ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ นิยาย บท 868

เฉินไท่จวินแหงนหน้าขึ้นฟ้าและหัวเราะเสียงดัง “ทำในสิ่งที่ถูกต้องและมอบความยุติธรรมแก่สวรรค์งั้นหรือ?”

นางขี่ม้าไปข้างหน้า กวาดตามองข้าราชบริพารโดยรอบ และพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าล้วนเป็นขุนนางในราชสำนัก ได้รับความดีความชอบจากฝ่าบาทตั้งมากมาย เวลานี้กลับถูกคนร้ายจูงจมูก ยุยงให้ก่อการกบฏโดยง่ายอย่างนั้นรึ?”

หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินไท่จวิน ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน ทนไม่ได้เป็นอย่างยิ่งกับคำว่า “กบฏ”

เหลียงไท่ฟู่เย้ยหยัน “เฉินไท่จวินตื่นตระหนกตกใจไปเอง ฝ่าบาทประชวรเป็นแผลหน้าผี ก็เปรียบเสมือนเขาเป็นทรราชแห่งแผ่นดิน พวกเราจึงสนับสนุนองค์รัชทายาท ถึงอย่างไรเขาก็ยังมาจากตระกูลมู่หรง ประเทศชาติไม่ถือว่าเปลี่ยนมือ จะกลายเป็นการกบฏไปได้อย่างไร?”

จ้วงจ้วงเยาะเย้ยถากถาง “เจ้าแน่ใจหรือว่าตอนนี้ฝ่าบาทมีรอยแผลหน้าผีจริง? ก่อนหน้านี้เจ้ายังบอกอยู่เลยว่าเจ้าได้ยินข่าวลือมาจากด้านนอก และต้องการให้ฝ่าบาทออกมาระงับข่าวลือมิใช่หรอกหรือ? ในฐานะที่เจ้าเป็นถึงราชครู ไม่อับอายหรืออย่างไรหากสิ่งที่พูดไม่เป็นความจริง”

ไท่ฟู่ตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “องค์หญิง เป็นความจริงที่ข้าไม่มีหลักฐานยืนยัน ทว่าท่านไม่ได้ยินสิ่งที่องค์รัชทายาทและสนมเหลียงกล่าวหรือ? พวกเขาเห็นมันด้วยตาของพวกเขาเอง องค์รัชทายาทและสนมเหลียง คนหนึ่งเป็นพระโอรสของฝ่าบาท อีกคนเป็นอดีตฮองเฮา พวกเขาหรือจะพูดเรื่องไร้สาระ?”

เฉินไท่จวินแค่นเสียงเย็นชา “ข้าไม่ชอบคนแบบเจ้าที่สุด กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ กบฏก็จะเป็น ซุ้มอนุสาวรีย์ก็จะสร้างกระนั้นหรือ? ฝ่าบาทจะมีรอยแผลหน้าผีจริงหรือไม่นั้นไม่สำคัญ ต่อให้มี ก็ยังมีผู้สำเร็จราชการแทนอยู่ทั้งคนมิใช่หรือ? กงการอะไรของเจ้าถึงได้มาตะโกนโหวกเหวกอยู่ที่นี่?”

ไท่ฟู่สวนกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไท่จวินกล่าวเช่นนี้ไม่ถูก หากฝ่าบาททรงทนทุกข์ทรมานจากโรคแผลหน้าผี พระองค์ย่อมไม่มีพระกำลังพอจะลุกขึ้นมาแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อีกต่อไป ฉะนั้นพวกเราจึงมีสิทธิ์ออกมาเคลื่อนไหว”

เหล่าไท่จวินเงยหน้าขึ้น ตะคอกกลับด้วยความโกรธ “เจ้ากำลังจะบอกว่า ในเมื่อฝ่าบาททรงทนทุกข์ทรมานจากโรคแผลหน้าผี ก็แสดงว่าเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นจักรพรรดิอีกต่อไปใช่หรือไม่? เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ผู้ใดมอบอำนาจแก่เจ้าในการปลดจักรพรรดิ? ตาเฒ่ากะโหลกกะลาที่ร่ำรวยจากขายบุตรสาวตัวเองเอ๊ย! กล้าพูดเช่นนี้แสดงว่าเจ้าไม่กลัวตายแล้วสินะ? ตัวเองตายคนเดียวไม่พอ ยังลากข้าราชบริพารจำนวนมากมาก่อกบฏกับเจ้าด้วย ช่างเป็นการก่ออาชญากรรมทำร้ายผู้คนอย่างใหญ่หลวง รอให้ถึงมือข้าเมื่อไหร่ ข้าจะตัดหัวพวกเจ้าทิ้งซะ!”

เหล่าไท่จวินถึงกับออกปากว่าจะตัดศีรษะผู้ก่อการกบฏเรียงคนเช่นนี้ ทำให้ใครหลายคนตื่นตระหนกมาก

แม้ว่าจักรพรรดิจะทนทุกข์ทรมานจากโรคแผลหน้าผี ทว่าพระองค์ก็ยังเป็นจักรพรรดิมิใช่หรือ? หากไม่ยอมสละราชสมบัติซะอย่าง ต่อให้ขุนนางทุกท่านจะกดดัน เขาไม่มีวันล่าถอย เขายังมีอำนาจปกครองและอำนาจทางทหารอยู่ในมือ ในวังยังมีผู้สนับสนุนอีกมากมาย

จนถึงตอนนี้ ใครบ้างไม่เข้าใจทัศนคติของตระกูลเฉิน? ไหนจะมู่หรงเจี๋ยอีก คนเหล่านี้ล้วนมีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ

สนมเหลียงเดือดดาลมากกับคำพูดแย่ ๆ ของนาง “เหล่าไท่จวิน โปรดให้เกียรติผู้อื่นเสียบ้าง อย่าสบถถ้อยคำหยาบคายจนกลายเป็นเรื่องสนุก ข้าไม่จำเป็นต้องคุยกับเจ้าไปมากกว่านี้ หากเจ้าไม่ถอย นั่นหมายความว่าเจ้ากำลังขัดขวางวิถีแห่งสวรรค์ องค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์เมื่อไหร่ ตระกูลเฉินจะเป็นคนแรกที่ได้รับผลกรรม”

เฉินไท่จวินระเบิดหัวเราะเสียงดัง “หากองค์ชายรัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ ตระกูลเฉินของข้าจะเป็นคนแรกที่ก่อกบฏเช่นกัน องค์รัชทายาททั้งไร้ความสามารถ ไร้ความรู้ มุดหัวอยู่ภายใต้เงื้อมมือของราชครู แม้ว่าเขาจะขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิ เขาก็เป็นได้แค่หุ่นเชิด ก่อนหน้านี้ฮองเฮาออกจะฉลาด ไม่นึกเลยตอนนี้จะงมงายได้ถึงเพียงนี้ เพื่อยึดราชอำนาจ เจ้าถึงกับเอาชีวิตตนเองเข้าแลก เหลียงไท่ฟู่ก็อีกคน ข้าคิดว่าท่านจะฉลาด แต่ก็โง่ดักดานเช่นกัน นี่ยังไม่นับรวมอ๋องหนานหวายผู้ปราดเปรื่องที่ยอมแม้กระทั่งสมรู้ร่วมคิดกับพวกเขา ลองตรึกตรองให้ดีก่อนเถิด ไม่ว่าพวกเจ้าจะใจร้อนแค่ไหน อย่าเพิ่งรีบร้อนเลย หากฝ่าบาททนทุกข์ทรมานจากโรคแผลหน้าผีจริง พระชันษาคงไม่ยืนยาวมากไปกว่านี้ หรือว่าอดทนรอไม่ได้กัน? พวกเจ้าอุตส่าห์วางแผนกันมาเป็นปี ๆ แล้วแท้ ๆ”

อ๋องหนานหวายเอ่ยด้วยสีหน้าเฉยเมย “เฉินไท่จวิน อย่าพยายามหว่านความขัดแย้งเลย ข้าและราชครูมิได้เป็นพันธมิตรกันเพื่อกดดันใคร เราเพียงต้องการทราบความจริง หากฝ่าบาทประชวรเป็นโรคแผลหน้าผีจริง ข้ามีคนหนึ่งที่สามารถถวายการรักษาให้พระองค์ได้ก็เท่านั้น”

ไท่จวินเย้ยหยัน มองไปที่เหลียงไท่ฟู่ “เจ้าได้ยินหรือไม่? นี่ถึงจะเรียกว่าชาญฉลาด อีกหน่อยเมื่อถึงคราวชำระบัญชีช่วงฤดูใบไม้ร่วง ท่านอย่าคิดนับรวมพวกเขาเชียว ตระกูลเหลียงของท่านรอรับความโชคร้ายแต่เพียงผู้เดียวเถอะ”

เหลียงไท่ฟู่มองไปทางอ๋องหนานหวายด้วยสีหน้าซับซ้อน เขารู้ว่าอ๋องหนานหวานและกุ้ยไท่เฟยเป็นคนฉลาดแกมโกง ทว่าคราวนี้เขากลับร่วมแข็งข้อต่อวังหลวง และต้องการสนับสนุนองค์รัชทายาทให้ขึ้นครองบัลลังก์ แต่แน่นอนว่านั่นไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริง เพราะในอนาคตทั้งสองฝ่ายต้องต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงบัลลังก์อยู่ดี จึงสงวนกำลังเอาไว้ และไม่ใช้มันจนกว่าจะสามารถบีบบังคับให้องค์จักรพรรดิสละราชสมบัติได้จริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์