บทที่1001 ประจบ
“เสี่ยวหมี่โต้ว ลุงหยูอายุเยอะแล้วนะ ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่านายท่านให้เธอกลับไปกับแด๊ดดี้หม่ามี้ของเธอหรอ? ทำไมจู่ๆถึงอยู่ต่อล่ะ? นี่...เป็นความคิดของเธอคนเดียวหรือเปล่า?”
เสี่ยวหมี่โต้วส่ายหน้า “นี่เป็นความคิดของหม่ามี๊ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่กลับไปพร้อมกับพวกเขาอยู่แล้ว ลุงหยู คุณลุงไม่อยากพาผมกลับบ้านใช่มั้ยฮะ?”
หยูโปรีบส่ายหน้าตอบกลับออกไป “ไม่ใช่อย่างนั้น เธอยอมอยู่ที่นี่ต่อนายท่านจะต้องดีใจมากแน่ๆ เพียงแต่ว่า...” เขาก็ยังกังวลอยู่บ้าง
แต่ว่าในตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วก็ได้จับมือเขาเดินออกไปด้านนอกสนามบินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จนทั้งสองคนขึ้นรถกันไปแล้ว หยูโปก็นึกขึ้นมาได้ว่าเฉียวจื้อกับหลัวลี่พวกเขาทั้งสองคนนั้นได้ไปหาเสี่ยวหมี่โต้วกัน ดังนั้นแล้วในตอนที่เตรียมจะโทรหาพวกเขา โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
หยูโปรับโทรศัพท์
“คุณชายเฉียว”
“หยูโป ตัวนายล่ะ? ฉันไปหาพวกยู่ฉือเขาแล้ว แต่พวกเขาบอกว่าให้กลับบ้านไปแล้วจะรู้เอง ตอนนี้มันอะไรกัน? เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน?”
หยูโปก็ได้เล่าเรื่องย่อๆไปให้กับเฉียวจื้อ จากนั้นก็เอ่ยต่อออกมาอีกว่า “คุณชายเฉียวผมยังต้องพาคุณชายน้อยของเรากลับไปหานายท่าน ขอไม่พูดอะไรมากมายกับพวกคุณแล้ว พวกคุณรีบกลับบ้าน เดินทางปลอดภัยนะครับ”
จากนั้นก็วางสายไป
“ไม่ พวกคุณพาผมไปด้วยก็ได้...”
ตู๊ดๆ...
คำพูดท่อนหลังของเฉียวจื้อยังไม่ทันได้พูดจบ โทรศัพท์ก็ได้ถูกตัดสายไปเสียแล้ว “เชี้ย จำเป็นต้องวางสายเร็วขนาดนี้มั้ย ฉันยังอยากเห็นลูกของเพื่อนหน่อยว่าหน้าตาเป็นยังไง?”
หลัวลี่ที่อยู่ข้างๆได้ยินแล้ว เอียงหน้ามาเล็กน้อย “หน้าเหมือนกับท่านประธานมากๆ เรียกได้ว่าเหมือนยังกับแกะเลยทีเดียว”
“เหมือนอย่างกับแกะ?” พอคิดถึงใบหน้าของเด็กห้าหกขวบคนนึงที่มีใบหน้าเหมือนกับยู่ฉือแล้ว เฉียวจื้อก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาทันที ภายในใจก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่น่ารักขึ้นมาทันที
ใบหน้านั้นของยู่ฉือ ทั้งเย็นชาทั้งน่าหมั่นไส้ หน้าตาเหมือนกับเขาแบบไหนกัน?
เฉียวจื้อไม่กล้าที่จะจินตนาการเลย
“อืม น่ารักมากเลย!”
แต่ในตอนนี้ หลัวลี่กลับยังเสริมออกมาอีกประโยคนึง
เฉียวจื้อก็ยิ่งรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมากว่าเดิม หันกลับไปมองเธอ “พอเถอะ เธออย่าพูดออกมาอีกเลย พอคิดว่าเจ้าเด็กคนนั้นหน้าตาเหมือนกับยู่ฉือแล้วฉันรู้สึกว่ามันน่ากลัวยังไงไม่รู้ นี่ต้องเป็นเด็กที่หน้าตาแบบไหนกัน? ก่อนหน้านี้ก็อยากเจออยู่หรอก แต่ตอนนี้...ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วสิ”
ถึงตอนนั้นแล้วเด็กคนนั้นคงจะไม่ใช้สายตาเย็นชามองเขาเหมือนกับยู่ฉือหรอกใช่มั้ย?
“นายหมายความว่าไง? พูดออกมาสิ?” หลัวลี่จ้องมองเขา เห็นได้ชัดว่าไม่สบอารมณ์กับที่เขาพูดถึงเสี่ยวหมี่โต้วอย่างนั้น
“หรือว่าฉันจะพูดผิดไป? เธอไม่คิดว่าหน้าของยู่ฉือเพื่อนฉันมันน่ากลัวหรือไง? ถ้าลูกของเขาหน้าตาเหมือนเขา มันก็ยากเกินจะจินตนาการจริงๆ”
หลัวลี่คิดว่าเสี่ยวหมี่โต้วน่ารักมากจริงๆ ถึงแม้ว่าจะมีหน้าตาเหมือนเย่โม่เซินอย่างกับแกะ แต่เขาฉลาดน่าเข้าหากว่าเยอะ ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกับท่านประธานเลยสักนิด ถึงยังไงแค่มองก็จะต้องร้องอุทานออกมาเลยว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงได้มีหน้าตาดูดีได้เสียขนาดนี้?
“ไม่ชอบท่านประธานของเรา เขาหน้าตาน่ากลัวที่ไหนกัน? เป็นถึงผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายๆคนเลยนะ ไม่เหมือนกับคุณ...”
คำพูดสามคำข้างหลังนั้นได้เหยียบลงไปบนหางของเฉียวจื้อไปในทันที จนเขาแทบจะกระโดดตัวโหยงขึ้นมาทันที “หลัวลี่ เธอพูดให้มันดีๆ ที่เธอพูดมามันหมายความว่าไง? เธออยากจะบอกว่าหน้าตาฉันมันสู้ยู่ฉือไม่ได้งั้นหรอ? บิดาหล่อกว่าหมอนั่นเป็นร้อยเท่ามั้ยล่ะ?”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลัวลี่มองเขาไปเงียบๆ สบเข้าไปในตาของเขา เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณกล้าพูดอย่างนี้ต่อหน้าท่านประธานหรือเปล่าล่ะ?”
เฉียวจื้อ “...”
“ถ้าหากว่าคุณกล้าพูดต่อหน้าเขา ฉันก็จะเชื่อว่าคุณหล่อกว่าท่านประธานเป็นร้อยเท่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่