ลูกเขยมังกร นิยาย บท 918

แต่ว่าเฉินเฟิงกลับไม่มีทีท่าว่าจะยอมวางเสี่ยวเย่ลงเลย ทั้งยังยิ้มให้กับเสี่ยวเย่ด้วยรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์  : “อย่างนั้นคุณก็พูดมาว่าจะยกโทษให้ผมหรือเปล่า ”

ตอนนี้พวกเขาทั้งสองยังคงอยู่บนถนนใหญ่ มีผู้คนเดินอยู่รอบๆ อย่างไม่ขาดสาย จึงทำให้มีผู้คนคอยเหลียวหันมามองยังพวกเขาอยู่ตลอด

เสี่ยวเย่มีหรือจะทนรับสถานการณ์แบบนี้ได้ สายตาที่มองมายังพวกเขาเป็นเหมือนดั่งเข็มที่ทิ่มแทงลงไปบนร่างกายของเธอ แต่ถึงอย่างไรในใจของเธอยังคงโกรธเคืองเฉินเฟิงอยู่ ดังนั้นจึงไม่ยอมที่จะพูดคำว่ายกโทษให้เขาออกมา

“อย่างนั้นผมก็จะอุ้มคุณกลับไปทั้งอย่างนี้แหละ” เมื่อมองดูเสี่ยวเย่กำลังลังเลอยู่ตรงนั้น เฉินเฟิงจึงอุ้มเธอเดินก้าวไปข้างหน้าหลายก้าว เพื่อต้องการที่จะบังคับให้เธอยอมจำนน

“ไม่เอาค่ะ” เสี่ยวเย่พึมพำ: “คุณวางฉันลงเถอะนะคะ”

“อย่างนั้นคุณจะยกโทษให้ผมหรือเปล่า?หากผมวางคุณลง คุณจะต้องยกโทษให้ผม”

ตอนนี้ใบหน้าของเสี่ยวเย่นั้นแดงจนกลายเป็นลูกแอปเปิลไปแล้ว และเมื่อเฉินเฟิงกล่าวถามย้ำอีกครั้ง เธอจึงได้เพียงแค่ยอมจำนนเท่านั้น

“คุณวางฉันลงก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เสี่ยวเย่พูดด้วยเสียงเบาๆ

“แต่ผมกลัวว่าคุณจะเปลี่ยนใจ”

“ฉันยกโทษให้คุณก็สิ้นเรื่องแล้ว คุณรีบวางฉันลงได้เถอะค่ะ มีคนมองมาเยอะมากแล้ว ”

เฉินเฟิงเหลียวหันไปมองรอบๆ ก็เห็นว่ากำลังมีสายตาจับจ้องมาที่พวกเขาอยู่จริงๆ

“พวกเขาอยากมองก็ให้พวกเขามองไป ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร ”

เสี่ยวเย่ทนรับสายตาแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไปจึงต้องร้องขอความเมตตา: “คุณชายเฉิน ฉันขอร้องล่ะ คุณวางฉันลงเถอะนะคะ ฉันสัญญาว่าจะไม่โกรธคุณแน่นอน”

ทางด้านเฉินเฟิงก็รู้ดีว่าไม่สามารถเล่นแบบนี้ต่อไปได้อีก ดังนั้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมเขาจึงไม่ลังเลที่จะรับคำขอนั้น

เขาวางขาของเสี่ยวเย่ลงก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ให้เธอยืนกับพื้น

แต่อย่างว่านิสัยของผู้หญิงมักจะกลับกลอกไปมา พอทันทีที่เสี่ยวเย่ยืนบนพื้นได้อย่างมั่นคง เธอก็หันหน้าหนีและไม่สนใจเฉินเฟิงอีกครั้ง

“คุณสัญญากับผมแล้วนะ ว่าจะไม่โกรธผมแล้ว” เฉินเฟิงแย้งขึ้นมา

“คุณชายเฉินนิสัยไม่ดี”

เสี่ยวเย่เบ้ปากด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ

“เอาน่ะ ผมสำนึกผิดแล้ว จากนี้ไปจะไม่ล้อเล่นอะไรแบบนี้กับเสี่ยวเย่อีก ”

เสี่ยวเย่ไม่สนใจเฉินเฟิงอะไรทั้งสิ้น พร้อมกับเดินไปยังทางป้ายรถเมลเพียงลำพัง

เฉินเฟิงเห็นอย่างนั้นจึงรีบตามไป โดยไม่พูดอะไรเช่นกันพร้อมกับเดินเคียงข้างเสี่ยวเย่ไปอย่างนั้น

กระทั่งทั้งสองขึ้นไปบนรถเมล เฉินเฟิงก็ยังคงนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น ไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ

ในขณะที่เสี่ยวเย่นั่งลงอยู่บนเก้าอี้ เฉินเฟิงก็จะคอยยืนอยู่ข้างๆ และไม่สนใจเก้าอี้ตัวอื่นที่ว่างอยู่เลยแม้แต่น้อย

เสี่ยวเย่จ้องมองไปยังเฉินเฟิงด้วยความขุ่นเคือง ภายในจิตใจก็อยากจะถามเฉินเฟิงว่าเขากำลังทำอะไร แต่ก็รู้ดีว่าหากเธอเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อนก็จะตกหลุมกับดักของเฉินเฟิงทันที ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะไม่พูดออกมา

แต่หลังจากที่รถเมลขับผ่านไปแล้วสี่ห้าป้ายรถ ในที่สุดเสี่ยวเย่ก็ไม่อาจอัดอั้นความรู้สึกได้อีกต่อไป : “คุณชายเฉิน ทำไมคุณถึงต้องทำอย่างนี้ด้วย ”

เฉินเฟิงถามกลับอย่างอ่อนโยน: “ผมทำอะไร?”

“หื้ม!” เสี่ยวเย่อุทานออกมาเพียงคำเดียว จากนั้นก็ไม่คิดจะให้คำอธิบายที่ชัดเจนให้กับเฉินเฟิงอีก

เมื่อนั่งรถมาจนถึงป้ายสุดท้าย บนรถตอนนี้ก็เหลือเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น หลังจากลงมาจากรถพวกเขายังต้องเดินขึ้นเขาไปอีกสักระยะ

และตรงบริเวณเชิงเขาก็เป็นหมู่บ้านของเสี่ยวเย่ ซึ่งตัวเธออยากจะเชิญชวนเฉินเฟิงให้เข้าไปดูเสียหน่อย แต่เมื่อยืนอยู่ตรงนั้นเธอกลับไม่รู้ว่าควรจะเปิดปากพูดอย่างไรดี

ส่วนเฉินเฟิงก็ได้เพียงยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่พูดอะไรเช่นกัน

เสี่ยวเย่เปิดปากพูดด้วยเสียงเบาๆ : “คุณชายเฉิน!”

“อืม!” เฉินเฟิงตอบกลับ

“ฉันไม่โกรธคุณแล้ว”

“จริงหรอ?”

“อืม”

“ผมรู้อยู่แล้วว่าเสี่ยวเย่หน่ะดีที่สุด” เฉินเฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร