เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 193

เวลานี้หลิวหยุนเซียงและครอบครัวก็มาถึงพอดี

หลิวหยุนเซียงเอ่ยทักทาย : “พี่รอง พี่สะใภ้”

เหยาเสินเองก็เรียกตามขึ้นด้วยเช่นกัน : “ลุงรอง ป้า!”

“โอ้ หยุนเซียงกลับมาแล้ว เหยาเสินเองก็มาแล้วด้วย” หลิวหยุนเซิ่งตอบรับในทันที “สนใจมองแต่รถของเมี่ยวเจิน พวกเธอมาฉันไม่เห็นเลย”

หลิวเมี่ยวเจินที่หลิวหยุนเซิ่งพูดถึงนั้นก็คือลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัวพวกเขานั่นเอง

“รถคันนี้เหยาเสินขับมาหลายปีแล้วใช่ไหม? ฉันคิดว่าเปลี่ยนไปตั้งนานแล้วเสียอีก ยังเป็นคันนี้อยู่อีก?”ฉินชวงเอ่ยพูดขึ้นอย่างไม่จริงใจนัก

“รถคันนี้ฉันขับจนชินแล้ว มีความผูกพันแล้วค่ะ ทำใจเปลี่ยนไม่ได้แล้ว”เหยาเสินเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะ

“มีเงินใครไม่อยากจะขับรถดีๆกันล่ะ ได้ยินมาว่าเธอรับช่วงจากบริษัทล้มละลายที่ปิดตัวลงแล้วคงจะไม่ได้ทำเอาทรัพย์สินที่สะสมกันในบ้านของพวกเธอขาดทุนจนหมดแล้วหรอกใช่ไหม?” ในรอยยิ้มของฉินชวงซ่อนมีดเอาไว้พลางเอ่ยขึ้นอย่างยั่วเย้า

“ลูกสาวของฉันไม่ได้เอาเงินในบ้านไปซักแดนเดียว” หลิวหยุนเซียงเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

นิสัยใจคอของหลิวหยุนเซียงนั้น เดิมทีแล้วก็ไม่ได้ลงรอยกันกับภรรยาของพี่ชายอยู่แล้ว กลับมาช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาก็ถูกพวกเขาหัวเราะเยาะไม่น้อยเลย ดังนั้นเมื่อเจอหน้ากันแล้วก็มีการปะทะกันอยู่บ้าง

“พูดกันให้น้อยๆหน่อยเถอะ” หลิวหยุนเซิ่งพูดไกล่เกลี่ย

“เหยาเสิน พาแม่เข้าไปข้างในเถอะ คุณตาของเธอกำลังรอพวกเธออยู่ข้างใน”

หลังจากที่ตระกูลเหยาทั้งสี่คนเดินไปได้ไม่ไกล ก็มีเสียงของฉินชวงลอยมาข้างๆหู : “หลิวหยุนเซียงก็ไม่กลัวจะขายหน้าเลยนะ ยังจะพาคนไร้ประโยชน์นี่มาให้ขายหน้าด้วยกันอีก......”

หลิวหยุนเซียงที่กำลังจะหันกลับไปต่อว่าต่อขาน ก็ถูกเหยาเสินกับเซียวชุ่นดึงเอาไว้

“แม่ ช่างเถอะ วันนี้ในบ้านมีคนมากขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องไปทะเลาะกับเธอเลย” เหยาเสินเกลี้ยกล่อม

“เธอบอกใครเป็นคนไร้ประโยชน์กัน? ลูกเขยของพวกเราเป็นพวกไร้ประโยชน์เสียที่ไหน?”หลิวหยุนเซียงดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนเธอเองก็เคยพูดถึงเซียวชุ่นแบบนี้เช่นกัน เวลานี้ลนลานเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเขาแล้ว

เหยาเสินกับเซียวชุ่นมองสบตากันแล้วยิ้ม ล้วนแต่มีใบหน้าที่จนปัญญากันทั้งสิ้น

คฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลหลิวไม่ใหญ่ จัดให้เป็นระเบียบก็ยังนับว่ามีความสง่างาม เวลานี้เป็นช่วงเวลากลางวันพอดี แสงแดดกำลังดี

ในบ้านนั้นนั่งได้ไม่มากขนาดนั้น วางเก้าอี้เอาไว้ตรงลานบ้าน เวลานี้แขกบางคนก็กำลังนั่งพูดคุยกันเรื่องครอบครัว ล้วนแต่เป็นลูกหลานเครือญาติของตระกูลหลิวทั้งสิ้น หน้าประตูโถงกลางมีเด็กๆกำลังจุดประทัดกันอยู่ เป็นฉากที่มีความปรองดองและมีความสุขมากเช่นกัน

นายท่านหลิวไม่อยู่ในลานบ้าน หลังจากที่ตระกูลเหยาทั้งสี่คนเข้ามาแล้วทักทายกับพวกญาติๆพักหนึ่งแล้ว ก็ไปที่โถงกลางเพื่อไปถามไถ่สารทุกข์สุขดิบนายท่านหลิว

หลิวหมิงต๋ามีครอบครัวของหลิวหยุนเซิ่งพี่สาวคนโตของหลิวหยุนเซียงนั่งเป็นเพื่อนอยู่ในโถงกลาง มองดูลานบ้านที่เต็มไปด้วยลูกๆหลานๆแล้ว รอยย่นบนใบหน้าก็อดที่จะยืดเส้นยืดสายไปด้วยไม่ได้

บนผนังกำแพงด้านหลังเขานั้นมีรูปเทพเจ้าเก่าแก่แขวนเอาไว้ บนโต๊ะไม้ที่อยู่ด้านล่างมีกระถางธูปตั้งอยู่ ในกระถางธูปนั้นมีธูปจุดเอาไว้ น่าจะไหว้เสร็จก่อนหน้านี้ไม่นาน

ทุกๆปีที่เซียวชุ่นมาเห็นว่าคนของตระกูลหลิวแทบจะไม่เชื่อศรัทธาเทพเจ้าองค์อื่นเลย มีเพียงแค่ไหว้บูชาองค์นี้เท่านั้น

เรียกกันว่าลัทธิเทียนเซิ่งอะไรนั่น และผู้หญิงที่ลอยอยู่ในรูปนั้นก็คือผู้หญิงสูงศักดิ์ของลัทธิเทียนเซิ่งนั่นเอง

“หยุนเซียงกลับมาแล้ว” หลังจากที่ตระกูลเหยาทั้งสี่คนเข้ามาแล้ว หลิวหมิงต๋าก็เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

“พ่อ ช่วงนี้สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง?”หลิวหยุนเซียงเอ่ยถาม

“ดีมากเลย”หลังจากที่หลิวหมิงต๋าพูดจบแล้วก็มองไปยังเหยาเสินด้วยความเอ็นดู : “หนูเสินก็มาด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊