รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 383

ทันใดนั้นประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออก พยาบาลรับจ้างเข้ามาจากด้านนอก เห็นฉากนี้พอดี เบิกตากว้างด้วยความตกใจทันทีทันใด “คุณเปปเปอร์คุณ……”

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจอย่างมากกับการขัดจังหวะของพยาบาลรับจ้าง

เขาลุกขึ้นมาอย่างเสียดายนิดหน่อย หันศีรษะไปมองพยาบาลรับจ้าง ชูนิ้วชี้ขึ้นมาด้านหน้าริมฝีปากบาง “ชู่ อย่าทำให้เธอตื่น!”

พยาบาลรับจ้างถึงได้พบว่ามายมิ้นท์หลับไปแล้ว ก็พยักหน้าโดยจิตใต้สำนึก

เปปเปอร์ยืนขึ้นมาจากขอบเตียง เดินไปหาพยาบาลรับจ้าง จากนั้นก็หยิบกระเป๋าเงินออกมา ควักธนบัตรออกมาสองสามใบยื่นให้พยาบาลรับจ้าง “ที่เธอเห็นเมื่อกี้ อย่าพูดออกไป”

พยาบาลรับจ้างดวงตาเป็นประกายรับเงินมา ยิ้มไม่หุบ “ไม่ต้องห่วงค่ะคุณเปปเปอร์ เมื่อกี้ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”

“งั้นก็ดี” เปปเปอร์เก็บกระเป๋าเงิน พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อีกอย่าง คราวหน้าออกไปให้กลับมาเร็วๆ หน่อย พยายามเฝ้าหล่อนให้มากที่สุด อย่าอยู่ห่างจากหล่อน หล่อนมองไม่เห็น อยู่คนเดียวจะรู้สึกหวาดกลัวมาก ถ้าเธอทำได้ ฉันจะให้ค่าจ้างเธอ”

“ฉันทำได้แน่นอนค่ะ คุณเปปเปอร์ ฉันทำได้แน่!” กลัวตัวเองจะตอบช้าไป แล้วเปปเปอร์จะคืนคำ พยาบาลรับจ้างรีบตบหน้าอกรับประกันว่าต่อไปตัวเองจะเฝ้าเคียงข้างมายมิ้นท์ไม่ออกห่างแม้แต่ก้าวเดียวอย่างแน่นอน

เปปเปอร์ตอบอืม แล้วเปิดประตูเดินออกไป

ด้านหลังเขาปวดแสบปวดร้อน บาดแผลแส้มันเปิด ต้องรีบให้คุณหมอมาเปลี่ยนยา

……

วันรุ่งขึ้น มายมิ้นท์ดำเนินขั้นตอนออกจากโรงพยาบาล เตรียมไปเมืองน้ำรุ้ง

พยาบาลรับจ้างกำลังเก็บของให้เธอ เธอนั่งโซฟาข้างๆ โทรหาราเม็ง

ก่อนหน้านี้ โทรหาราเม็งไม่ติดเลย ก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน

และสองวันนี้ เพราะเธอเกิดเรื่อง ก็เลยไม่ได้ติดต่อเขา ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้โทรศัพท์เขาโทรติดหรือไม่

มายมิ้นท์โทรหาราเม็ง เอาโทรศัพท์แนบข้างหู

คราวนี้ โทรศัพท์ก็เชื่อมติดในที่สุด

ใบหน้ามายมิ้นท์ปรากฏยิ้มดีใจ

แต่ความดีใจนี้ มีได้ไม่นาน เพราะโทรศัพท์เชื่อมติดเท่านั้น แต่ไม่มีคนรับสาย

ไม่รู้ว่าราเม็งไม่เห็นมัน หรือจงใจไม่รับสาย

ในใจมายมิ้นท์เอนเอียงไปอย่างหลังมากกว่า

เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยส่งข้อความหาราเม็ง ให้ราเม็งเปิดเครื่องเห็นแล้วโทรกลับหาเธอ

ตอนนี้โทรศัพท์ราเม็งเชื่อมติดแล้ว แสดงว่าราเม็งเห็นข้อความเธอแล้ว แต่เขาไม่โทรมาเลย

นี่แสดงถึงอะไร?

แสดงว่าเขาไม่อยากติดต่อเธอ!

คิดถึงตรงนี้ ในใจมายมิ้นท์ก็ไม่ค่อยพอใจ มีความน้อยใจ และมีความกังวลด้วย

ที่น้อยใจคือ ทั้งๆ ที่ผู้บาดเจ็บคือเธอ ทำไมตอนนี้ดูแล้วเหมือนเขาเป็นผู้บาดเจ็บกันล่ะ แถมยังให้เธอที่เป็นผู้บาดเจ็บตัวจริงไปตามหาเขาก่อน ไปปลอบเขาก่อน!

แต่ที่กังวลคือ เธอไม่รู้ว่าสองสามปีนี้เขาไปไหนมา ไปทำไม สบายดีไหม

“เฮ้อ……” มายมิ้นท์ถอนหายใจด้วยความปวดศีรษะ

ในเวลานี้ ประตูทางเข้าก็มีเสียงเคาะประตู

ชาหวานชะโงกศีรษะเข้ามา ยิ้มกว้างทักทาย “ประธานมายมิ้นท์ ฉันมาแล้ว”

มายมิ้นท์มองไปตามเสียง คนที่มองไม่เห็นเธอ ก็ขัดขวางการยิ้มให้เธอไม่ได้ “รีบเข้ามา”

ชาหวานเดินเข้ามา “ประธานมายมิ้นท์ กำลังคิดอะไรอยู่ คิ้วขมวดหน้าบึ้งเชียว?”

“ราเม็งน่ะสิ ไม่รับโทรศัพท์ฉัน” มายมิ้นท์เขย่าโทรศัพท์ แล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้มขมขื่น

ชาหวานเข้าใจทันที “งี้นี่เอง เรื่องระหว่างคุณกับเขาในอดีต ฉันก็เคยได้ยินมา เขาน่ะ เป็นเด็กที่ไม่โต ไม่มีเหตุผลแล้วก็บ้าคลั่ง ประธานมายมิ้นท์ คุณห้ามคบกับเขาเด็ดขาด ไม่งั้นจะเป็นแม่กับลูกชาย คุณต้องปลอบ ต้องเอาใจเขาตลอดเวลา ถ้าเขารู้สึกไม่พอใจนิดเดียว เขาไม่เล่นหายตัวไปก็ทำเรื่องน่าปวดหัว คบกับคนแบบนี้มันเหนื่อยมากนะคะ”

ด้วยประสบการณ์บอดี้การ์ดหลายปี ทำให้เธอมีสายตาที่เฉียบคมในการมองคน

ถึงราเม็งจะดูอ่อนโยน เป็นวัยรุ่นสง่าผ่าเผยที่สุภาพอ่อนโยน แต่ความจริงก็แค่เสแสร้งเท่านั้นแหละ

ราเม็งตัวจริง ก็คืออย่างที่เธอกล่าวไป

มายมิ้นท์ได้ยินคำพูดชาหวาน ก็พูดขำขันอย่างอดไม่ได้ “พูดอะไรน่ะ ฉันจะไปคบกับราเม็งได้ยังไง ฉันเห็นเขาเป็นน้องชาย ไม่ว่าจะในอดีตหรือตอนนี้ หรือในอนาคต มันก็จะไม่เปลี่ยนแปลง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว