ลูกเขยมังกร นิยาย บท 912

เมื่อได้ยินอย่างนั้นSouthcoถึงได้ค่อยบอกกับเขาว่าที่จริงแล้วเป็นเพราะว่าคุณแม่ที่อยู่ฝั่งยุโรปของLeonaล้มป่วย เธอเกิดความกังวลใจ จึงได้บินกลับยุโรปเหนือไปแล้ว

เฉินเฟิงที่นึกคิดก็พลันรู้สึกเสียดายขึ้น ตอนนั้นเพราะคลาดไปเพียงนิดเดียว ไม่อย่างนั้นก็คงจะได้ตีสนิทกับเธอให้มากกว่านี้

ในเมื่อจากไปแล้ว เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปอาลัยอาวรณ์มากนัก ถ้าหากคราวหน้า Leonaได้กลับมายังหวาเซี่ยอีกครั้ง เขาจะไม่มีทางปล่อยผู้หญิงทรงเสน่ห์คนนี้ไปอีกครั้งแน่นอน

จากนั้นเขาจึงกลับมายังหุบเขาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บอีกครั้ง ถึงแม้ว่าตอนนี้บาดแผลบนร่างกายจะดีขึ้นมากแล้ว แต่เฉินเฟิงก็พู่กันไม่อยากจะจากที่นี่ไป เพียงเพราะว่าอยู่ที่นี่ทำให้เขาเหมือนได้รับรู้ถึงความสงบเป็นอย่างมาก

รวมทั้งจิตวิญญาณเองก็รู้สึกสงบตามไปด้วย

แต่ว่าเสี่ยวเย่มักจะมาทำเสียงดังกุ๊กๆ กั๊กๆ ข้างหูเขาอยู่ตลอด

“คุณชายเฉิน คุณรู้หรือเปล่าคะ?เด็กสาวในหมู่บ้านของเราต่างก็พากันแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ฉันกลับไม่มีแม่สื่อมาหาบ้างเลย ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ คุณว่าคนพวกนั้นไม่ชอบฉันใช่หรือเปล่าคะ”

เฉินเฟิงที่เพิ่งจะหลับตาเพื่อทำสมาธิ แต่กลับถูกเสี่ยวเย่รบกวนเสียแล้ว

“ถ้าคุณลองพูดให้น้อยลงหน่อย ผมว่าเหล่าแม่สื่อก็คงจะเพิ่มขึ้นมาเอง ถึงขนาดที่ธรณีประตูบ้านคุณอาจถูกเหยียบจนพังไปเลยก็ว่าได้ ” เฉินเฟิงตอบกลับด้วยความกระแนะกระแหน

แต่เสี่ยวเย่กลับเหมือนจะฟังไม่เข้าใจความหมายแฝงของคำพูดนั้น จึงตอบกลับด้วยความใสซื่อ: “ฉันไม่อยากให้แม่สื่อทำธรณีประตูพังหรอกนะคะ ปีที่แล้วพ่อเพิ่งจะเปลี่ยนบานประตูบ้านไปเอง ถ้าเกิดว่าพังขึ้นมาจริงๆ คงต้องลำบากพ่อมากแน่เลย ”

เฉินเฟิงจ้องมองเธอพลางคิดในใจ: “แล้วประเด็นสำคัญคือธรณีประตูบ้านคุณหรือไง?ประเด็นสำคัญคือคุณพูดมากเกินไปเข้าใจไหม”

ทว่าเสี่ยวเย่กลับมองไม่เห็นสายตาขุ่นเคืองนั้นของเฉินเฟิง

พลางกำลังจะพูดต่อ แต่ในขณะนั้นเองรถปอร์เช่911รุ่นเก่าของไป๋ซิงก็ได้มาจอดยังบริเวณลานอีกครั้ง

เฉินเฟิงเกิดอารมณ์ฉุนขึ้นมาพลางไล่เสี่ยวเย่: “ไป ไม่เห็นหรอว่ามีคนมา รีบไปรินชามาให้แขกเร็วเข้า ”

เสี่ยวเย่เดินเข้าไปในห้องครัวอย่างเชื่อฟัง

แต่คนที่เดินลงมาจากรถกลับไม่ใช่ไป๋ซิงเพียงคนเดียว ยังมีชายชราสูงอายุคนหนึ่งเดินลงมาด้วย เขามีใบหน้าที่เหี่ยวย่น พร้อมกับผมที่ขาวทั้งหัว

ในตอนที่เขาเดินลงมาจากรถ ไป๋ซิงยังเข้าไปช่วยประคองเขา จากนั้นจึงประคองเขาเดินมายังทางเฉินเฟิงทีละก้าวอย่างช้าๆ

เฉินเฟิงที่เห็นอย่างนั้นก็พอจะรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายทันที เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าการที่ไป๋ซิงพาเขามาที่นี่มีความต้องการอะไร

“คุณคือ?” ถึงจะพอเดาได้แต่เฉินเฟิงยังคงถามออกไป

“ผมคือไป๋จิ้งเฟิง ตอนนี้เป็นหัวหน้าครอบครัวของตระกูลไป๋ ”

ปรากฏว่าเป็นตามที่เฉินเฟิงได้คาดเอาไว้จริงๆ เขาคนนี้ก็คือคุณพ่อของไป๋ซิงและไป๋ซู

เฉินเฟิงหันไปมองไป๋ซิง ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยคำถามว่าทำไม แต่ไป๋ซิงกลับแสดงท่าทีว่ามองไม่เห็นกลับมาแทน

ซึ่งในตอนนั้นเองไป๋จิ้งเฟิงก็ได้นั่งลงยังที่นั่งตรงข้ามเฉินเฟิง โดยเสี่ยวเย่ก็เดินถือถ้วยชาหลายใบออกมาจากด้านใน

“คุณชายเฉินพักอยู่ที่นี่เงียบสงบดีหรือไม่ ถ้าหากว่าตรงไหนที่ให้การดูแลไม่ทั่วถึง ก็ต้องขอคุณชายเฉินให้อภัยด้วย และหากมีเรื่องอะไรสั่งการให้ไป๋ซิงเจ้าเด็กคนนี้ไปจัดการให้ก็พอแล้ว ” ไป๋จิ้งเฟิงพูดอย่างสุภาพ

เฉินเฟิงพยักหน้ารับพร้อมตอบกลับ: “ทุกอย่างดีแล้วครับ ไม่ได้มีจุดไหนที่รู้สึกไม่สบายหรอกครับ”

ไป๋จิ้งเฟิงตอบรับ: “อย่างนั้นก็ดีแล้ว”

เสี่ยวเย่วางชาลงตรงหน้าของไป๋จิ้งเฟิงและไป๋ซิง จากนั้นจึงหันไปแอบส่งยิ้มให้กับเฉินเฟิง ก่อนจะออกมาจากตรงนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร