The king of War นิยาย บท 129

ถ้าเป็นฉินต้าหย่งในอดีต บางทีหยางเฉินคงสงสัย แต่ตอนนี้เขาคงไม่สงสัยสักนิดเดียว มีเพียงหมายความว่า สาวประชาสัมพันธ์คนนั้นกำลังพูดโกหก

“ผู้จัดการของพวกเราอยู่ที่นี่ เจ้าคนขอทาน นายยังกล้ามาเล่นลิ้น”

หญิงสาวประชาสัมพันธ์คนนั้นอายุยังไม่มาก กลับดูถูกดูแคลนคนอื่น อาศัยว่าผู้จัดการอยู่ด้วย เลยพูดโกหกได้เต็มปากเต็มคำ

“เธอต่างหากที่เป็นขอทาน ทั้งบ้านเธอเป็นขอทานกันหมดเลย!”

ในชั่วขณะนั้นฉินยีระเบิดแล้ว ชี้หน้าด่าสาวประชาสัมพันธ์ขึ้นมา อยากพุ่งไปตีหล่อนสักยกหนึ่งใจแทบขาด

“เชอะ! เขาเป็นคนสกปรกขนาดนี้ ตัวคนอยู่ไกลหลายร้อยเมตร ยังได้กลิ่นเหม็นบนตัวเขาแล้ว ไม่ใช่ขอทานแล้วเป็นอะไร?”

สาวประชาสัมพันธ์พยายามเถียงอีกฝ่าย ทั้งยังแสร้งทำท่าทางไม่ได้รับความเป็นธรรมออกมาพลางพูดว่า “ผู้จัดการคะ คุณดูสิ พวกเขาโอหังกันขนาดไหน กล้ามาก่อเรื่องวุ่นที่หวงเหอบาธ”

สายตาผู้จัดการตกอยู่บนตัวของหยางเฉิน “ตอนนี้ นายยังมีอะไรอยากพูดอีกไหม?”

“หยางเฉิน พ่อแค่บอกว่าอยากอาบน้ำ ไม่ได้พูดคำอื่นจริงๆ และไม่มีความคิดจะตีหล่อนด้วย โดยเฉพาะ......”

น้ำเสียงของฉินต้าหย่งสัตย์จริงอย่างยิ่ง ในสายตาเต็มไปด้วยความสับสน ไม่ง่ายที่จะฟื้นความสัมพันธ์กับฉินซีกลับมาได้ เขาไม่อยากถูกลูกสาวเข้าใจผิดเพราะเรื่องที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา

เขากำลังอยากจะพูดต่อไปอีก แต่ถูกหยางเฉินขัดจังหวะเข้า จ้องเขาด้วยท่าทางเชื่อใจแล้วบอกว่า “พ่อครับ พ่อไม่ต้องอธิบาย ผมเชื่อพ่อ!”

“พ่อคะ หนูก็เชื่อพ่อเหมือนกันค่ะ!”

ฉินซีกอดแขนของฉินต้าหย่งไว้แน่น มองเห็นบิดาถูกเหยียดหยามต่อหน้าสาธารณชน ในใจเธอไม่พอใจมาก แต่หยางเฉินอยู่ที่นี่ เธอถึงสบายใจมาก

ฉินต้าหย่งรู้สึกหวั่นไหวต่อสายตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกประทับใจ ดวงตาแดงขึ้นเล็กน้อย

เขากังวลว่าเรื่องราวจะบานปลาย อยากจะไกล่เกลี่ยให้เรื่องราวเงียบลง ดังนั้นจึงพูดว่า “หยางเฉิน ขอเพียงพวกลูกเชื่อพ่อ พ่อก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเราเปลี่ยนที่กันดีไหม?”

“ผู้จัดการคะ คุณดูสิ ขอทานคนนี้ใจฝ่อ อยากจะหนีแล้ว”

ใครคาดไม่ถึงว่าการยอมถอยของฉินต้าหย่ง สำหรับสาวประชาสัมพันธ์ กลับเป็นหวาดผวา

นี่ทำให้หยางเฉินโกรธมาก ในสายตามีแสงคมกริบแวบผ่าน จ้องผู้หญิงคนนั้นพลันพูดว่า “ถ้าเธอกล้าใส่ร้ายพ่อตาของฉันอีกสักคำเดียว อย่ามาโทษฉันว่าไม่เกรงใจ!”

สาวประชาสัมพันธ์เพียงรู้สึกว่ากลัวตัวแข็งไปหมดในชั่วขณะนั้น ถอยหลังไปหลายก้าวโดยจิตสำนึก กำลังอยากจะพูด พอสบสายตาที่น่ากลัวของหยางเฉินเข้า ยังตกใจจนหล่อนไม่กล้าพูดออกมาสักคำเดียว

“อยู่ต่อหน้าฉัน มาข่มขู่คนของฉันอีก นี่นายไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วงั้นเหรอ?”

ในสายตาผู้จัดการเปล่งประกายแสงเย็นเฉียบ ถ้าไม่ใช่ว่าบุคคลใหญ่โตด้านบนท่านนั้น เขาคงให้คนลงมือตั้งนานแล้ว

“เวลาฉันมีจำกัด ไม่พูดจาไร้สาระแล้ว”

หยางเฉินเงยหน้ามองกล้องวงจรปิดหมุนได้ทั่วทุกที่มุมอาคาร จากนั้นพูดว่า “ในเมื่อนายคิดว่าพ่อตาฉันพูดโกหก งั้นก็ได้ นั่นไม่ใช่มีกล้องวงจรปิดอยู่เหรอ? เอาคลิปวิดีโอในวงจรปิดออกมา ความจริงก็กระจ่างแล้วสิ?”

ฉินต้าหย่งมองเห็นตัวกล้องเช่นกัน ดีใจขึ้นในขณะนั้น รีบพูดทันที “ใช่ ขอเพียงเอาคลิปวิดีโอในวงจรปิดออกมา นายก็จะเข้าใจแล้วว่าฉันพูดโกหกหรือเปล่า”

สาวประชาสัมพันธ์คนนั้น หลังได้ยินเปิดคลิปวิดีโอวงจรปิด สั่นไปทั้งตัว ความจริงเมื่อสักครู่คืออะไร หล่อนรู้ดีเสียยิ่งกว่าใคร

ปฏิกิริยาของหล่อน หยางเฉินเห็นทั้งหมดแล้ว ผู้จัดการก็ตกตะลึงเช่นกัน เดิมทีเขาไม่เคยพิจารณาถึงข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ เพื่อหน้าตาของหวงเหอบาธ เขาจะไม่ยอมรับว่าพนักงานของตนเองพูดโกหก

แต่ตอนนี้ดูท่าทางที่ไม่กลัวแต่อย่างใดของฉินต้าหย่ง อีกทั้งสาวประชาสัมพันธ์ที่ตื่นตระหนก เขาก็เข้าใจความเป็นจริงขึ้นมาทันที

“ใช่ นี่ไม่ใช่มีกล้องวงจรปิดเหรอ? เอาวงจรปิดออกมา ทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว”

“ฉันว่าแล้ว ลุงคนนี้ดูเหมือนกระเซอะกระเซิงมาก แต่ว่าไม่เหมือนขอทาน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War