อ้อมกอดอสูรไร้ใจ นิยาย บท 67

Rocasander villa เวลา 12:07 น.

แขไขกับคาทอร์มาถึงคฤหาสน์โรคาซานเดอร์ตอนเที่ยงตามที่เลโอนาดท์ได้บอกไว้เมื่อวาน หลังจากที่ไปตรวจดูความเรียบร้อยของยาปลุกเซ็กซ์ และโคเคนที่เร่งผลิตให้ทันส่งของล็อตใหญ่ที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

พอสองสามีภรรยาเข้ามาด้านในคฤหาสน์ก็เจอประธีปกับทนายของโรคาซานเดอร์นั่งรออยู่ พร้อมกับเลโอนาดท์และมะลิฉัตร ขณะที่สาวใช้ต่างพากันยกอาหารสารพัดเมนูออกมาวางเรียงบนโต๊ะ

“เชิญค่ะ มาทันอาหารมื้อเที่ยงพอดี” มะลิฉัตรเอ่ยยิ้มๆ หลังจากเห็นทั้งคู่เดินเข้ามา

“สวัสดีค่ะคุณเลโอนาดท์ สวัสดีค่ะมาดาม” แขไขทักทายเสียงสดใส พร้อมกับส่งยิ้มให้ทุกคนอย่างอารมณ์ดี

“สวัสดีครับคุณเลโอนาดท์ มาดาม!” คาทอร์เอ่ยทักทายพลางส่งยิ้มไปให้กับทุกคนบนโต๊ะอย่างหน้าชื่นตาบาน

“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ” เลโอนาดท์และมะลิฉัตรทักทายตอบ

“ผมว่าเราลงมือทานอาหารกันเลยดีกว่าครับ เชิญ!” เลโอนาดท์เอ่ยชวนอีกครั้ง จากนั้นทุกคนก็ลงมือทานอาหาร ก่อนจะคุยเรื่องสำคัญ ท่ามกลางใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างเห็นได้ชัดของแขไขและคาทอร์ ที่กำลังจะได้ค่าสินสอดในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ ทุกคนพากันย้ายไปห้องรับแขก ประธีปที่เป็นทนายดูแลเรื่องสัญญา ก็ได้เดินทางมาร่วมงานแต่งเมื่อวาน พร้อมกับมาทวงทรัพย์สินที่แขไขส่งคืนไม่ครบ ประธีปเริ่มเปิดประเด็นด้วยการเอ่ยชมเรื่องงานแต่งเมื่อวานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างเศร้า เพราะตนนั้นเป็นเพื่อนรักของพิทักษ์มาตั้งแต่สมัยเรียน

“ผมอยากให้พิทักษ์กับอามายะได้มาเห็นลูกสาวของตัวเองในงานแต่งเมื่อคืนจังเลยครับ!”

“แค่กๆๆ” แขไขถึงกับสำลักน้ำที่เพิ่งยกขึ้นดื่ม ส่วนคาทอร์ชะงักไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าประธีปจะกล้าเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา

“เป็นอะไรมากไหมคะคุณแขไข” มะลิฉัตรเอ่ยถามอย่างห่วงใยเพราะเห็นแขไขใบหน้าแดงก่ำ

“ดีขึ้นแล้วค่ะมาดาม!” แขไขตอบด้วยใบหน้าเจื่อนๆ พลางรับแก้วน้ำที่คาทอร์ส่งให้มาจิบ

“นั่นสิเนอะ! น่าเสียดายจัง ว่าแต่พ่อกับแม่ของมิกิเสียชีวิตเพราะอะไรเหรอครับ” เลโอนาดท์เอ่ยถามต่ออย่างสนใจ

“ตำรวจสรุปการตายว่าเป็นอุบัติเหตุ รถเสียหลักพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้เสียชีวิตคารถทั้งคู่ แต่ที่น่าแปลกคือมีร่องรอยของการพยายามเบรกรถมาเป็นทางยาว เหมือนกับว่าสายเบรกโดนตัดหรือไม่ก็ขาดเอง แต่รถคันที่พิทักษ์ขับวันนั้น ช่างประจำยืนยันว่าเพิ่งเปลี่ยนเบรกและยางล้อรถใหม่พร้อมกันทั้งหมดได้เพียงสองวันก่อนที่จะเกิดเหตุ และที่เด็ดสุดก็คงจะเป็นปลอกกระสุนที่ตกในรถซึ่งหาที่มาไม่ได้ แต่ก็นั่นแหละครับ! ทุกอย่างถูกเผาไหม้ไปหมดเหลือแต่โครงของรถเท่านั้น!” ประธีปเอ่ยด้วยถ้อยคำที่ชัดเจนและเสียงดังพอจะทำให้แขไขและคาทอร์เริ่มจะนั่งไม่ติด

“ทำไมไม่มีใครตามสืบคดีต่อล่ะ ผมหมายถึงตำรวจที่นั่นน่ะ” เลโอนาดท์เอ่ยถามต่อด้วยสีหน้าจริงจัง

“ก็ตำรวจสรุปการตายไปแล้ว และญาติ...ก็ไม่ได้ติดใจใน การตายครับ เลยจบอยู่เพียงแค่นั้น ส่วนหนูมิกิยังเด็กอยู่ เธอยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการตายของพ่อกับแม่ ถ้าเป็นตอนนี้ผมว่าเธอคงจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะลากคอคนผิดมารับโทษตามกฎหมายแน่ๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว จนตอนนี้ผมก็ไม่คิดจะพูดเรื่องนี้ให้เธอฟัง เพราะผมอยากให้มิกิมีความสุขกับชีวิตปัจจุบันมากกว่าจะไปรับรู้อดีตที่สะเทือนใจ และผมเชื่อว่า...ต่อให้ใครบางคนหนีกฎหมายได้ แต่ก็หนีกรรมที่ตัวเองได้ทำลงไปไม่ได้หรอก จริงไหมครับคุณแขไข!” ประโยคสุดท้ายประธีปหันมาเอ่ยถามแขไขที่นั่งหน้าเจื่อนๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตน ด้วยความรู้สึกเจ็บใจกับเรื่องที่ผ่านมา

“อะ...เอ่อ ใช่แล้วค่ะ แขก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แขก็เลยปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป ไอ้ครั้นเราจะไปรื้อฟื้นอะไรมากก็ไม่ได้ เพราะตอนนั้นแขไม่ได้อยู่ไทยค่ะ” แขไขเออออแทบไม่ทัน ไม่คิดว่าประธีปจะกล้าโยนมาให้เธอ ต่อหน้าคนตั้งเยอะตั้งแยะแบบนี้

“ใช่ครับ! อีกอย่างเราก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับกฎหมายของไทยสักเท่าไหร่ เพราะพวกเราอยู่อังกฤษเสียส่วนใหญ่ ไปไทยแค่เพียงไม่กี่ครั้งเองครับ” คาทอร์รีบเอ่ยสมทบภรรยาด้วยสีหน้าตึงๆ

“คดีน่าสนใจมากเลยนะครับ!” ทนายของตระกูลโรคาซานเดอร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ได้ฟังประธีปเล่า

“นั่นสิ! บางทีเราน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้นะครับ” เลโอนาดท์สำทับด้วยท่าทางนิ่งๆ ก่อนจะเหลือบหางตาไปมองคาทอร์และแขไข ที่ขยับเปลี่ยนท่าไปมาอย่างอดขำไม่ได้ที่ทั้งสองแสดงอาการร้อนตัว!

“แล้วนี่คุณแขไขแจ้งเรื่องที่ดิน ที่ยังไม่ส่งคืนไปแล้วใช่ไหมครับ” ประธีปเอ่ยถามแขไขต่อทันที

“อ๋อ! คุณแขแจ้งมาแล้วค่ะคุณประธีป! ทางเราไม่ได้ติดใจอะไรค่ะ” มะลิฉัตรบอกยิ้มๆ

“แต่สัญญาระบุเอาไว้ชัดเจนนะครับ ว่าจะต้องส่งมอบคืนทรัพย์สินทุกอย่างให้กับหนูมิกิ เมื่อเธออายุครบยี่สิบสามปีบริบูรณ์ ไม่ให้ขาดไปแม้แต่ชิ้นใดชิ้นหนึ่ง ยิ่งเป็นที่ดินผืนนั้น ยิ่งไม่ได้ครับ! เพราะในสัญญาก็ให้เงินค่าเลี้ยงดูทุกๆ เดือน แต่สองปีมานี้ผมเห็นมีแต่เงินที่เบิกเกินออกไปเยอะเลย”

ประธีปที่รอจังหวะก็จัดการแขไข เอ่ยอย่างไม่ไว้หน้า เพราะตนเพิ่งได้รับเอกสารที่ยื่นค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้อง ซึ่งเลขาฯ ของแขไขแฟกซ์ส่งไปให้ตนที่ไทยเมื่ออาทิตย์ก่อน ตนจึงตัดสินใจบินตรงมายังอังกฤษ เพื่อแจ้งรายละเอียดให้ทางโรคาซานเดอร์ทราบไปในตัว

“มิกิเรียนปริญญาโท ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงสิครับคุณทนาย!” คาทอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“เอ่อ...เรื่องที่ดินผืนนั้น คือมีอยู่ช่วงหนึ่งที่แขเดือดร้อนน่ะค่ะ ก็เลยขายที่ตรงนั้นไป ตอนนี้แขมีเงินแล้วไปตามซื้อคืน แต่ว่าคนที่ซื้อไปนั้นได้ขายต่อให้กับเศรษฐีคนหนึ่งไปแล้วค่ะ แขก็เลยจนปัญญาจริงๆ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน” แขไขเจอคำถามของประธีปเข้าถึงกับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี จนต้องเอ่ยให้ตัวเองดูน่าสงสารเข้าไว้

“ยังมีรายละเอียดอีกเยอะแยะมากมายที่ผมนำมาวันนี้ เดี๋ยวยังไงผมขอคุณเลโอนาดท์กับมาดามช่วยเซ็นเป็นพยาน เกี่ยวกับการรับทราบของคุณแขไขที่ผมได้แจ้งให้ฟังด้วยนะครับ” ประธีปเอ่ยพร้อมกับหันไปขอความร่วมมือกับเลโอนาดท์และมะลิฉัตร

“ได้ครับ! ไม่มีปัญหา” เลโอนาดท์เอ่ยพร้อมกับยิ้มตรงมุมปากนิดๆ

“ยินดีค่ะ!” มะลิฉัตรเอ่ยตาม

แขไขถึงกับทำหน้าไม่ถูกที่ประธีปหันไปขอความร่วมมือจากทาง โรคาซานเดอร์

“จริงๆ ในสัญญาระบุไว้ว่า จะต้องส่งคืนทุกอย่างตอนหนูมิกิ อายุยี่สิบสามปี แต่นี่อีกห้าวันจะครบสองเดือนแล้วนะครับ ผมเป็นแค่ทนายตัวแทนของพิทักษ์และอามายะ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลทรัพย์สินทางกฎหมายให้บุตรสาวเพียงคนเดียวของพวกเขา ผมต้องทำตามหน้าที่ที่เพื่อนรักฝากฝังเอาไว้ก่อนตาย ผมจึงขอความเห็นใจจากคุณแขไขด้วยนะครับ! อีกห้าวันนับจากนี้ คุณจะต้องหาคำตอบเกี่ยวกับบัญชีรายจ่ายและที่ดินผืนนั้นให้ได้ ไม่อย่างนั้นเราคงจะต้องไปเจอกันที่ศาลบ่อยหน่อยนะครับ” ประธีปชี้แจงให้แขไขทราบ

“ห้าวัน! แขจะไปตามหาเศรษฐีคนนั้นได้ที่ไหนล่ะคะ” แขไขโวยขึ้นอย่างไม่พอใจ คาทอร์เองก็มีท่าทางฮึดฮัดขึ้นมาด้วยเช่นกัน

“คุณแขไขรักหนูมิกิไหมครับ!” ประธีปเอ่ยถามเรียบๆ

“รักสิคะ คุณไม่น่าถาม!” แขไขเก็บอารมณ์เดือดแทบไม่อยู่

“อ๋อ! ที่ผมต้องถามน่ะ คือผมไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่น่ะครับ ว่าถ้าคุณรักหนูมิกิจริงๆ แต่ทำไมคุณถึงเอาบ้านที่เป็นความทรงจำสุดท้ายของเธอที่เคยอยู่กับพ่อและแม่ไปขาย และผมก็เพิ่งจะทราบมาว่าตลอดสองปีมานี้ เธอได้หนีออกจากบ้านของคุณซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอที่อังกฤษ ไปสมัครหางานทำและอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง สองปีที่ผ่านมาเธอเปลี่ยนที่อยู่ถึง สี่ครั้ง ผมรู้สึกมันเหมือนเธอกำลังหนีอะไรสักอย่าง และที่ผมสงสัยคือ เด็กที่รักเรียนอย่างหนูมิกิ ทำไมถึงไม่ได้เรียนต่อปริญญาโทอย่างที่คุณคาดอร์ เอ๊ย! คุณคาทอร์ บอกครับ อ่อ! ผมขออีกคำถามเดียว แล้วก็ขอโทษที่รบกวนเวลาของคุณเลโอนาดท์กับมาดามด้วยนะครับ” ประธีปเอ่ยยาว พลางหันไปยกมือไหว้ขอโทษเลโอนาดท์และมะลิฉัตร พร้อมกับก้มหัวให้ทั้งสองน้อยๆ ก่อนจะหันมาพูดกับแขไขต่อ

“ถ้าหนูมิกิหนีออกจากบ้านของคุณไป และไม่ได้ติดต่อคนในบ้านเลย แล้วเอกสารการเบิกจ่ายเงินห้าสิบล้านบาทในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ เป็นลายเซ็นของใครครับคุณแขไข! เอาเป็นว่ายังไม่ต้องตอบผมตอนนี้นะครับ เอาไว้ตอบตอนที่ทุกคนมาพร้อมหน้ากันในอีกห้าวันก็ได้ครับ” ประธีปจัดหนักแขไข ก่อนจะวางสำเนาเอกสารที่มีลายเซ็นการเบิกเงินที่เซ็นชื่อ แพรณารา สิริรันทนากรณ์ ลงบนโต๊ะให้กับทุกคนดู

“พระเจ้า!” มะลิฉัตรอุทานออกมาอย่างลืมตัว ก่อนจะหันไปมอง แขไขด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม

“ผมว่าวันนี้เราจะยังไม่มีการคุยเรื่องสินสอดของหนูมิกิที่อยู่ในตู้เซฟ คุณแขไขต้องรอให้หนูมิกิกลับมาก่อนแล้วละครับ คุณประธีป! เอกสารที่จะให้เซ็นเป็นพยานอยู่ไหนครับ!” เลโอนาดท์เอ่ยถามก่อนจะดึงปากกาจากกระเป๋าเสื้อออกมาเตรียมรอ

“นี่ครับ!” ประธีปส่งเอกสารให้เลโอนาดท์เซ็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ