ยามค่ำ
ครอบครัวหยุนหว่านหนิงสามคน ก็ทานอาหารเย็นที่ตระกูลกู้
หลังทานอาหารเย็นเสร็จ สาวรับใช้ก็ยกของว่างและน้ำชาเข้ามา
กู้หมิงมองดูหยวนเป่าที่อยู่ในอ้อมแขนของหยุนหว่านหนิง และไม่ยอมไปไหนนั้น และพูดอย่างเหมือนกำลงคิดอะไรอยู่ว่า "วันนี้หยวนเป่าผิดปกติไปเล็กน้อย "
"เขามีเรื่องหนักอกหนักใจ แต่กลับไม่ยอมบอกข้า"
"หนิงเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นเพราะอะไร?"
เมื่อคืนหยวนเป่าหลับไม่ดี วิตกกังวลอยู่ทั้งวัน ขณะนี้ได้หลับไปแล้ว
หยุนหว่านหนิงอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขน ตบแขนของเขาเบาๆกล่อมให้เขานอน
โม่เยว่ตอบแทนนาง และพูดถึงเรื่องที่หยวนเป่าหลับไม่ดีเพราะฝันร้ายในเมื่อคืนนี้
"ที่แท้เป็นเยี่ยงนี้นี่เอง"
กู้ป๋อจ้งพยักหน้า และเอื้อมมือไปจับเครา
กู้หมิงขมวดคิ้วพูดว่า "นี่ก็ถือเป็นปัญหาหนึ่งจริง! อีกไม่กี่เดือน หยวนเป่าก็สี่ขวบแล้ว พวกเจ้าจะปิดบังความเป็นอยู่ของเขาตลอด และไม่ให้ผู้ใดทราบเลยหรือไง? "
"ข้าว่านะ ควรให้ฝ่าบาทรู้เรื่องนี้"
"ถูกต้อง"
กู้ป๋อจ้งก็กล่าวว่า "ตัวตนที่แท้จริงของหยวนเป่านั้นพิเศษ หากให้ผู้ที่คิดไม่ดีรู้เข้า คงต้องมีอันตรายอย่างแน่นอน"
"ในฐานะพระนัดดาองต์โตของฝ่าบาท ไม่อาจปิดบังความเป็นอยู่ของเขาต่อฝ่าบาทได้"
"เพียงแต่ว่า……"
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง "ตอนนี้สถานการณ์ตึงเครียด ข้ากลัวว่าต่อให้ผู้คนรู้ถึงความเป็นอยู่ของหยวนเป่า ก็จะเป็นอันตรายเช่นกัน"
"ท่านตา ท่านลุง เหล่านี่คือสิ่งที่ทําให้ข้ากับท่านอ๋องลําบากใจ บอกหรือไม่บอก ล้วนมีปัญหา! แต่การปิดบังหรือแจ้งให้ทั่วใต้หล้าทราบ ล้วนมีประโยชน์ส่วนที่ดีเช่นกัน"
เมื่อเห็นว่าหยวนเป่าหลับไปแล้ว หยุนหว่านหนิงจึงค่อยเอ่ยอย่างเบาๆ
"ข้ากับท่านอ๋องก็อยากให้ท่านตาและท่านลุงช่วยพวกข้าตัดสินใจ!"
"ข้าเข้าใจความกังวลของพวกเจ้า"
กู้ป๋อจ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า "แต่พวกเจ้าต้องรู้ว่า ฝ่าบาทยังมิได้แต่งตั้งองค์รัชทายาท ตอนนี้บนพื้นผิวดูคลื่นสงัดลมสงบ แต่เบื้องหลังกลับเกิดกระแสคลื่นโหมซัดสาดนานแล้ว "
"นับตั้งแต่ที่ท่านอ๋องได้ครองค่ายเสินจีมา ก็ได้ตกอยู่ภายใต้การแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทแล้ว"
"ต่อให้พวกเจ้าอยากอยู่อย่างสงบไม่แย่งชิงกับผู้ใด ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงภัยพิบัตินี้ได้"
คําพูดของเขา หยุนหว่านหนิงและโม่เยว่จะเข้าใจได้อย่างไร?!
ทั้งสองมองหน้ากัน และเงียบไป
"ที่จริงข้ารู้สึกว่า ฝ่าบาทล้วนดีต่อท่านอ๋องและหนิงเอ๋อร์ หากให้ฝ่าบาทรู้ถึงความเป็นอยู่ของหยวนเป่า ก็มิใช่จะไม่ได้"
ในเวลานี้ กู้หมิงพูดอย่างอ่อนโยนว่า "แต่อย่างแรกคือ พวกเจ้าต้องลองสื่อความหมายของฝ่าบาทดูก่อน"
หยุนหว่านหนิงหันมองไป กู้หมิงทำท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอยู่
นางเข้าใจทันทีว่า "ความหมายของท่านลุงคือ ให้พวกข้าตรวจสอบทัศนคติของฝ่าบาทดูก่อน?"
"ฝ่าบาทคงต้องดีใจมากอย่างแน่นอน และอยากจะประกาศตัวตนที่แท้จริงของหยวนเป่าให้ทั่วใต้หล้าได้รู้ทันที สําหรับหยวนเป่าแล้ว ข้อดีและข้อเสียปะปนกันครึ่งๆ ไม่สามารถให้ข้อสรุปได้"
กู้หมิงอธิบายว่า "หากสามารถได้รับการคุ้มครองจากฝ่าบาท และยังทำให้ฝ่าบาทปิดปากเงียบต่อเรื่องนี้……"
ทันใดนั้นหยุนหว่านหนิงก็กระจ่างแจ้งทันที!
นางกับโม่เยว่ ทําไมถึงคิดถึงจุดนี้ไม่ได้!
แอบพาหยวนเป่าไปพบโม่จงหรานอย่างลับๆ!
หรือลักพาตัวโม่จงหรานมาที่จวนอ๋องหมิง และให้เขาทราบถึงความเป็นอยู่ของหยวนเป่าก็ได้แล้ว
เรื่องนี้สามารถทําได้เพียงอย่างลับๆ ให้ผู้อื่นรู้ไม่ได้เด็ดขาด
ด้วยวิธีนี้ ก็จะได้รับการปกป้องจากโม่จงหราน แถมยังไม่ทำให้ผู้อื่นรู้ด้วยสินะ?
"แต่ก่อนอื่นคือ ฝ่าบาทต้องยินยอมที่จะปิดปากเงียบ"
ในขณะที่หยุนหว่านหนิงกำลังดีใจและตื่นเต้น กู้ป๋อจ้งก็ราดน้ำเย็นใส่นางทันที "ฝ่าบาทตั้งตารอที่จะอุ้มพระนัดดาองต์โตมานานแล้ว " (ราดน้ำเย็น=พูดบั่นทอนกำลังใจ)
"หากรู้ว่าพระนัดดาองต์โตของเขาโตขนาดนี้แล้ว คงต้องอยากที่จะอุ้มไว้ในอ้อมแขนทุกวันเลย และอวดให้ทุกคนดู จะเต็มใจที่จะเก็บความลับแทนพวกเจ้า และซ่อนหยวนเป่าเอาไว้ได้อย่างไร? "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์