รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 393

เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ คนเป็นหนอนบ่อนไส้คนนี้ ยังมาทำร้ายมายมิ้นท์อีก!

“สมควรสิ้นสุดแล้วจริง ๆ ที่สำคัญจะต้องสิ้นสุดเดี๋ยวนี้เลยด้วย เดี๋ยวผมจะเรียกตัวเธอมาเดี๋ยวนี้แหละ” อยู่ ๆ ทามทอยจะวางสายไปเลย

แต่มายมิ้นท์กลับเรียกเขาไว้ซะก่อน “รอเดี๋ยว ไม่ต้องรีบร้อน ตอนที่ฉันโดนทำร้ายได้แจ้งความไว้แล้ว พอตอนนี้สืบได้แล้วว่าเจินเจินเป็นคนทำร้ายฉัน ทางตำรวจก็รู้เรื่องแล้ว จะต้องเรียกตัวเจินเจินไปให้ความร่วมมือในการตรวจสอบแน่นอน เพราะฉะนั้นพอถึงตอนนั้นพวกเราค่อยตรงไปที่สถานีตำรวจก็พอแล้ว”

“ดีเหมือนกัน” ทามทอยพยักหน้าขึ้น จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะโมโหขึ้นมา แล้วก็ตะคอกขึ้นมาอีกสองประโยค “แม่งเอ๊ย ผมคิดว่าสายตาในการมองคนของผมยังพอใช้ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ กลับมาตกม้าตายอยู่ในมือของผู้หญิงแบบนี้ ช่างทำให้ผมโมโหจริง ๆ เลย”

มายมิ้นท์หัวเราะเยาะตัวเองทีหนึ่ง “ไม่ใช่แค่คุณเท่านั้น ฉันเองก็เหมือนกันที่ดูไม่ออกว่าจิตใจของเธอจะเจ้าเล่ห์มากขนาดนี้ พูดได้แต่เพียงว่าพวกเราหลงตัวเองมากเกินไป คิดว่าทุกอย่างจะสามารถกุมอยู่ในกำมือได้ แต่ตอนนี้ปรากฏว่าความจริงได้จู่โจมใส่เราครั้งหนึ่งแล้ว แต่เป็นแบบนี้ก็ดี เสียเปรียบครั้งหนึ่ง ต่อไปจะได้ไม่ต้องมาโดนหลอกแบบนี้อีก”

“พูดมาก็ถูก” ทามทอยยิ้มขมขื่นขึ้น จากนั้นก็พูดอย่างรู้สึกผิดขึ้นว่า “ขอโทษด้วยนะมายมิ้นท์ ที่ทำให้คุณต้องมาเจ็บตัว”

“ไม่เป็นไรค่ะ พอแค่นี้ก่อนดีกว่า อีกเดี๋ยวถ้าทางตำรวจแจ้งมาว่าให้พวกเราไปเมื่อไหร่ ฉันก็จะติดต่อคุณอีกทีนะ” มายมิ้นท์นวดหัวคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ทามทอยตอบอืมมาคำหนึ่ง “ได้”

ในขณะเดียวกัน ที่บ้านตระกูลภักดีพิศุทธิ์

สองสามีภรรยาเยี่ยมบุญและชวนชมกำลังกินข้าวเย็นอยู่ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จู่ ๆ ใจของชวนชมก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา และมีความรู้สึกไม่ดีอย่างหนึ่ง

อยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

ชวนชมวางตะเกียบลง แล้วเอาโทรศัพท์ออกมาดูจากกระเป๋าเสื้อเล็กน้อย พอเห็นสายเข้าที่แสดงขึ้นมาเป็นเบอร์ของสถานีตำรวจเมืองเดอะซี สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แล้วก็ลุกขึ้นมาอัตโนมัติเลย

การกระทำแบบนี้ ทำให้สองสามีภรรยาเยี่ยมบุญเกิดความสงสัยขึ้นมา

“ชวนชม เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เยี่ยมบุญวางตะเกียบลงแล้วถามขึ้น

คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็จ้องมองเธออย่างเป็นห่วงเป็นใย “ใช่ชวนชม ทำไมแป๊บเดียวสีหน้าก็ดูแย่ไปขนาดนี้ ใครโทรมาเหรอ?”

“คือ……คือพ่ออุปถัมภ์ในอดีตของหนูค่ะ” ชวนชมหรี่เปลือกตาลง บดบังความหวาดกลัวในดวงตาไปแล้วพูดขึ้นมา

เยี่ยมบุญตบลงบนโต๊ะทีหนึ่ง ด้วยท่าทีเคร่งขรึม “โทรศัพท์มาขอเงินกับแกใช่ไหม?”

“น่า……น่าจะใช่ค่ะ” หัวของชวนชมยิ่งก้มต่ำลงไปอีก

ชวนชมหึเสียงเย็นขึ้นมา “ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดแล้วไงว่า ให้แกอย่าไปติดต่อกับคนบ้านนั้นอีก ทำไมแกถึงไม่ฟังนะ นี่มันมาขอเงินกับแกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว?”

“ใช่ ชวนชม” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็เห็นพยักหน้าเห็นด้วย “คิดดูซิว่าคนบ้านนั้นปฏิบัติกับแกยังไง แกยังจะไปจดจำพวกเขาไว้อีกทำไม ยิ่งแกไปจดจำพวกเขาไว้ พวกเขาก็จะยิ่งมาเกาะเกี่ยวกับแกไม่หยุด”

“ขอโทษค่ะพ่อ ขอโทษค่ะแม่ หนูรู้ตัวว่าทำผิดไปแล้วค่ะ” ชวนชมพยายามคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วพูดอย่างรู้สึกผิด ในใจก็เกลียดคนบ้านตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์จะแย่แล้ว

เธอไปติดต่อกับตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ซะที่ไหนล่ะ เธอแทบจะอยากตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์จะแย่อยู่แล้ว

แต่เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ตอนที่เธอไปห้างนั้น บังเอิญไปเจอกับป้าคนหนึ่งของหมู่บ้านตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์เข้า ซึ่งป้าคนนั้นมาเป็นแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ที่ห้าง แล้วป้าคนนั้นก็ดีกับเธอไม่น้อย และได้ขอช่องทางการติดต่อกับเธอ เธอถึงได้ให้ไป

แต่ก็คิดไม่ถึง ว่าป้าคนนั้นกลับเอาช่องทางการติดต่อของเธอไปให้สองผัวเมียคู่นั้น พอสองผัวเมียคู่นั้นรู้ว่าเธอมีความเป็นอยู่ที่ดีแล้ว ก็เลยละเมิดข้อตกลงที่เคยให้ไว้กับคุณทามทอยในตอนนั้น และเป็นฝ่ายโทรมาหาเธอก่อน มาขอเงินกับเธอ

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอใช้คุณทามทอยไปข่มขู่ผัวเมียคู่นั้นไว้ คิดว่าผัวเมียคู่นั้นคงจะมาหาเธอถึงเมืองเดอะซีแล้วล่ะ

“รู้ว่าทำผิดก็ดีแล้ว เดี๋ยวไปเปลี่ยนเบอร์ใหม่อันหนึ่ง แล้วก็ตัดขาดกับพวกเขาไปซะ” เยี่ยมบุญหยิบตะเกียบขึ้นมาใหม่ แล้วก็พูดออกคำสั่งขึ้น

ชวนชมพยักหน้ากันติด ๆ “หนูรู้แล้วค่ะ เดี๋ยวหนูจะคุยกับพวกเขาให้รู้เรื่องค่ะ”

เธอลุกขึ้นมา แล้วก็เดินออกไปนอกห้องอาหาร

ถ้าหากว่าเป็นโทรศัพท์ที่โทรมาจากตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ แน่นอนว่าเธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงพ่อกับแม่

แต่ว่า โทรศัพท์สายนี้กลับไม่ใช่สายที่โทรมาจากตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ แต่เป็นของสถานีตำรวจ

เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมสถานีตำรวจจะต้องโทรศัพท์มาหาเธอด้วย เพื่อไม่ให้เกิดอะไรผิดพลาด ยังไงเธอก็ออกไปรับสายคงจะดีกว่า

พอมาถึงห้องรับแขก ชวนชมถึงกดรับสายขึ้นมา แล้วเอาโทรศัพท์แนบหูขึ้น และเปิดปากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า “ฮัลโล……”

“ไม่ทราบว่าใช่คุณชวนชมไหมครับ?” ทางปลายสายมีน้ำเสียงเรียบเฉยลอยมา

พอได้ยินน้ำเสียงนี้ ชวนชมก็รู้เลยว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน มือที่กำโทรศัพท์อยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะกำเข้าหากันแน่นขึ้นอีก “ใช่ค่ะ ฉันเองค่ะ”

“ในเมื่อคุณคือคุณชวนชม งั้นก็ขอเชิญตัวคุณมาที่สถานีตำรวจสักเที่ยวภายในหนึ่งชั่วโมงด้วย เพื่อให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดีครับ” ทางโทรศัพท์พูดขึ้นมา

สีหน้าของชวนชมเปลี่ยนไปเลย “สอบสวนคดีเหรอคะ? สอบ......สอบสวนคดีอะไรคะ?”

เรื่องเดียวที่เธอทำในช่วงนี้ ที่จะสามารถกลายเป็นคดีได้ ก็มีแต่เรื่องลอบทำร้ายคุณมายมิ้นท์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว