อ้อมกอดอสูรไร้ใจ นิยาย บท 70

สามเดือนต่อมา...

“อื้อ...” แพรณารารู้สึกถึงบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวที่หน้าอกของเธอ และได้ยินเสียงจ๊วบๆ ที่ดังแว่วๆ ราวกับทารกกำลังดูดนม จึงกะพริบตาตื่นปรับภาพโฟกัสของการมองเห็นให้ชัดขึ้น

“ว้าย!” คนที่เพิ่งตื่นเต็มตาอุทานเสียงดังอย่างตกใจ ที่เห็นสามีกำลังดูดดื่มปลายถันของเธออย่างหื่นกระหาย

“ชู่ว์ๆ อย่าเสียงดังสิคะมิกิ เดี๋ยวจัสก็ตื่นหรอก” ออร์แลนโด้เงยหน้าขึ้นมาบอกภรรยาสาวที่กำลังตกใจ เพราะตนเพิ่งจะลุกไปดูลูกชายวัยสามเดือน ‘จัสติน’ มาเมื่อครู่นี้เอง

“ปล่อยมิกินะคนบ้า!” แพรณาราลดเสียงลง แต่ก็ไม่วายส่งสายตาดุๆ ไปให้สามีที่ชอบมาดูดดื่มปลายถันของเธอเวลาหลับเป็นประจำ ตั้งแต่ที่เธอคลอดบุตรชายได้สองวันอีกฝ่ายก็แอบทำแบบนี้มาตลอด

“ขอพี่ชิมมั่งสิ เห็นจัสดูดเอาๆ พี่ก็อยาก!” ออร์แลนโด้เอ่ยจบก็ก้มลงดูดดื่มต่อ อย่างไม่สนใจสายตาขุ่นเคืองของภรรยา

“ไม่! หยุดนะพี่อลัน... อ๊ะ” แพรณาราพยายามดันหัวของอีกฝ่ายให้ออกจากดอกบัวของเธอ แต่อยู่ๆ ก็รู้สึกถึงบางอย่าง... กำลังเคลื่อนตัวเข้าออกอยู่ในกาย “ไม่นะ!” เธอรีบก้มลงมองช่วงล่างของคนหื่นอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ‘พระเจ้า! อีตาบ้านี่ลักหลับเธออีกแล้วเหรอเนี่ย’

“แหม ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว ก็ช่วยให้ความร่วมมือกับผัวหน่อยนะคะ” ออร์แลนโด้เอ่ยพลางขยิบตาส่งให้ภรรยาสาวอย่างเจ้าเล่ห์ ตอนแรกเขาว่าจะแอบทำเงียบๆ แต่เจ้าตัวดันตื่นขึ้นมาซะก่อน

“คนบ้า...อื้อ” แพรณารากำลังจะต่อว่าสามีจอมหื่น แต่ก็ถูกอีกฝ่ายฉกจูบและปิดการสนทนา แล้วเคลื่อนไหวบางอย่างเข้าสู่ตัวเธอแทน

“อืมมมม” ออร์แลนโด้ส่งเสียงครางในลำคออย่างชอบใจกับการตอบสนองของภรรยา ที่กำลังตอดรัดเขาจนแน่นหนับไปทุกครั้งที่ขยับตัว

พระเจ้า! เขาหลงเธอ...อย่างที่ไม่เคยหลงใครได้ขนาดนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนตัวเองหื่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ ทุกครั้งที่เห็นเธอให้นมลูก แล้วเขาทำได้แต่มองด้วยความรู้สึกอิจฉา และแอบลอบกลืนน้ำลายอยู่บ่อยๆ

“อ๊ะ...อะ...อืม” แพรณาราครางเสียงแผ่วเบา เมื่อรู้สึกเสียวซ่านกับจังหวะรักของสามีที่ค่อยๆ ขยับความเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ เขาชอบปลุกเธอขึ้นมารักยามค่ำคืน ตอนที่เธอกำลังหลับใหล บางครั้งเธอก็ปรับตัวไม่ทัน แต่สุดท้ายก็ต้องคล้อยตามอีกฝ่ายจนได้

“อื้อ...มิกิรัดพี่แน่นมากคนดี” ออร์แลนโด้กระซิบเสียงสั่นพร่าก่อนจะเร่งจังหวะรักขึ้นเรื่อยๆ อย่างเมามัน

“อะ...อ๊า...” หญิงสาวครางลั่นกับความเสียวที่ปานจะขาดใจ

“พี่รักมิกิมากนะรู้ไหม” ออร์แลนโด้จับสะโพกบางเอาไว้มั่น แล้วเร่งเครื่องพาภรรยาสาวไปแตะขอบสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าเขาจะอิ่มเอมและพอใจก็เกือบเช้าของวันใหม่

สองปีต่อมา... หลังจากคดีของแขไขและคาทอร์สิ้นสุดลง เมื่อทั้งสองรับสารภาพอย่างหมดเปลือก ศาลจึงลดโทษประหาร เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิตซึ่งทุกคนก็อยากจะให้การตัดสินออกมาเป็นเช่นนั้น เพราะการประหารชีวิตมันดูจะรวดเร็วเกินไปกับสิ่งที่ทั้งสองได้กระทำ ส่วนอิซซี่ต้องโทษจำคุกถึงเจ็ดปี แต่ให้การเป็นประโยชน์ศาลจึงลดโทษให้เหลือห้าปี ทำให้อิซซี่ต้องจบอาชีพนางแบบไป แล้วใช้ชีวิตอยู่ในห้องขังแทน

ประเทศไทย... ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่

แพรณาราเดินทางมาไทยกับออร์แลนโด้ พร้อมกับลูกชายวัยสองขวบที่กำลังซน หนุ่มน้อยจัสตินวิ่งนำหน้าคุณแม่ยังสาวที่เอวบาง ร่างเล็กอรชรน่าทะนุถนอมไปทั้งเนื้อทั้งตัว ไม่ต่างไปจากเมื่อสองปีก่อนเลยแม้แต่น้อย

ออร์แลนโด้ในวัยสามสิบห้าปียังหล่อเหลาคมคายและทรงเสน่ห์อยู่เช่นเคย ชายหนุ่มกำลังคุยโทรศัพท์สั่งงานที่บริษัทโดยที่การ์ดคนอื่นๆ ก็ดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่รอบๆ ขณะรออันโตนีโอ้นำรถมารับหลังจากที่อีกฝ่าย บินตรงมาไทยเมื่ออาทิตย์ก่อน กับนานาและลูกสาวตัวน้อยจีเซล ที่เกิดหลังจัสตินไปสองเดือน

“สวัสดีครับหนุ่มน้อย! ชื่ออะไรครับ” ภูเบส นักธุรกิจใหญ่ของไทยเดินเข้ามาอุ้มหนุ่มน้อยตาสีน้ำตาลอมเทาที่หน้าตาน่ารักน่าชัง ก่อนจะหันไปถามสาวน้อยหน้าจิ้มลิ้มที่อายุน่าจะไม่เกินยี่สิบยี่สิบเอ็ด ซึ่งเดินตามหนุ่มน้อยไปมา

“แด๊ดดี้! แด๊ดดี้!” จัสตินหันซ้ายหันขวาเรียกหาบิดาทันที หลังจากที่ถูกคนแปลกหน้าเข้ามาอุ้ม

“เอ่อ...ขอโทษด้วยนะคะ จัสกำลังซนน่ะค่ะ” แพรณาราหันไปมองสามีเพียงครู่เดียว พอหันกลับมาก็เห็นบุตรชายไปอยู่ในอ้อมแขนของคนแปลกหน้า จึงรีบเข้าไปหาพร้อมกับเอ่ยขอโทษขอโพย

“มิกิจ๋า!!” จัสตินเรียกชื่อมารดาเลียนแบบผู้เป็นบิดาจนติดปาก หนุ่มน้อยส่งมือทั้งสองข้างไปหาแพรณารา เพื่อจะให้อุ้มตน

“ขอบคุณนะคะ!” แพรณาราเอ่ยพร้อมกับยื่นแขนไปอุ้มบุตรชายมาแนบไว้ในอ้อมกอดอย่างรู้สึกเกรงใจอีกฝ่าย

“คุณชื่อมิกิเหรอครับ ผมชื่อภูเบส ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ภูเบสรีบแนะนำตัวหลังจากที่เห็นสาวเจ้าวิ่งตามหนุ่มน้อยมาได้ครู่หนึ่ง เขาจึงแกล้งเดินเข้ามาอุ้มเพื่อจะทำความรู้จักกับเธอ ที่สวยราวกับนางฟ้า เอวเล็กคอดรับกับสะโพกที่กลมกลึง ทำเอาเขาแทบหยุดหายใจ ไหนจะหน้าอกคัพซีและรูปร่างที่บอบบาง มันทำให้เขาเคลิ้มและจินตนาการไปไกลเลยทีเดียว

“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณภูเบส” แพรณารายิ้มให้อีกฝ่ายบางๆ และกำลังจะพาลูกชายเดินกลับไปหาสามี

“นี่น้องชายของคุณเหรอครับ? น่ารักเชียว หน้าตาคล้ายๆ คุณนะครับ!” ภูเบสชวนคุยต่อเพราะยังไม่อยากให้สาวเจ้าจากไป

“เอ่อ...คือ...” เธออึกอักที่ชายตรงหน้าเข้าใจผิดคิดว่าบุตรชายเป็นน้องชายของเธอ

“แล้วเด็กคนนี้เหมือนผมไหมครับ?” ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยถามหลังจากที่เดินมาถึง ทำเอาภูเบสหน้าเสียนิดๆ ที่เห็นผู้ชายหน้าตาดุๆ เดินมาโอบไหล่สาวสวยตรงหน้า ที่ตนกำลังถือถาดขนมจีบประเคนให้ได้ไม่กี่นาที

“กะ...ก็เหมือนอยู่ครับ!” ภูเบสตอบเสียงสั่นนิดๆ พลางสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ก็ต้องเหมือนสิครับ! เพราะผมเป็นพ่อและเธอคือแม่ นี่ลูกชายคนแรกของเรา จัสติน ส่วนคนที่สองอยู่ข้างในนี้มาได้สามเดือนกว่าๆ แล้วครับ” ออร์แลนโด้เอามือวางที่หน้าท้องแบนราบของภรรยา เพื่อให้อีกฝ่ายคิดตาม

ด้านคนที่กำลังท้องลูกคนที่สองได้สามเดือนตาโตขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าออร์แลนโด้จะขี้หึงจนกล้าพูดได้ขนาดนี้

“ขอโทษครับ! ผมไม่นึกว่า...เอ่อ” ภูเบสไปต่อไม่ถูก ไม่รู้จะเอ่ยคำไหนออกมา ตอนนี้ในหัวของเขาเหมือนไม่มีสมองอยู่ข้างในใจสั่นแปลกๆ กับสายตาที่จ้องมาอย่างเอาเรื่องของผู้ชายตัวโตตรงหน้า

“สวัสดีครับบอส สวัสดีครับคุณมิกิ รถพร้อมแล้วครับ!” อันโตนีโอ้เดินเข้ามาบอก ก่อนจะจ้องมองผู้ชายตรงหน้าอย่างเอาเรื่องตามผู้เป็นนาย!

แพรณารากลอกตาอย่างเบื่อหน่าย ที่ทั้งเจ้านายและลูกน้องเหมือนกันไม่มีผิด

“สวัสดีค่ะคุณพีเค! มิกิว่าเรารีบไปกันเถอะค่ะ มิกิคิดถึงนานากับจีเซลจะแย่แล้ว!” เธอเอ่ยเร่งคนพาลที่กำลังหึง ให้หยุดหาเรื่องคนอื่นซะที เพราะสามีของเธอจะมีอาการแบบนี้ทุกครั้ง ที่เห็นผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาทักทายหรือพูดคุยกับเธอ

“นานาทำกับข้าวรอคุณมิกิกับบอสอยู่ที่บ้านหลังใหม่ครับ”อันโตนีโอ้หันมาตอบยิ้มๆ

“ส่งลูกมาค่ะ เดี๋ยวพี่อุ้มเอง!” ออร์แลนโด้เอ่ยเสียงอ่อนพร้อมกับละสายตาจากภูเบสแล้วไปรับลูกชายมาอุ้ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ