แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 70

เมื่อลั่วเสี่ยวปิงถาม จางเต๋อหวั่งค่อยคิดถึงธุระที่ตนเองมา

“ก็คือว่า ก่อนหน้านี้เจ้าพูดว่าจะซื้อที่นาในหมู่บ้าน ถ้าจึงอยากจะมาดูว่าเจ้ามีเวลาไปดูไหม”

แน่นอน เดิมที่เขาเข้ามาเพราะอยากพูดเรื่องสร้างบ้านข้างหลัง

ต้องรู้ว่าครอบครัวในหมู่บ้านนี้จนมาก ตอนนี้ลั่วเสี่ยวปิงสร้างบ้าน ดึงดูดความสนใจมากขนาดนี้แล้ว

ตอนนี้คนในหมู่บ้านยังไม่รู้ว่าบ้านหลังนั้นคือบ้านของลั่วเสี่ยวปิง ถ้าหากรู้แล้ว คงจะอิจฉากันมาก และอาจจะทำให้ลั่วเสี่ยวปิงเดือดร้อน

ยังไงถ้าทุกคนมีฐานะต่างกันไม่มากก็ว่าไปอย่าง หากแตกต่างกันมากเกินไป จะกลายเป็นที่อิจฉาริษยา

แต่ดูท่าทีเสี่ยวปิงในตอนนี้ จางเต๋อหวั่งคิดว่าเสี่ยวปิงมีวิธีรับมือได้ น่าจะรู้ดีว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ จึงไม่คิดที่จะพูดเรื่องพวกนี้แล้ว

ยังไงก็มีชีวิตมาเกินกว่าครึ่งแล้ว จางเต๋อหวั่งรู้ดี ในฐานะที่เป็นคนแก่คนหนึ่ง หากยุ่งเรื่องของคนอื่นมากเกินไป จะเป็นที่รังเกียจ

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินว่าเป็นเรื่องซื้อที่ดิน จึงพยักหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ข้ามีเวลาว่างพอดี สามารถไปดูได้”

จากนั้น ลั่วเสี่ยวปิงบอกลูกทั้งสอนคน อยู่กับฉีเทียนเห้าในบ้านอย่างว่าง่าย แล้วก็เดินไปดูที่นาในหมู่บ้านกับจางเต๋อหวั่ง

ที่ดินแห้งสิบเอเคอร์อยู่ในส่วนในสุดของหมู่บ้าน บนเนินเขาเล็กๆ ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรจากบ้านจางเฉินซื่อ

ภูเขาถูกยึดกลายเป็นดินแห้งแล้งทรงสี่เหลี่ยมคางหมู พื้นที่แล้งเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ปลูกผัก ที่ดินแล้งสิบเอเคอร์นี้อยู่ที่ก้นนาขั้นบันได เชื่อมต่อกันได้ดีไม่เลวเลยทีเดียว

ส่วนน้ำในนาข้าวอยู่ไกลออกไป มองจากนาขั้นบันไดทางด้านนี้ ไกลออกไปเป็นพื้นที่ราบ เพราะการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเพิ่งเสร็จสิ้นลง ดังนั้นจึงเหลืองอรามไปทั่ว

ส่วนน้ำในนา อยู่ตรงที่ใกล้ที่สุดตรงนั้น อยู่บนต้นน้ำที่ปากทางเข้าหมู่บ้านพอดี ใช้รดอะไรก็ถือเป็นเรื่องง่ายมาก

ลั่วเสี่ยวปิงรู้มาจากผู้ใหญ่บ้านว่า ที่ดินอุดมสมบูรณ์สองเอเคอร์เป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่บ้าน มีคนแย่งกันเช่าแทบทุกปี

และนาขนาดกลางอีกสามเอเคอร์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตีนเขาลูกนั้น

ลั่วเสี่ยวปิงต่างดูจนหมด พอใจอย่างมาก จึงเอาเงินให้ผู้ใหญ่ ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ล้วนมอบให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนไปจัดการ

โชคดีที่การโอนทรัพย์สินในดินแดนรกร้างเหล่านั้นลั่วเสี่ยวปิงต้องไปศาลด้วยตนเอง การจัดการการขายที่ดินเพื่อการเกษตรในหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านสามารถจัดการให้ได้โดยตรง ช่วยลดภาระให้ลั่วเสี่ยวปิงได้อย่างมาก

แต่ซื้อที่ดินนี้แล้ว ใช้เงินไปมากกว่าร้อยตำลึง ตอนนี้ในมือของนางเหลือเงินเพียงหนึ่งร้อยกว่าตำลึง เงินสร้างบ้านนางเพิ่งให้ตาเฉินไปแค่ไม่กี่สิบตำลึง ที่เหลืออีกร้อยกว่าตำลึงถึงแม้จะดูเยอะ แต่ยังไงก็ไม่มากพอ

ถึงแม้จะได้เงินมาเร็ว แต่การใช้จ่ายก็ถือว่าไม่ช้าเลย ลั่วเสี่ยวปิงถอนหายใจ ในใจกำลังคิดว่าจะต้องหาเงินมาได้เร็วหน่อย

และตอนนี้ การได้เงินมาอย่างเร็วที่สุดก็คือการขายยา และก็มีค่ามากที่สุด เหลือใครบ้างที่ยังไม่มีโสม?

ลั่วเสี่ยวปิงอาศัยตอนที่ไม่มีคนแล้วเข้าไปในห้วงอากาศอีกครั้ง พบว่าตรงพื้นที่นางเก็บยาสมุนไพรนั้นงอกออกมาใหม่แล้ว

แสดงว่าเมื่อพื้นที่ในห้วงอากาศนี้ไม่พอใช้ วัชพืชในห้วงอากาศก็จะหยุดการเจริญเติบโต ส่วนที่จะขยายพื้นที่ในห้วงอากาศได้อย่างไร ตอนนี้นางยังไม่รู้

แต่สำหรับตอนนี้ พื้นที่สีผืนนี้ก็เพียงพอแล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงกวาดสายตามองดูพริกสีแดงสดนั้น คิดว่าจะรอถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า นางต้องหาโอกาสที่เหมาะสมในการ 'ปลูก' พริก เช่นนี้ นางก็จะได้อาศัยพริกนี้กลายเป็นผู้ร่ำรวย

ส่วนทำไมนางถึงไม่ใช้วิธีการหาเงินจากการผลิตยาอย่างที่นางชำนาญที่สุด ลั่วเสี่ยวปิงอยากพูดเพียงว่า ยังไม่ใช่โอกาสที่ดี ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงออกมาจากห้วงอากาศ ในมือหยิบโสมมาหนึ่งอันด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง