องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 520

พระพันปีเหลือบมองไห่กงกง จากนั้นไห่กงกงจึงโบกมือไล่จนทุกคนออกไปหมด

ตอนนี้เองฉีเฟยอวิ๋นจึงบอกว่า “เสด็จแม่ กองสอดแนมเคยตรวจสอบชุนเหมยผู้นี้แล้วและบอกว่าไม่ใช่คนของจงชิน แต่ลูกคิดขึ้นมาได้ว่า ในเวลานี้ผู้ที่กำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อรับมือกับจวนอ๋องเย่ ทั้งยังคิดจะลงมือกับเด็กๆ โดยเฉพาะ และไม่ใช่การจัดการเป้าหมายอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา มีเพียงแค่ตระกูลเดียวเท่านั้น”

“หวังเฟิ่งอี๋รึ” พระพันปีช่างปราดเปรื่องเหลือเกิน อันที่จริงพระองค์รู้อยู่แล้วเมื่อตอนที่ถอนตัวออกมา

ฉีเฟยอวิ๋นนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “หวังเฟิ่งอี๋ตายแล้วนะเพคะเสด็จแม่ และคนในตระกูลของนางก็ตายไปหมดสิ้น แต่ใครเล่าจะมาแก้แค้นให้พวกเขาได้”

พระพันปีสงบพระทัยลงและทรงลุกขึ้นจากบัลลังก์หงส์ ฉีเฟยอวิ๋นรีบตรงเข้าไปประคองพระพันปี จากนั้นมารดาและลูกสะใภ้จึงเดินไปที่โถงห้องบรรทม ระหว่างนั้นพระพันปีทรงถามว่า “เจ้าสงสัยว่าต้ากั๋วจิ้วเป็นคนทำหรือ”

“อย่างที่กราบทูลเสด็จแม่ เรื่องนี้ยังไม่แน่ว่าจะเป็นฝีมือของท่านต้ากั๋วจิ้ว แต่ท่านต้ากั๋วจิ้วอาจจะมีความเกี่ยวข้องด้วย”

“นั่นก็จริง ใครบ้างไม่มีสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดผลอยู่ในจวน นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมจึงไม่เป็นไร ก็เพียงแค่เก็บไว้เพื่อให้ง่ายต่อการลงมือเมื่ออยู่ในความปกครอง”

“ลูกมิรู้เรื่องของจวนกั๋วจิ้วเพคะเสด็จแม่ ยังไม่กล้าจะด่วนสรุปด้วย แต่เกรงว่าเรื่องของจวนอ๋องเย่จะแยกออกจากจวนกั๋วจิ้วไม่ได้”

“...หวังเฟิ่งอี๋ แต่เขาไม่กล้าพอและไม่ได้มีความคิดเช่นนี้ เกรงว่าจะมีใครอื่นที่วางแผน ไปตรวจสอบตระกูลเฉาเสีย”

พระพันปีทรงให้แนวทาง ความจริงฉีเฟยอวิ๋นไม่ควรจะพูดอะไรอีก แต่จะให้นางยอมแพ้โดยไม่พูดอะไรนางก็ไม่อยาก

“เสด็จแม่... ถ้าท่านต้ากั๋วจิ้วเป็นคนทำล่ะเพคะ” ถ้าไม่ทำก็ไม่ทำแต่ถ้าทำก็ทำจนถึงที่สุด ฉีเฟยอวิ๋นถาม

พระพันปีทอดพระเนตรอย่างเย็นชา “นับวันเจ้ายิ่งหาญกล้าขึ้นเรื่อยๆ คิดไม่ถึงว่าจะคิดทำตัวเสมอข้า”

ฉีเฟยอวิ๋นรีบคุกเข่า “ลูกมิบังอาจ!"

พระพันปีทอดพระเนตร “ฮึ เจ้ายังจะมาไม่พอใจอีก ตอนนี้เจ้าเรียกลมก็ได้ลมเรียกฝนก็ได้ฝน ข้าคิดจะยอมให้เจ้าหมด แต่เจ้ายังไม่ยอมปล่อยข้า”

ฉีเฟยอวิ๋นไม่พูดอะไร พระพันปีจึงตรัสว่า “เจ้าคิดว่านี่เป็นฝีมือของต้ากั๋วจิ้ว นั่นไม่ได้หมายความว่าเสี่ยวกั๋วจิ้วรักษาหน้าให้ต้ากั๋วจิ้วหรอกหรือ เพียงแค่บอกเจ้าว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเครือญาติก็ถือเป็นการเตือนเจ้าแล้วหรือ”

ฉีเฟยอวิ๋นไม่กล้าเงยหน้ามองพระพักตร์ที่มีท่าทีเหยียดหยามของพระพันปี นางเอ่ยว่า “ท่านต้ากั๋วจิ้วเกลียดที่ฝ่าบาททรงไม่โปรดปรานพระสนมเต๋อเฟย เงินแปดล้านตำลึงที่ฝ่าบาทระดมมาและควรใช้ไปบรรเทาทุกข์พื้นที่ประสบภัยพิบัติฝูงตั๊กแตนทางตอนใต้ กลับให้ท่านต้ากั๋วจิ้วใช้ประโยชน์จากฐานะในกรมการคลังมาระงับไว้ ประชาชนทางใต้จึงทั้งอดอยากและหนาวเหน็บ จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโรคห่า คนตายไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

เวลานี้ท่านต้ากั๋วจิ้วไม่เพียงแต่กำเริบเสิบสาน แต่เขายังทำร้ายเจ้าห้าเพราะเรื่องของเฉาเหวิน

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปลูกไม่ยอม ลูกยังต้องระดมเงินให้ท้องพระคลังของฝ่าบาท แล้วลูกควรจะทำอย่างไร

เดิมทีลูกไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายเรื่องนี้ แต่นี่มันเกี่ยวกับชีวิตบุตรของลูก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ดีเลย

เสด็จแม่ทรงปราดเปรื่อง เมืองต้าเหลียงของเราไม่มีการเก็บภาษีจากประชาชนจึงไม่มีเงินส่งเข้าไปในท้องพระคลัง ถ้าหากจับคนที่รีดนาทาเร้นจากประชาชนอย่างเฉาเหวินไม่ได้ จะทำให้ความโกรธของประชาชนสงบลงได้อย่างไร

แทบฝ่าพระบาทแห่งองค์จักรพรรดิ พวกเขายังกล้ากำเริบเสิบสานรวบรวมทรัพย์สินโดยมิชอบ ช่างเหิมเกริมเป็นอย่างยิ่ง

พวกเขากินอยู่อย่างฟุ้งเฟ้อหรูหราราวกับอยู่ในพระราชวัง ถามหน่อยเถิดเพคะว่าประชาชนจะคิดเช่นไร

ที่ที่เฉาเหวินอาศัยอยู่นั้นฟุ้งเฟ้อหรูหราเป็นอย่างมาก เขาไม่จงรักภักดี คนแถวนั้นรู้กันหมดว่ามีคนของรองเสนาบดีอาลักษณ์อยู่เป็นสิบๆ คนบนถนนสายนั้น แต่กลับไม่มีใครสักคนกล้าแจ้งความให้ผิดใจเขา

เมื่อถามดูจึงรู้ว่าพวกเขาเป็นคนจากจวนต้ากั๋วจิ้ว

ขอถามหน่อยเถิดเพคะ ต้ากั๋วจิ้วเป็นคนในตระกูลของเสด็จแม่ แล้วเช่นนี้ประชาชนจะมองเสด็จแม่อย่างไร

แม้ว่าเสด็จแม่จะไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วย แต่ในสายตาของประชาชนอย่างไรนั่นก็คือพระเกียรติของเสด็จแม่

ลูกสาวของอนุภรรยาคนหนึ่งในจวนกั๋วจิ้วแต่งงานกับรองเสนาบดีกรมพิธีการและให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคนซึ่งเหมือนกับรองเสนาบดีกรมพิธีการ และรองเสนาบดีกรมพิธีการผู้นี้ก็หยิ่งยโสและกำแหงอวดดีจนทำให้ทั้งถนนสายนี้มีใครกล้าแจ้งทางการ เป็นเพราะเหตุใดกันเล่าเพคะ”

สีพระพักตร์ของพระพันปีเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ พระองค์ทรงมองฉีเฟยอวิ๋นอย่างเหยียดหยามและกลับไปประทับนั่งบนบัลลังก์หงส์

ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวอีกว่า “เสด็จแม่ การที่ต้ากั๋วจิ้วสังหารซื่อจื่อและการที่เขาทำให้ฝ่าบาทตกพระทัยกลัวคืออาชญากรรมร้ายแรง การยึดเงินไว้คือปล้นฆ่า จนถึงบัดนี้ยังไม่มีการนำเงินออกมา ขอถามเพคะว่า... ขุนนางในราชสำนักจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร มันเป็นการเคารพต่อฝ่าบาทและต่อเสด็จแม่อย่างไรเพคะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ