บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1129

หลังจากพระชายาอานกลับไป พอถึงจวนแล้วก็คิดอยู่นานถึงบอกคำพูดของหยวนชิงหลิงกับอ๋องอาน

เมื่ออ๋องอานได้ฟังแล้วก็ชะงักอยู่นาน จากนั้นก็ฝืนหัวเราะ “หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ”

พระชายาอานจึงถาม “วัดฮู่กว๋อนี่ยังไงกันเพคะ? หรือว่าท่านไม่ได้ไปวัดฮู่กว๋อขอพรหรอกหรือ?”

อ๋องอานกุมมือนาง แล้วโอบเอวนางเบาๆ ให้ศีรษะนางแนบกับไหล่ “แค่ขอพรให้ราบรื่นปลอดภัยจริงๆ แต่ศาสนาพุทธเป็นสถานที่เงียบสงบ ไม่ใช่ที่ที่คนบาปหนาอย่างข้าจะเข้าไปได้”

พระชายาอานฟังคำพูดที่ใช้น้ำเสียงราบเรียบนี้แล้วก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

สองสามีภรรยากอดกันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเอ่ย “ข้าต้องออกไปสักหน่อย ไม่นานก็กลับมา”

พระชายาอานจับแขนเสื้อเขาไว้ “ท่านจะไปที่ไหนหรือเพคะ?”

อ๋องอานจ้องนาง ที่ผ่านมานางไม่เคยถาม เห็นได้ว่านางหวั่นวิตกมาก

“เดี๋ยวเดียวก็กลับ แป๊บเดียว” เมื่อเขาพูดเสียงเบาจบแล้วก็หมุนตัวไป

เมื่อออกประตูไปก็ให้คนเตรียมม้า มุ่งตรงไปทางวัดฮู่กว๋อ

ตั้งแต่เจ้าอาวาสวัดฮู่กว๋อมรณภาพ บรรยากาศก็ไม่เหมือนเก่าก่อนอีก ตอนนี้ควันธูปอบอวลกว่าแต่ก่อน นี่ย่อมเป็นเพราะตอนนี้เปิดให้กับคนภายนอกแล้ว ผู้ศรัทธาจำนวนมากในเมืองหลวงจึงมาไหว้พระขอพร

ทว่าวัดฮู่กว๋อในตอนนี้เป็นการค้าหนักมาก ไม่อนุญาตให้ประชาชนนำธูปเทียนมาเอง ต้องซื้อจากในวัดเท่านั้น อีกทั้งราคาก็แพงหูฉี่ ธูปเทียนอย่างเดียวกัน ข้างนอกขายสิบอีแปะ แต่ที่นี่ขายกว่าร้อยอีแปะ อีกทั้งภายในวัดยังขายของอย่างยันต์คุ้มกายด้วย ราคาแพงมากเหมือนกัน

กินใช้เองไม่กล้าจ่าย แต่ผู้ศรัทธาบูชาพระกลับไม่เสียดายแม้แต่น้อย เก็บร้อยอีแปะ พันอีแปะแล้วอย่างไร? นั่นเป็นการเคารพและความจริงใจ

ด้วยเช่นนี้วัดฮู่กว๋อจึงเก็บเงินทองได้จำนวนหนึ่ง หากจะบอกว่าวันเดียวได้ทองเป็นกระบุงก็ไม่เกินไป

เจ้าอาวาสในตอนนี้เป็นศิษย์สายตรงของเจ้าอาวาส ชื่อว่าพระอาจารย์ฮุ่ยทง ที่จริงหลังจากเจ้าอาวาสมรณภาพแล้ว พระอาจารย์ฮุ่ยทงยังไม่ได้เข้ามาดูแล แต่เป็นมรณภาพที่เจ้าอาวาสสั่งไว้ ต่อมาฮุ่ยทงก็รับช่วงต่อ ด้วยเหตุนี้ในช่วงเวลาสองปีสั้นๆ วัดฮู่กว๋อจึงเปลี่ยนเจ้าอาวาสไปถึงสองคน ตอนนี้เป็นคนที่สาม

พระอาจารย์ฮุ่ยทงท่านนี้ ตอนที่เจ้าอาวาสยังอยู่ไม่ได้เน้นไปที่เขานัก บอกว่าเขามีกิเลสมากเกินไป ฝึกฝนได้ไม่ถึงแก่นแท้ ดังนั้นถึงเขาจะเป็นศิษย์สายตรงคนโต แต่ขณะที่เขามรณภาพก็ไม่ได้มอบตำแหน่งเจ้าอาวาสให้เขา

แต่คิดไม่ถึง ว่าเวลานี้วัดฮู่กว๋อจะอยู่ในมือเขาและทำจนรุ่งโรจน์ขนาดนี้

เมื่ออ๋องอานมาถึงวัดฮู่กว๋อ ก็ขอพบเจ้าอาวาสพระอาจารย์ฮุ่ยทงทันที เณรน้อยนำเขาไปเข้าห้องเข้าฌาน ผู้ศรัทธาที่อยู่เต็มวิหารกลับมีคนที่จำเขาได้ จึงคุกเข่าให้เขา “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ประทานยาพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อได้ยินว่าคนผู้นี้คืออ๋องอาน บรรดาผู้ศรัทธาก็เข้าห้อมล้อม นอกจากจะคุกเข่าขอบคุณเขาแล้วยังสรรเสริญอีกยกใหญ่

หากเป็นเมื่อก่อน นี่แทบเป็นเรื่องที่อ๋องอานปรารถนาสุดแสน การสนับสนุนและจิตใจของประชาชนล้วนอยู่ในกำมือ เรื่องที่เขาบากบั่นพยายามแต่ก็ไม่ได้มานั้น แต่แค่ใช้เล่ห์นิด ใช้เงินหน่อยก็ทำได้แล้ว

เขารู้สึกถูกเสียดสีขึ้นทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน