โซ่คล้องรัก นิยาย บท 20

"พี่ขอเสียมารยาทถามได้ไหมคะว่าหนูนับเป็นคนรักของนายรึเปล่า ถ้าหนูนับเข้ามาเป็นนายหญิงของที่นี่บ้านนี้คงครึกครื้นดีนะคะ"

"นับไม่ได้เป็นแฟนตาลุงนั่นหรอกค่ะ แค่บังเอิญดวงซวยโดนลากมาขังไว้ที่นี่เฉยๆ"

"ตาลุงที่ว่าคือนายเหรอคะ? แต่นายอายุยังน้อยอยู่เลยนะคะ"

"แต่ถ้าเทียบกับอายุของนับก็เป็นตาลุงดีๆ เนี่ยแหละค่ะ" นับดาวทำหน้ามุ่ยขณะที่เดินตามหลังสายบัวเข้ามาในบ้านพักคนงานของหล่อน เธอยืนรออยู่ในห้องเงียบๆ ระหว่างที่สายบัวไปหยิบขนมขบเคี้ยวมาให้

"หนูนับนั่งบนเตียงก็ได้นะคะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นพื้นที่ส่วนตัว ว่าแต่พี่รามไปไหนเหรอคะ เขาออกไปข้างนอกเหรอ"

"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าตอนนี้นายทำงานอยู่ที่ห้องไหน แต่ไม่ได้ออกไปข้างนอกหรอกค่ะ"

"คนเราจะมีห้องทำงานเยอะๆ ไปเพื่ออะไรคะ"

"อันนี้ต้องไปถามนายเอานะ" สายบัวตอบยิ้มๆ พร้อมกับหอบขนมขบเคี้ยวจำนวนหนึ่งมายื่นให้คนอายุน้อยกว่า แต่นับดาวก็หยิบไปแค่ซองเดียวเท่านั้น

"ขอบคุณค่ะ นับไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์ลงมาด้วย เดี๋ยวนับจ่ายเงินให้พรุ่งนี้นะคะ"

"พี่ให้เฉยๆ ค่ะ ไม่ได้ขายต่อ"

"นับเกรงใจค่ะ"

"ขนมห่อละยี่สิบบาทเองค่ะ หนูนับจะกลับเลยไหมคะ เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง"

"ไม่เป็นไรค่ะ พี่บัวพักผ่อนเถอะเดี๋ยวนับเดินกลับเอง ลูกน้องของพี่รามเต็มบ้านขนาดนี้คงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ" นับดาวรีบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ "ขอบคุณสำหรับขนมนะคะ"

"หนูนับรีบกลับไปบ้านใหญ่เถอะค่ะ ถ้านายไม่เห็นหนูนับอยู่ที่บ้านใหญ่จะโดนดุเอานะคะ"

"งั้นนับกลับก่อนนะคะ" เธอบอกลาด้วยรอยยิ้มจริงใจ ก่อนจะหันหลังเดินออกมา โดยมีสายบัวเดินตามหลังออกมายืนส่งเธอที่หน้าบ้านพัก

"บัวแกคุยกับใคร" นับดาวเดินคล้อยหลังไปได้ไม่นานเสียงเปิดประตูบ้านพักอีกหลังหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้สายบัวที่กำลังจะเดินกลับเข้าบ้านหันไปตอบคำถามของเพื่อนที่กำลังชะโงกหน้าออกมาจากกรอบประตู

"ว่าที่นายหญิง"

"ฮะ?! พวกเรามีว่าที่นายหญิงกันแล้วเหรอ" ส้มจุกเบิกตาโพลงด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เธอรีบเดินออกมาจากห้องพักพลางชะเง้อมองแผ่นหลังของนับดาวที่กำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ "นายหญิงของพวกเราเนี่ยนะ? ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นนายพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านเลย แล้วถ้าเป็นนายหญิงจริงจะมาทำอะไรที่บ้านพักคนใช้ตอนดึกๆ แบบนี้"

"เห็นบ่นว่าหิวขนมฉันเลยเอาขนมของฉันให้ แต่หนูนับอยากมาเดินเล่นด้วย"

"หนูนับ? อย่าบอกนะว่าหนูนับคือนายหญิง? แกเรียกนายหญิงแบบนั้นเลยเหรอ"

"นายหญิงเป็นคนอนุญาตเอง เป็นผู้ดีที่ไม่ถือตัวเลย เหมาะสมกับนายของพวกเราสุดๆ"

"สวยไหม"

"สวยกว่าดาราบางคนอีก ถ้าบอกว่าเป็นดาราฉันก็เชื่อ แถมนิสัยก็สวยเหมือนหน้าตาเลย"

"เพอร์เฟกต์อะไรขนาดนั้นอะ แต่แบบนั้นก็สมกับเป็นนายหญิงของที่นี่ดีนะ แกพูดซะฉันอยากเห็นหน้าเลยว่าจะสวยขนาดไหน

"ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้เห็นเองนั่นแหละ" สายบัวบอกปัด ก่อนจะเดินเข้าห้องพักไป ทำให้ส้มจุกต้องเดินกลับเข้าห้องพักของตัวเองด้วยความเสียดาย

"อยู่ในบ้านคนเดียวไม่เห็นต้องสร้างหลังใหญ่ขนาดนี้เลย" นับดาวบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะที่เดินถือขนมเข้ามาในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์คนเดียว เธอเหลือบมองลิฟต์ที่อยู่ใกล้ๆ กับบันไดวนเพียงนิด ถึงจะไม่ชอบความเหนื่อยล้าแต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเดินขึ้นไปบนชั้นสองด้วยขาของตัวเองเหมือนเดิม

"ห้องทำงานของพี่รามอยู่ไหนเนี่ย" คนตัวเล็กหันซ้ายหันขวาเมื่อเดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสอง เธออยากเจอรามิลเพราะมีเรื่องที่ต้องคุยกัน หากเดินกลับไปรอที่ห้องนอนก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะทำงานเสร็จ

นับดาวยืนชั่งใจอยู่นาน จนสุดท้ายก็เลือกที่จะเดินไปทางฝั่งซ้ายของคฤหาสน์ที่มีประตูห้องเรียงกันอยู่ไม่ต่ำกว่าสี่ห้อง เธอถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปทีละห้องจนเจอกับห้องทำงานของรามิลในที่สุด ทว่าภายในห้องกลับว่างเปล่า ไม่มีใครเลยสักคน

"หายไปไหนเนี่ย" ร่างบางเดินเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานอย่างถือวิสาสะพลางหมุนเก้าอี้ไปรอบๆ เพื่อมองหารามิล แต่นอกจากเธอแล้วในห้องทำงานของเขาก็ไม่มีใครอีกเลย "จับคนอื่นมาขังไว้ในบ้านแล้วหายหัวไปโดยไม่บอกกล่าวเนี่ยนะ"

เธอถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างเบื่อหน่าย พร้อมกับเปิดซองขนมไปด้วย ทว่าในจังหวะที่กำลังจะหยิบขนมเข้าปากหางตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่บนแฟ้มเอกสารพอดี เธอคงจะมองข้ามมันไปหากไม่ได้บังเอิญอ่านข้อความบางส่วนบนกระดาษแผ่นนั้น

"การสั่งผลิตอาวุธสงครามล็อตใหม่..." ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจ เช่นเดียวกับหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนแทบผิดจังหวะ นับดาวอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกรอบเพื่อให้มั่นใจว่าสายตาของเธอไม่ได้ผิดปกติจนมองข้อความผิดไป

"ใครอนุญาตให้เข้ามา"

เฮือก!

น้ำเสียงเยือกเย็นของรามิลทำเอานับดาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เธอลนลานจนแทบทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเขากำลังเดินเข้ามาในห้อง หัวใจที่เคยเต้นระรัวในตอนนี้แทบจะหยุดเต้นไปเสียดื้อๆ

"นะ..นับมีเรื่องอยากคุยกับพี่ระ..."

"ฉันถามว่าใครอนุญาตให้เข้ามา" คำพูดสุดท้ายยังไม่ทันหลุดออกจากปากน้ำเสียงเยือกเย็นของรามิลก็ดังแทรกขึ้นอีกครั้ง สายตาดุดันที่จ้องมองเธอบ่งบอกถึงความไม่พอใจ

"นะ..นับอนุญาตตัวเองค่ะ นับมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ราม แต่พี่รามไม่ยอมกลับห้องสักที"

"เห็นอะไรบ้าง"

"หะ..เห็นว่าโต๊ะทำงานมันรกมากเลยค่ะ" หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่พลางก้มหน้าหลบสายตาเมื่อมาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ๆ เธอผลุนผลันลุกออกจากเก้าอี้ทำงาน แต่ก็โดนคว้าแขนไว้ในตอนที่ตั้งท่าจะเดินหนีออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่คล้องรัก