ลิขิตรัก ในกรงแค้น นิยาย บท 71

“ลุงคะ ลุงดินคะ พริมเองค่ะ” ร่างอวบตะโกนเรียกเจ้าของบ้านอย่างสนิทชิดเชื้อ หากแต่ภายในบ้านกลับเงียบสนิท หญิงสาวเลื่อนสายตามองไปตามตัวบ้าน พบว่าประตูเปิดอ้าค้างอยู่ ก่อนสัมผัสถึงความสงบเงียบ เย็นวาบจนร่างอวบรู้สึกผิดปกติ เธอพยายามเรียกอยู่หลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบรับออกมา จึงถือวิสาสะเดินเข้าไปหานายดิน สองเท้าค่อยๆ ก้าวเข้ามาภายในตัวบ้าน สายตากวาดมองหานายดินด้วยความหวัง เพียงครู่เดียวเท่านั้น

“กรี๊ดดดดดดด” หญิงร่างอวบกรีดร้องด้วยความตกใจถึงที่สุด กับภาพสยองตรงหน้า เมื่อสายตาพาดไปพบกับร่างของชรานอนนิ่งจมกองเลือด สองมือยกขึ้นมาปิดตาตัวเอง แล้วหันหลังวิ่งออกไปหาทีภพด้วยความกลัวสุดขีด พร้อมกับอาการตัวสั่นระริก

“คุณ เป็นอะไร” ชายหนุ่มกอดรับร่างเธอไว้ พลางขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย ก่อนค่อยๆ แงะมือบางออกจากแขนของเขา หญิงสาวชี้มืออันสั่นเทาเข้าไปในบ้าน เธอมองด้วยแววตาหวาดกลัว

“พ่อทิชานอนจมกองเลือดอยู่ในนั้น คุณทีช่วยพ่อทิชาด้วย” ทีภพรีบวิ่งเข้าไปภายในตัวบ้านทันที ส่วนหญิงร่างอวบยืนร้องไห้ตัวสั่นอยู่ด้านนอก ไม่กล้าย่างกายเข้ามาดูภาพอันโหดร้ายนั้นอีก ทีภพวิ่งเข้ามาถึงร่างของชายชราเขาจึงยกมือถือโทรหารถกู้ชีพทันที ใช้เวลาเพียงครู่เดียว ร่างของชายชราถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในเวลานั้น พริมยังคงมีอาการช็อกมือไม้เย็นเฉียบมีอาการเหม่อลอยพูดไม่รู้เรื่อง

“พริม” ชายหนุ่มเขย่าตัวของหญิงสาวเมื่อเธอเผลอลืมสติ ดวงตาเลื่อนลอยไร้จุดหมาย

“พริม ได้ยินผมไหม มีสติหน่อยสิ” ทีภพลองพยายามเขย่าเรียกสติเธอ ด้วยอาการกระวนกระวายใจ

“ถ้าทิชารู้ ทิชาจะเป็นอย่างไรคะ” พริมเลื่อนสายตากลับเข้ามาจับจ้องชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนที่น้ำตาซึมทะลักออกมา ทีภพดึงเธอเข้ามาสวมกอดอย่างแนบแน่น เขาเข้าใจอาการช็อกของหญิงสาว เพราะแม้แต่เขาเองยังแทบคุมสติไม่อยู่กับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า

“คุณมองหน้าผม ผมชื่ออะไร เป็นอะไรกับคุณ” เขาทดสอบอาการของหญิงสาวด้วยความกังวล

“คุณที เป็นเจ้านายพริมค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยดวงตาเลื่อนลอย พร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้ม คำตอบของเธอทำให้เขาเริ่มมีรอยยิ้ม

“คุณอย่าทำแบบนี้สิ มีสติหน่อย ผมใจคอไม่ดีเลย คิดว่าต้องพาคุณไปพบจิตแพทย์” ทีภพถอนหายใจออกมายาวเหยียด ก่อนจะมองหน้าพริมอย่างโล่งใจ

เมื่อร่างของชายชราถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล ทีภพจำใจโทรบอกข่าวร้ายนี้ให้แก่นันทิชาและทุกๆ คนทราบ โดยเร็วที่สุด จากนั้นรีบพาพริมกลับบ้านไปเพื่อนสงบสติจิตใจ

“แทนคะ คุณจะไม่ไปดูอาการของพ่อทิชาหน่อยหรือคะ อย่างน้อยทิชาก็เป็นลูกจ้างของคุณนะ” หลังจากทั้งคู่ทราบข่าวจากทีภพ เสียงม่านฟ้าเตือนสติว่าที่คู่หมั้นอย่างใจร้อน แทนคุณกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับข่าวร้ายที่ได้รับ ดวงตานิ่งเรียบคาดเดาไม่ถูก

“ผมจะช่วยอะไรเด็กนั่นได้” การที่นายดินเข้าโรงพยาบาลนับว่าเป็นข่าวดี เขาจะได้เห็นศัตรูทุกข์ทรมาน จะได้เห็นความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส และควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตอกย้ำและทับถมชายชรา นี่คือสิ่งที่แทนคุณต้องการมาตลอด หากแต่ตอนนี้กลับมีบางอย่างทำให้เขารู้สึกลังเล อยากสะใจหัวเราะออกมาดังๆ แต่กลับทำไมได้ เพราะหน้าของนันทิชาลอยมาประทับอยู่ในสมอง ไฟในอกตอนนี้ประท้วงกันเองจนปั่นป่วน ไม่สามารถตัดสินใจทำอะไรได้ เพียงเพราะกำลังห่วงความรู้สึกใครบางคนอย่างนั้นหรือ นี่มันความรู้สึกบ้าอะไรกันแน่

“แทน” เสียงม่านฟ้าเรียกขึ้นอีกครั้งระหว่างที่เขาขับรถอยู่ แทนคุณหันมองหน้าหญิงสาวครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองถนนต่อด้วยแววตาไร้ความรู้สึก

“คุณไม่คิดจะไปโรงพยาบาลจริงๆ หรือคะ เธอเป็นลูกน้องคุณนะ ที่สำคัญเธอพักอยู่บ้านคุณด้วย อย่างน้อยคุณควรจะรู้ว่าพ่อเธอไปรักษาตัวที่ไหน เพื่อที่จะได้ไปเยี่ยมตามมารยาท” ม่านฟ้าไม่เห็นด้วยหากแทนคุณจะแล้งน้ำใจกับพนักงานในปกครองของตน

“ช่างเถอะม่าน ไม่เกี่ยวกับผม มันเป็นเรื่องในครอบครัวของเธอ ถ้าเธออยากให้ผมช่วย ป่านนี้คงโทรมาขอร้องผมนานแล้ว คุณไม่เห็นหรือม่าน ว่ามือถือผมเงียบสนิทขนาดนี้” แทนคุณให้เหตุผล ราวกับว่าเขาไม่ได้สำคัญอะไรกับนันทิชาแม้สักนิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น