บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1090

เสี้ยวหงเฉิงฟาดลงไปหนึ่งทีนี้ ใช้แรงทั้งหมดที่มี ฟาดจนบนใบหน้าของคนคนนั้น เห็นเป็นเส้นเลือดขึ้นมา

พวกเขาเหมือนกำลังตกอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจ ร่างกายเต็มไปด้วยรอยบาดแผลแมวข่วน เสี้ยวหงเฉิงใช้แส้ฟาดลงไปหนึ่งทีนี้ เขาค่อยได้สติกลับมา จากนั้นก็หัวเราะเยาะขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ช่างเป็นเจ้าสำนักที่เลอะเลือนยิ่งนัก คนของเจ้าเป็นหรือตาย ทรยศหรือหักหลัง ตัวเจ้าเองไม่รู้หรือ?”

เสี้ยวหงเฉิงโกรธจัด ยกแส้ฟาดลงไปอีกครั้ง จนหนังเนื้อคนคนนั้นกระเด็นออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “พูดมา พวกนางอยู่ที่ไหน?”

คนคนนั้นกลับอวดดีขึ้นมา ถุยน้ำลายหนึ่งที หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา มุมปากมีเลือดไหล พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ละสำนักล้วนให้เกียรติคนที่มีความสามารถ เจ้าหมกมุ่นในความรัก เสียท่าหลินเซียว ปล่อยให้คนอื่นได้ชมเรือนร่าง เจ้าคิดว่าพวกนางยังอยากที่จะติดตามเจ้าหรือ?”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา เสี้ยวหงเฉิงกำแส้แดงไว้แน่น รีบหันไปมองลู่หยวนแวบหนึ่ง ลู่หยวนก็หันมามองนางพอดี นางโกรธโมโหขึ้นมาในทันใด สายตาเหมือนดั่งพายุฝนฟ้าคะนอง ฟาดจนคนคนนั้นแทบเป็นลมสลบไป กลับได้ยินเสียงหัวเราะอย่างไม่รู้จบ

เสี้ยวหงเฉิงทั้งโกรธทั้งอาย ทิ้งแส้แล้วก็วิ่งออกไป

ลู่หยวนเห็นเช่นนี้ ลุกโซเซขึ้นมาแล้วไล่ตามออกไป ตามไม่ทัน จนล้มลงกับพื้น

เดิมเสี้ยวหงเฉิงวิ่งออกไปแล้ว หันกลับมาเห็นเขาล้มอยู่บนพื้น ลังเลสักพัก แล้วก็กลับมาประคองเขาลุกขึ้น

ลู่หยวนจับมือของนางไว้ สายตาเป็นประกาย พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ถือสา”

เสี้ยวหงเฉิงเกือบร้องไห้ ดวงตาแดง ก้มลงช่วยพยุงเขานั่งลงที่ระเบียง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ต้องการให้เจ้าถือสาหรือไม่ถือสา ข้ากับเขาไม่เคยอยู่ด้วยกัน”

เพราะไม่เคยอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นนางจึงเชื่อใจเขาอย่างไม่สงสัย คิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ

โดยเฉพาะพวกเขาเคยลองนอนเตียงเดียวกัน แต่เขารักษามารยาท ไม่เคยแตะต้องนางเลยสักนิด จึงยิ่งทำให้นางเชื่อใจ

“งั้นเจ้าก็ไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร” ลู่หยวนเอนพิงเสาด้านข้าง สีหน้าขาวซีด

เสี้ยวหงเฉิงมองสายฝนที่ค่อยๆเบาบางลง พร้อมพูดขึ้นอย่างโศกเศร้าว่า “ข้าโกรธ ไม่ใช่เพราะเขาพูดเรื่องระหว่างข้ากับหลินเซียว แต่เป็นไปได้ว่ามีคนสำนักเหมยแดงทรยศหักหลังข้า ที่จริงเดิมข้าก็แล้วว่าเฉียวเฟิงคิดไม่ซื่อต่อข้า และก็วางแผนไว้ว่าหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจนี้ จะลองคุยกับนางดีๆ”

เฉียวเฟิงเป็นคนแรกที่ติดตามนางในตอนนั้น ตั้งแต่นางเป็นเจ้าสำนักเหมยแดงเป็นต้นมา เฉียวเฟิงช่วยนางดูแลเรื่องทุกอย่างภายในสำนักมาตลอด

“เจ้าอย่าหลงเชื่อคำพูดของเขา ต่อให้เฉียวเฟิงคิดไม่ซื่อ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนทั้งหมดจะทรยศเจ้า” ลู่หยวนพูดขึ้น

เสี้ยวหงเฉิงส่ายหัว สายตาโกรธเคือง พร้อมพูดขึ้นว่า “หากในระหว่างทาง นางแอบอ้างคำสั่งของข้า ว่าไม่ต้องตามมาล่ะ? นางรู้แต่แรกแล้วว่าศัตรูดักซุ่มโจมตีพวกเรา คิดว่าพวกเราจะตายอยู่ที่นี่ หลังจากที่ข้าตายแล้ว คนข้างล่างล้วนเชื่อฟังนาง เพราะข้าเคยพูดไว้ หากข้าเป็นอะไรไป ให้นางขึ้นเป็นเจ้าสำนักของสำนักเหมยแดง ช่วงที่ผ่านมานี้ข้าได้เห็นความผิดปกติของนาง กลับคิดไม่ถึงว่าจะกล้าได้ขนาดนี้ ครั้งนี้หากไม่มีแมวป่ากับงูเหลือมปรากฏ พวกเราล้วนต้องตายอยู่ที่นี่ ข้าตายไปไม่เป็นไร ทำให้องค์ชายรัชทายาทต้องตาย ข้าก็จะกลายเป็นคนบาปของเป่ยถัง”

ลู่หยวนจับมือของนางไว้ ค่อยๆล้มไปข้างหลัง การต่อสู้ในครั้งนี้ เขาสูญเสียพลังทั้งหมดที่มี ภัยอันตรายที่ไม่เคยมีมาก่อน ความแปลกประหลาดก็ยิ่งไม่เคยมีมาก่อน

เสี้ยวหงเฉิงก็นอนลง ทั้งสองคนเปียกโชกไปด้วยฝน แต่ก็ไม่สนใจแล้ว

หลังจากไม่กี่คนนั่น ถูกจับไปสอบสวนอย่างหนัก แส้ของเสี้ยวหงเฉิงไม่สามารถทำให้พวกเขาหวาดกลัว เมี่ยตี้ของสำนักเหลิ่งหลัง กลับมีวิธีมากมาย

กลางดึก ในที่สุดก็ยอมสารภาพ บอกว่าคนที่มาพบพวกเขาคือคนเซียนเปย ใช้ทองเป็นจำนวนมากจ่ายให้กับพวกเขา และสายลับของพวกเขาก็มีไปทั่วทั้งเป่ยถังแล้ว ขุนนางในราชสำนักหลายคนก็ถูกซื้อตัวแล้ว แต่เป็นคุณนางคนไหนบ้าง คนพวกนี้ไม่รู้

หลังจากเมี่ยตี้รายงานหยู่เหวินเห้าแล้ว หยู่เหวินเห้ากลับแสดงสีหน้าสงสัย คนเซียนเปย? ตอนนี้คนเซียนเปยยังสามารถก่อเรื่องได้? ผลที่ได้รับรู้นี้ทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจ เดิมเขาคิดว่าจะสามารถขุดคนเป่ยโม่ออกมาได้

“เป็นหงเย่หรือ?” หยู่เหวินเห้าถามเมี่ยตี้

เมี่ยตี้ส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ถามแล้ว ไม่ใช่หงเย่ หงเย่ก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่คนของพวกเขาจับตาดู”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน