เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 676

แกคือเจ้ามังกรใช่มั้ย?

หลินรั่วหวีถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติมาก

ปกติจนเหมือนกับกำลังคุยกันเรื่อยเปื่อย

แต่แววตาของถังเฉานั้นได้หรี่ลงเล็กน้อย

เขาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน หลังจากที่คำถามนี้ถูกถามออกมา บรรยากาศรอบๆ ก็ได้เปลี่ยนไป

สายลมที่หนาวเย็นพัดผ่าน บรรยากาศก็ดูกดดันขึ้นมา

หลังจากคำพูดคำนั้น บริเวณโดยรอบก็ดูเงียบไปอย่างน่าประหลาด

ผู้คนนั้นเดินผ่านไปผ่านมา รถยนต์ที่ขับสวนกัน

เยี่ยนจิงเป็นเมืองที่ผู้คนใช้ชีวิตกันค่อนข้างเร่งรีบ บนเหนือสะพานลอย ผู้คนเดินสวนกันไปมา สีหน้าเร่งรีบ และยังคอยก้มดูเวลาที่ข้อมือไปด้วย

เหมือนจะไม่มีใครได้สนใจบทสนทนาระหว่างถังเฉากับหลินรั่วหวีเลย

ตัวตนของเจ้ามังกร เหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็อยากรู้

สายตาของหลินรั่วหวีเหมือนราวกับเรดาร์ จับจ้องไปที่ใบหน้าของถังเฉาด้วยความกระตือรือร้น

หวังที่จะได้เจอพิรุธอะไรบ้าง

แต่เขากลับมองไม่เห็นอะไรเลย

ถังเฉาก็เหมือนกับทะเลที่กว้างใหญ่

“ใช่ครับ”

สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือ ถังเฉาได้พูดยอมรับมัน

“เป็นแกจริงๆ ด้วย”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินรั่วหวีก็ค่อยๆ จางหายไป สายตาจ้องเขม็งไปที่ถังเฉา

“พ่อมองออกได้ยังไงครับ ว่าผมเป็นเจ้ามังกร?”

ถังเฉายังคงเป็นเหมือนเดิม รอยยิ้มที่อบอุ่นยังคงแสดงอยู่บนใบหน้า

แต่รอยยิ้มแบบนั้น ก็เป็นรอยยิ้มที่ความอบอุ่นค่อยๆ ลดน้อยลง

“ความรู้สึก”

“ความรู้สึกของผู้แข็งแกร่ง ความจริงมันก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่งเหมือนกัน”

หลินรั่วหวีตอบ

แสงแดดสาดส่องลงมา ส่องมาที่ใบหน้าของเขา ทำให้ใบหน้าของเขาถูกชุบด้วยลำแสงสีทอง

ถังเฉายิ้มๆ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”

แล้วบทสนทนานี้ก็สิ้นสุดลงแค่นี้

ความจริงตอนที่หลินรั่วหวีถามออกมาว่า “แกคือเจ้ามังกรใช่มั้ย” นั้น สิ่งแรกที่ถังเฉารู้สึกก็คือตกใจ

ตัวตนที่เขาคือเจ้ามังกรนั้น ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด

แล้วพ่อตานั้นรู้เรื่องได้ยังไง?

และในวินาทีต่อมา ในใจของเขาก็ได้รู้คำตอบ

เจ้ามังกรที่พ่อตาถามถึง มันไม่ใช่เจ้ามังกรนั่น แต่เป็น ‘เจ้ามังกร’ ที่เป็นนามแฝงของผู้เข้าแข่งขันนิรนามที่ใช้เข้าร่วมการประชุมแดนเหนือเท่านั้น

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้ถูกจับตามองดีๆ จากความพยายามอย่างเต็มที่ สุดท้ายก็เข้าไปเจอกับหลินรั่วหวีในรอบชิงจนได้

และต้องปะทะกันในศึกชี้ชะตา จะเป็นหรือตา ก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง

ถ้าไม่ได้ ‘ไวโอเล็ต’ ผู้บริหารสูงสุดของหวางเหลี่ยงเข้ามาขัดจังหวะละก็ ทั้งคู่ก็คงจะสู้จนอีกฝ่ายล้มลงแน่นอน

ในอีกนัยหนึ่ง ไวโอเล็ตก็ได้ช่วยถังเฉาเอาไว้ครั้งหนึ่ง ที่ทำให้เขาไม่ต้องสู้กับพ่อตาจนตาย

เพราะไม่ว่าหลินรั่วหวีจะตาย หรือถังเฉาต้องตายก็ตาม มันก็ทำให้หลินชิงเสว่สะเทือนใจมากๆ เหมือนกัน

เหยียบย่ำศพของอีกฝ่ายขึ้นรับตำแหน่ง ในมือเปื้อนเลือดของอีกฝ่าย ถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘คนร้ายที่ฆ่าคน’ สิ่งสุดท้ายที่จะได้มา ก็ต้องเป็นความห่างเหินกับความเย็นชาของหลินชิงเสว่เท่านั้น

“แกว่า ถ้าการต่อสู้ในวันนั้นไม่ถูกขัดจังหวะ สุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้ชนะ?”

หลินรั่วหวีหันมองไปทางอื่น แล้วถามออกมาลอยๆ

“สุดท้ายคนที่ชนะจะเป็นผมครับ”

ถังเฉาตอบ

“แกรู้ได้ยังไง?”

หลินรั่วหวีจ้องมองถังเฉาด้วยความตกใจ

ถังเฉาจุดบุหรี่อีกมวน แล้วตอบไปว่า “ก็เพราะพ่อเป็นพ่อคนหนึ่งครับ”

“คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อนั้น สิ่งที่เป็นเรื่องเบสิคเลยก็คือ ไม่มีทางทำให้ลูกสาวของตัวเองต้องเสียใจแน่นอน”

“ด้วยเหตุนี้ ต่อให้ตัวเองต้องตาย ก็ไม่มีทางสังหารคนรักของลูกสาวด้วยมือของตัวเองแน่นอน”

“ดังนั้น ในศึกชี้ชะตา มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรอยู่ตั้งแต่แรกแล้วครับ”

พอพูดถึงตรงนี้ แววตาของถังเฉาก็ดูจริงจังขึ้นมามาก

หลินรั่วหวีมองถังเฉาไปหลายที จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างกะทันหัน “นี่ใช่มั้ยคือความมั่นใจของแก?”

“มันไม่ใช่ความมั่นใจ แต่มันคือความเข้าใจในตนเองต่างหากครับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม