ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 224

หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เหลิ่งชิงฮวนก็ยังคงรู้สึปกปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว เธอรู้สึกขี้เกียจจะขยับตัว

มู่หรรงฉีอุ้มเธอออกไปที่ใต้เงาร่มไม้ในสวนด้านหลัง แล้ววางเธอลงเก้าอี้แขวนหวายเพื่อให้เธอได้รับลมเย็นๆที่พัดผ่านมา พร้อมทั้งกินองุ่นและผลไม้ที่เพิ่งเก็บมาจากภูเขาไปด้วย

ผลไม้ล้วนถูกล้างด้วยน้ำแร่เย็นๆจากภูเขา เธอโยนผลไม้เข้าไปในปาก เนื้อผลไม้นั้นชุ่มฉ่ำ

ผมของเธอไม่ได้ถูกรวบเอาไว้และถูกปล่อยให่สยายยาวระบ่าลงมาปรกลงบริเวณลำคอเล็กน้อย ดวงตาที่สุกใสราวกับดวงดาวของเธอปรือลงมองไปยังแสงแดดที่ส่องผ่านร่มไม้ลงจนตกลงมากระทบบนใบหน้าของเธอ เป็นบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกขี้เกียจอย่างบอกไม่ถูก

มู่หรงฉีแขวนม้วนกระดาษม้วนหนึ่งลงที่ข้างหน้าต่าง เขามองพินิจมองดูเค้าโครงใบหน้าของเธอและรวมถึงกระโปรงที่ยาวระพื้นของเธอด้วย เท้าเรียวยาวดุจหยกของเธอโผล่ออกมาให้เห็นผ่านเก้าอี้หวายแขวนตัวนั้นอย่างวับๆแวมๆ

เหลิ่งชิงฮวนหันไปโบกมือให้เขา “ท่านกำลังทำอะไรอยู่น่ะ”

มู่หรงฉียิ้มออกมาเล็กน้อย เขานำรูปเหมือนที่ยังไม่แห้งดีนั้นให้เธอดู

เหลิ่งชิงฮวนหรี่ตาลงเพื่อให้มองเห็นรูปภาพที่อยู่ในมือของเขาให้ชัด เธอลงมาจากเก้าอี้หวายทันทีแล้วลากรองเท้าเท้าเข้าไปจ้องมองอย่างละเอียด

“กลับไปหม่อมฉันจะให้คนไปสั่งทำกรอบแล้วแขวนไว้ในห้อง รอพวกเรามีลูกหลานเต็มบ้านแล้วจะได้ให้พวกแกได้เห็นว่าบรรพบุรุษของพวกเขานั้นเป็นอย่างไร”

หญิงสาวที่นั้นอยู่บนเก้าอี้หวายแขวนในรูปนั้นมีผมยาวสีดำสนิทสองข้าง อีกทั้งยังมีหูที่มีขนนุ่มฟูและกำลังบิดสะโพกเผยให้เห็นหางอันสวยงาม

เหลิ่งชิงฮวนรู้มึกโมโหขึ้นทันที “ท่าสิที่เป็นกระต่าย”

ตระกูลท่านเป็นกระต่ายกันทั้งหมดนั่นแหลละ

มู่หรงฉีหัวเราะออกมาเสียงดัง “ได้สิ เจ้าเป็นกระต่ายตัวเมีย ข้าเป็นกระต่ายตัวผู้ ลูกชายของเราในอนาคตก็เป็นลูกกระต่าย”

คำว่า ลูกชายของเรา สี่คำนี้ถูกเอ่ยออกมาอย่างกะทันหันและคุ้นชิน

เหลิ่งชิงฮวนกระพริบตาปริบๆ เธอยกพู่กันขึ้น “งั้นก็ควรที่จะเขียนยศของท่านอ๋องฉีเติมเข้าไปด้วยสิเพคะ หม่อมฉันจะวาดภาพครอบครัวให้กับท่าน”

“เจ้าวาดภาพเป็นหรือ”

คนที่วาดภาพเต่าแล้วยังโกงอย่างเธอ

มู่หรงฉีมองอย่างสำรวจแต่ก็ถูกเธอยกมือเข้ามาขวางเอาไว้ “ไปทางนั้นเพคะ ออกไปให้ไกลเลย”

เธอสะบัดพู่กันอยู่ไม่กี่ครั้งก็เสร็จแล้ว เธอวางพู่กันลงแล้วยกชายกระโปรงขึ้นจากนั้นวิ่งออกไปด้านนอกดูแล้วเหมือนกับกระต่ายเป็นอย่างมาก

มู่หรงฉีชะโงกศีรษะไปมองภาพวาดนั้น ปลายนิ้วเรียวของเหลิ่งชิงฮวนที่เคยถือองุ่นลูกกลมๆนั่น เธออ้าปากขึ้นเล็กน้อยและคีบมันไว้ในมือเตรียมที่จะส่งมันเข้าไปในปาก ในเวลานี้ถูกเธอวาดเพิ่มลงไปเติมลูกตาเล็กๆราวกับเม็ดถั่วเขียว ปากนั้นก็อ้ากว้าง วาดออกมาเป็นหัวกลมๆของเต่าตัวกลม จากนั้นลำคอก็ถูกหิ้วเอาไว้ อุ้งเท้าทั้งสี่นั้นปัดป่ายไปมาอย่างสะเปสะปะ กระดองเต่านั้นดูเกินจริงจนดูเหมือนเกล็ด

เขารู้สึกได้ว่าเต่าตัวนี้ถูกเหลิ่งชิงฮวนบีบเอาไว้ในมือ ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความกลัวและพยายามอย่างมากที่จะหนีไปจากความน่ากลัวนี้

ภาพนี้ถูกเติมแต่งเข้าไปเพียงนิดหน่อย บรรยากาศของภาพก็เปลี่ยนไปในทันที จากภาพที่เคยเป็นกระต่ายสาวแสนน่ารักกลับกลายเป็นปีศาจแสนน่ากลัวที่กินเด็ก

มู่หรงฉีคิดว่าตนเองนั้นได้ประเมินผู้หญิงคนนี้สูงไปหน่อย นอกวาดภาพเต่าอัปลักษณ์แล้วเธอยังจะสามารถวาดรูปอะไรอกอมาได้กัน

ถ้าภาพครอบครัวนี้ถูกเอาไปใส่กรอบจริง เฮ้อ ชื่อเสียงฉีอ๋องของเขาคงไม่เหลือแล้ว

พักผ่อนไปจนถึงช่วงบ่าย แสงแดดดนั้นไม่ได้แรงอีกแล้ว

ในที่สุดเหลิ่งชิงฮวนก็ได้เติมพลังจนเต็ม มู่หรงฉีพาเธอไปเดินเล่นที่บริวเณใกล้ๆ

ความร้อนที่มีอยู่บนภูเขานั้นได้เบาบางลงไปแล้ว ที่บริเวณโดยรอบนั้นก็ถูกบดบังด้วยเงาของต้นไม้ ไม่ใช่ภาพทิวทัศน์ที่สวยเท่าไรนักแต่ว่ามีคนอยู่เป็นเพื่อนกันแบบนี้เรื่องทิวทัศน์รอบตัวนั้นก็ช่างมันเถอะ

ดอกไม้ป่า ต้นหญ้าสีเขียว แม่น้ำลำธารอีกทั้งยังมีนกบินให้เห็นบ้าง ในลำธารนั้นมีปลาตัวเล็กๆซ่อนอยู่ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นความเพลิดเพลินของทั้งสองคน

เหลิ่งชิงฮวนเดินไปหยุดไป เธอเหนื่อยจนอ้อนให้มู่หรงฉีอุ้ม เธอถูกเขาเอาเอกเอาใจจนราวกับเด็กน้อย สีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสุข

คนทั้งสองจูงมือกัน สนุกสนานด้วยกัน กอดกัน จูบกัน ทั้งสองคนทำเรื่องที่ตัวเองอยากจะทำอย่างตามอำเภอใจ

เหลิ่งชิงฮวนคิดว่าทั้งการเป็นผู้เป็นใหญ่ในใต้หล้าอะไรนั่น การเป็นขุนนางระดับสูง การเป็นชนชั้นสูง หรือการมีทรัพย์สมบัติมากมายอะไรพวกนั้นมีอะไรที่ดีไปกว่าการได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระแบบนี้กันนะ?

ชีวิตเมื่อชาติก่อนของเธอนั้นยุ่งมาก ชีวิตในชาตินี้ก็ธรรมดาเกินไป ในวันนี้เธอโยนทั้งสองสิ่งนั้นทิ้งไป ภาพทิวทัศน์อันสวยงามอยู่ตรงหน้า คนรักของเธอก็อยู่ข้างกาย ในที่สุดเธอก็ได้พักผ่อน

เหนื่อยแล้ว มู่หรงฉีก็อุ้มเธอลงไปนั่งบนโขคหินด้านข้าง เธอเหน็บชายเสื้อไว้ที่ข้างเอวแล้วเลิกขากางเกงขึ้นแล้วลงไปในน้ำเพื่อสัมผัสปลา บางครั้งพวกมันก็กระโดดขึ้นมาโผล่พ้นผิวน้ำแล้วหันหน้ามายิ้มให้กับเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา