึ่งร้อยสิบล้าน!”

แม้ว่าในตัวไม่มีเงิน แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่ดูเย้ยหยันของเย่เทียนแล้วมีหรือที่เขาจะสนใจมากนัก

ยังไงซะ บริษัทหรูอี้ประมูลจำกัดจะกล้าทำให้คุณชายใหญ่ตู้ต้องลำบากงั้นเหรอ?คิดแล้วก็แค่กลับไปโดนท่านปู่ทุบหลังเข้าให้ก็เท่านั้น

เมื่อมองเห็นเย่เทียนและตู้เคอหลินสองคนนั้นต่างเสนอราคาเพิ่มทีละสิบล้าน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น มันทำให้ใบหน้าของผู้คนที่ดูการแสดงอยู่นั่นอึ้งทึ่งไปหมด

นี่มันเป็นการล้มธุรกิจครอบครัวเกินไปแล้ว ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเกินไป ช่างน่าอิจฉาเสียจริง!

แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่ดีเพราะไม่ว่าใครก็คงอยากใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยเช่นกัน?!

“หนึ่งร้อยสามสิบล้าน!”

เย่เทียนไม่ได้หยุดลงแม้แต่น้อยแต่กลับเพิ่มราคาประมูลเพิ่มขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังเพิ่มพุ่งถึงยี่สิบล้านในครั้งเดียว

“นาย……”

มุมตาของตู้เคอหลินกระตุกอย่างแรง มองไปที่เย่เทียนด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด

“ก็แค่เงินไม่ใช่เหรอ ฉันเองก็ไม่ขาดเหลือเหมือนกัน”

เมื่อสังเกตสายตาของตู้เคอหลินที่ถูกฉายออกมา เย่เทียนก็ยักไหล่อย่างเฉยเมยพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แต่ไม่ว่าจะมันของอะไร มันก็มีมูลค่าของมันอยู่แล้ว ลองเพิ่มราคาขึ้นหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร?”

คำพูดของเขานั้นหมายถึงความหมายอย่างอื่น ซึ่งหมายถึงการเอาชนะตู้เคอหลินได้ไม่มากก็น้อย

ท้ายที่สุดแล้ว ใครจะไปพูดมูลค่าของสร้อยคอรักนิรันดร์เส้นนี้ได้อย่างแม่นยำกันล่ะ?

ตู้เคอหลินที่ยังบ้าระห่ำก็ยังพอมีสมองอยู่บ้าง ตอนนี้ราคาประมูลนั้นสูงกว่าราคาเริ่มต้นจองถึงสี่เท่า การที่ต้องใช้เงินจำนวนมากขนาดนี้ในการประมูลคงกลับไปถูกดุด่าและไม่แน่ว่าแม้แต่บัตรเอทีเอ็มก็คงถูกระงับไปด้วย

“หยุดการประมูลสักครู่!ฉันต้องการให้พวกนายตรวจสอบทรัพย์สินของเขา ดูว่าเขาจะเอาเงินหนึ่งร้อยสามสิบล้านออกมาประมูลได้จริงหรือไม่!”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ตู้เคอหลินก็ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับชี้ไปที่เย่เทียนและตะโกนใส่ผู้ดำเนินการประมูลที่อยู่บนเวที

เป็นไปไม่ได้ที่จะสู้ประมูลราคาต่อ เขาเองก็ต้องสนใจท่านปู่ที่บ้านด้วย ดังนั้นนี่จึงเป็นวิธีที่จะบังคับให้เย่เทียนออกไป

เย่เทียนหัวเราะอย่างโง่เขลาแต่กลับรู้สึกโล่งใจ

ทรัพย์สินของเขาหากรวมกันทั้งหมดแล้วคงอยู่ที่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวน นี่ยังรวมเงินหนึ่งร้อยล้านที่เฉินหวั่นชิงมอบให้เขาเมื่อวานนี้อีก หากตู้เคอหลินยังคงเสนอราคาต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็คงไม่ไปต่อแล้ว

นอกจากนี้ด้วยนิสัยของเฉินหวั่นชิง หากต้องใช้เงินมหาศาลในการได้ครอบครองสร้อยคอรักนิรันดร์มาก็เกรงว่าอารมณ์ของเธอก็คงจะไม่ดีนัก

ไม่ว่าอย่างไรด้วยการยืนขึ้นและซักถามของตู้เคอหลินก็ได้ทำให้ผู้คนต่างพากันซุบซิบกันโดยไม่ต้องสงสัย

“คุณชายตู้ทำอะไรน่ะ?คงไม่ได้ไม่มีเงินแล้วใช้วิธีนี้หรอกใช่ไหม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่