นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1018

หลังจากเจ้าเมืองซานตงออกไปจากห้องหนังสือด้วยใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธ เฟิ่งชิงเฉินก็เดินออกมาจากด้านหลังชั้นหนังสือ นึกถึงสิ่งที่นางได้เห็นเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

หลังจากนั้นไม่นาน ประตูห้องหนังสือก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง เสด็จอาเก้าเดินเข้ามา “เมื่อสักครู่เจ้าเห็นอะไรบ้าง เหตุใดถึงได้มีสีหน้าเช่นนั้น”

“ข้าเห็นว่า เขาคิดจะสังหารเจ้า” ความกังวลปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน นางถามออกมาว่า “วงราชการในซานตงมันเน่าเฟะถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ?”

เป็นแค่ตระกูลในห้องถิ่น แต่กลับสามารถทำให้เจ้าเมืองออกหน้าแทนพวกเขาได้ เท่านั้นยังไม่พอ พวกเขายังสามารถทำให้เจ้าเมืองถึงขั้นคิดจะสังหารท่านอ๋อง มันช่าง......น่าขัน! น่าเศร้า!

“ซานตงมีคำกล่าวอยู่ว่า ตระกูลลู่เป็นเหมือนเหล็ก เจ้าเมืองเป็นเหมือนสายน้ำ ตระกูลลู่เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในซานตงมาอย่างช้านาน ส่วนเจ้าเมืองนั้นมีการเปลี่ยนตำแหน่งอยู่ตลอด แต่ตระกูลลู่ไม่เคยตกที่นั่งลำบากมาก่อน หากคิดจะมีตำแหน่งอันแน่วแน่ในซานตง เช่นนั้นก็จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากตระกูลลู่ และเหล่าขุนนางที่ต่อต้านตระกูลลู่ เส้นทางของพวกเขาก็มีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น” นั่นก็คือความตาย

“ตระกูลลู่เป็นเพียงตระกูลธรรมดาทั่วไปจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินถามออกมาด้วยความสงสัย ตระกูลเซี่ยและตระกูลหวังยังไม่มีความอดทนและความทะเยอทะยานถึงเพียงนี้

“เรื่องนี้ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญก็คือ เวลานี้พวกเรารู้ว่าตระกูลลู่คือตระกูลแห่งราชาในซานตง เมื่อเผชิญหน้ากับความยากลำบากจากพวกเรา ตระกูลลู่ไม่เพียงแค่จะไม่ถอย แต่พวกเขายังแจ้งเตือนพวกเรา หากต้องการเป็นศัตรูกับตระกูลลู่ นั่นก็เท่ากับว่าต้องการเป็นศัตรูกับทั่วทั้งซานตง!” เมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย เสด็จอาเก้าก็หัวเราะเยาะตัวเอง

ตอนแรกเขาไม่เคยคิดที่จะฆ่าฟันหรือทำลายตระกูลลู่ให้สิ้นซาก แต่เวลานี้......

เป็นแค่ตระกูลต่ำต้อย แต่กลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียจริง ไม่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลลู่จะเป็นใคร ในเมื่อพวกเขามาหาเรื่องตนเองเช่นนี้ เช่นนั้นก็คงทำได้แต่ยอมรับในความโชคร้ายของตนเอง

ตระกูลลู่นั้นกล้าหาญและบ้าบิ่นเพียงพอ หากเป็นตระกูลอื่นคงไม่มีทางสั่งให้เจ้าเมืองมาพูดกับตนเองถึงที่ เฟิ่งชิงเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถามออกมาอีกว่า “เช่นนั้นตระกูลลู่จะทำลายวันเกิดของข้าหรือไม่?”

“ไม่มีทาง ตระกูลลู่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า พวกเขาไม่กลัวที่จะเป็นศัตรูกับพวกเรา”

เสด็จอาเก้าพูดถูก ตระกูลลู่ไม่เคยกลัวที่จะเป็นศัตรูกับเสด็จอาเก้า ก่อนหน้านี้เป็นเพียงการกระทำเพื่อเอาใจเสด็จอาเก้าเท่านั้น สุดท้ายมันก็แค่ให้คนใช้มาช่วยงานและเสียเงินเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น

หากเสด็จอาเก้ายอมรับและยินดี เช่นนั้นก็เป็นเรื่องดีของทั้งสองฝ่าย เสด็จอาเก้าต้องการทำสิ่งใดในดินแดนซานตงแห่งนี้ ตระกูลลู่ของพวกเขาก็จะให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ อย่างไรเสด็จอาเก้าก็อยู่ในซานตงแห่งนี้ได้ไม่นาน มันไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะเป็นศัตรูกับเสด็จอาเก้า

แต่หากเสด็จอาเก้าปฏิเสธ เช่นนั้นก็ต้องขอโทษด้วย ตระกูลลู่ของพวกเขาไม่ใช่ลูกพลับเนื้ออ่อน หากเสด็จอาเก้าต้องการควบคุมหรือทำลายตระกูลลู่ของพวกเขา เช่นนั้นก็ต้องดูว่ามือของเสด็จอาเก้าแข็งพอหรือไม่

หลังจากเจ้าเมืองซานตงเดินทางออกไปจากสวนฮวาหยวน เขาก็ตรงไปยังบ้านของตระกูลลู่ นายน้อยคนที่สามของตระกูลลู่เป็นคนออกมาให้การต้อนรับเจ้าเมือง

นายน้อยคนที่สามของตระกูลลู่เป็นผู้สืบทอดของตระกูลลู่ เขามีความเป็นสุภาพบุรุษมาก เขาเดินเข้ามาประสานมือทำความเคารพเจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงรีบแสดงท่าทางออกไปว่าไม่ต้องสุภาพมากเกินไป

“ใต้เท้า เรื่องราวเป็นอย่างไรบ้าง?” นายน้อยคนที่สามของตระกูลลู่เองก็ไม่เกรงใจเจ้าเมือง เอ่ยปากถามออกไปโดยตรง

“ข้ารู้สึกละอายใจยิ่งนักที่ทำให้คุณชายสามลู่ต้องผิดหวัง” ใบหน้าของเจ้าเมืองเป็นสีแดง เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมากที่เสด็จอาเก้าไม่ไว้หน้าเขา

คุณชายสามลู่ยังคงสงบ เขาไม่รู้สึกอะไรเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ยิ้มและพูดออกมาว่า “ไม่เป็นไร ใต้เท้าพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว” หากเสด็จอาเก้ายอมอ่อนข้อให้ด้วยเหตุนี้ เช่นนั้นตระกูลลู่ก็คงต้องพูดคุยกันครั้งใหญ่ถึงความหมายของเสด็จอาเก้า

แค่งานเลี้ยงวันเกิด ตระกูลลู่ไม่ได้เข้าร่วมก็ไม่เห็นเป็นอะไร สิ่งที่ตระกูลลู่ของพวกเขาสนใจก็คือทัศนคติของเสด็จอาเก้า ในเมื่อเสด็จอาเก้าไม่ยอมรับความหวังดีของตระกูลลู่ เช่นนั้นตระกูลลู่ของพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องร้องขอต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ