เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง นิยาย บท 24

การย้ายบ้านและจัดเก็บไม่ไม่ใช่เรื่องง่าย โชคดีที่เซวียหลิง หยุดงานในวันเสาร์อาทิตย์ เธอเพิ่มซื้อของสิ่งนู่นนี่เล็กๆ น้อยๆ ในที่สุดเธอก็รู้สึกพึงพอใจ

สำหรับเฉิงเทียนหยวน วันเสาร์อาทิตย์เขาจะต้องผลัดเปลี่ยนเวรกันจึงเดินทางออกไปตั้งแต่เช้าตรู่

เมื่อเซวียหลิงจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วได้อุ่นหมั่นโถวในตอนเช้ากิน ตอนกลางวันเธอนอนหลับพักผ่อน เมื่อตื่นมาก็ได้ทำงานแปลของตนเองต่อ รอจนกระทั่งตอนกลางคืนเฉิงเทียนหยวนกลับมาจึงได้พักผ่อน

อาหารค่ำเขาทำบะหมี่ชามโตสองชามแล้วแบ่งให้เธอชามหนึ่ง

เซวียหลิงกินอาหารไม่มาก เมื่อเธอเห็นดังนั้นก็ได้ทำสีหน้าขมขื่น "มันเยอะแยะขนาดนี้ฉันจะทานเข้าไปหมดได้ยังไงคะ"

เฉิงเทียนหยวนไม่ได้เงยหน้าขึ้น เขาใช้ตะเกียบของตนเคาะลงไปบนชามใหญ่ของเธอ

"เธอผอมเหลือเกิน กินให้เยอะๆ กว่านี้"

เซวียหลิงพยายามกินหมดไปจนกว่าครึ่ง ส่วนที่เหลืออยู่เธอยอมรับว่ากินไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

ดูเหมือนว่าเฉิงเทียนหยวนจะหิวมาก ดังนั้นเขาจึงเอื้อมมือมารับบะหมี่ที่เธอกินเหลือไปกินอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นเดินถือจานชามตะเกียบเข้าไปล้าง

"ตอนกลางคืนฉันยังมีงานต้องทำอีกเล็กน้อย เธอปิดประตูบ้านให้ดีแล้วรีบพักผ่อนนะครับ"

เซวียหลิงมองไปทางร่างของเขาที่ยืดหลังตรงอย่างผ่าเผย เธออดไม่ได้ที่จะถามคำถามซึ่งอยู่ในใจของเธอขึ้น

"นาย......จะไปทำงานเสริมตอนกลางคืนที่ไหนกันคะ นายจะทำอะไร?"

เฉิงเทียนหยวนล้างจานชามของตนแล้วอธิบายว่า "ฉันยังไม่แน่ใจว่าที่ไหน แต่เป็นงานพวกยกของขึ้นรถ แม้ว่างานที่ต้องใช้แรงอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ก็ได้เงินอย่างแน่นอน"

สหกรณ์ร้านค้าเปิดทำการกลางวัน ตอนเย็นถึงกระทั่งเวลาเข้านอนยังมีเวลาหลายชั่วโมง เขาไม่อยากจะสูญเสียมันไปเปล่าๆ

ครอบครัวเขาไม่ได้มีเงิน หากสามารถหารายได้เพิ่มสักเล็กน้อย อย่างไรก็เป็นเงิน

"งานใช้แรงทั้งเหนื่อยและสกปรก อีกทั้งยังต้องคอยเอาอกเอาใจพวกเจ้าถิ่นก็จริง แต่ได้เงินมาห้าหกหยวน เพียงพอที่จะกินจะดื่มกันตั้งหลายวัน ตอนนี้ฉันยังอายุน้อย มีเรี่ยวแรงวังชามากมาย หากว่าขยันสักหน่อยก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอดตาย"

เซวียหลิงได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้จะรู้สึกปวดใจ เธอกัดริมฝีปากของตนเอง ดวงตามองไปทางใบหน้าของเขาอันหล่อเหลาเป็นประกาย

"พี่หยวนคะ ก่อนหน้านี้เพิ่งจะขายที่ไป ตอนนี้คงยังมีเงินเหลืออยู่บ้างเล็กน้อยใช่ไหม ไม่จำเป็นต้องพยายามขนาดนั้นหรอกนะคะ"

เฉิงเทียนหยวนชะงักลงเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

"วางใจเถอะครับ ฉันไม่ได้เหนื่อยสักหน่อย ที่ฉันเอาเงินเธอมาห้าร้อยหยวน โดยมากแล้วก็เอาไปใช้หนี้ โชคดีที่ใช้หนี้จนหมดสิ้นทั้งยังเหลือเล็กน้อยเป็นค่ารักษาพยาบาลของพ่อ"

เซวียหลิงนึกถึงแขนของพ่อสามีข้างนั้นขึ้นมา เธอก็รู้สึกผิดมาก

"แขนของพ่อเราบาดเจ็บมาตั้งหลายปีแล้ว จะให้เขารักษาที่โรงพยาบาลชนบทแบบนั้นต่อไปไม่ได้ เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันอ่านหนังสือพิมพ์และในนั้นได้พูดถึงโรงพยาบาลใหญ่ที่อำเภอเขาบอกว่ามีแขนเทียมและขาเทียม พวกเราลองไปสอบถามดูดีไหมคะ หากว่าใส่แขนเทียมไปแล้วบางทีเขาอาจจะหยิบจับอะไรสะดวกหรืออาจจะทำงานได้"

หากไม่ใช่เพราะเป็นการเข้าไปช่วยเหลือพ่อของเธอ แขนของพ่อสามีก็คงจะไม่ได้รับบาดเจ็บตลอดหลายปีมานี้

เธอรู้สึกปวดใจแทนท่าน และต้องการปัดเป่าบรรเทาความเจ็บปวดที่มีให้สักเล็กน้อย

เฉิงเทียนหยวนคิดไม่ถึงถึงเรื่องราวเหล่านี้ เขาเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า "จริงเหรอครับ ที่อำเภอเหรอ? เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะลองไปถาม"

เซวียหลิงพยักหน้า เธอไม่กล้าอธิบายว่าแขนขาเทียมเหล่านั้นมีค่าใช้จ่ายหลายพันหยวนทีเดียว เธอพูดเพียงว่า "พวกเรารีบเก็บเงินเข้าเถอะค่ะ แล้วผ่านไปสักพักจะได้พาคุณพ่อของเราไปหาหมอที่อำเภอ"

เฉิงเทียนหยวน หันใบหน้าของเขาไปด้านข้าง คิ้วของเขาแฝงด้วยความอบอุ่น

"ตกลงครับ"

เขาทำการล้างจานว่องไวกว่าเดิม มุมปากอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้น เขาชอบที่จะได้ยินเธอเรียกว่าพ่อของเรา ฟังไปรู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน

คืนนั้น เซวียหลิงนั่งแปลหนังสืออยู่จนกระทั่งห้าทุ่มครึ่ง กระทั่งเธอก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากทางข้างนอก จึงได้ลุกขึ้นยืนแล้วพบร่างอันคุ้นเคยเปิดประตูเข้ามา จากนั้นเธอจึงปิดไฟแล้วนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า

เช้าตรู่ในวันต่อมา เฉิงเทียนหยวนตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารเช้า เขาทำปาท่องโก๋ และยังมีข้าวต้มอีกสองชามใหญ่

เซวียหลิงกินด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม

เฉิงเทียนหยวนยิ้มขึ้นแล้วเคาะไปที่ชามข้าวของเธอว่า "รีบกินข้าวเถอะครับ เดี๋ยวจะต้องเดินทางไปทำงานอีก ช่วยอดทนสักหน่อยนะ รออีกสักครึ่งเดือนเมื่อเงินเดือนฉันออกแล้ว เราค่อยไปซื้อจักรยานมือสองมาสักคัน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง