The king of War นิยาย บท 1428

ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่ผู้พูด

หลี่เจียงสง ผู้นำหลี่ซื่อกรุ๊ป เมืองราชวงศ์ซ่างกวน

หลี่เจียงสงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน สองตาจับจ้องไปที่กษัตริย์เย่แล้วพูดว่า “กษัตริย์เย่ คุณทำแบบนี้ ไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ?”

“เกินไป?”

กษัตริย์เย่ยิ้มเยาะ “ผมเพิ่งจัดตั้งพันธมิตรชั้นยอดจากกองกำลังที่กระจัดกระจายในจิ่วโจว ก็เพื่อประโยชน์ของสมาชิกของพันธมิตร มีอะไรเกินไปตรงไหน?”

“คุณบอกเองว่าพันธมิตรจัดตั้งขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของสมาชิกพันธมิตร แต่ในความเป็นจริงล่ะ? ไม่ใช่เพื่อจุดประสงค์ในการผนึกกองกำลังทั้งหมดในจิ่วโจวให้สวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์เย่หรอกหรือ? มันไม่มากเกินไปยังไง?”

“คุณขอให้ทุกคนยกมือลงคะแนนว่าจะจัดตั้งพันธมิตรหรือไม่ บอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของกองกำลังทั้งหมด แต่ในขณะเดียวกันก็ข่มขู่ว่า หากไม่เข้าร่วมพันธมิตรก็จะไม่สามารถเข้าร่วมพันธมิตรได้อีกเลยในอนาคต ความหมายนอกเหนือจากนั้นก็คือ หากไม่ได้เข้าร่วมพันธมิตร ต่อไปจะถูกกดขี่ข่มเหงจากสมาชิกของพันธมิตรได้ทุกเมื่อ? นี่ไม่มากเกินไปเหรอ?”

หลี่เจียงสงยังคงคาดคั้นถามด้วยท่าทีอันแข็งแกร้าว เดิมทีเขาอยู่ในระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ แม้จะห่างจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง แต่ก็เพียงก้าวเดียวเท่านั้น

ในการเผชิญหน้ากับกษัตริย์เย่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง เขาไม่ได้รู้สึกกลัวเลย สายตาของเขาแข็งกร้าวอย่างยิ่ง

สมาชิกกองกำลังทั้งหมดที่อยู่ในที่นี้มีสีหน้าประหลาดใจ ไม่มีใครคาดคิดว่า หลี่เจียงสงจะกล้าได้กล้าเสียขนาดนี้ แม้แต่ราชวงศ์อื่นๆ ก็ยังไม่เอ่ยปากขัดขวางการจัดตั้งพันธมิตรเลย เขาในฐานะผู้นำของตระกูลระดับสูงในเมืองราชวงศ์ซ่างกวน กล้าที่จะงัดข้อกับกษัตริย์เย่ต่อหน้าสาธารณชน

สีหน้าของกษัตริย์เย่มืดมนลงอย่างถึงขีดสุด เขาหรี่ตามองหลี่เจียงสงและกล่าวว่า “จุดประสงค์ของการก่อตั้งพันธมิตร เดิมทีเพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับพันธมิตร ในเมื่อพวกคุณไม่ต้องการเข้าร่วม ถ้าพวกคุณถูกกองกำลังใดกดขี่ข่มเหง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการจัดตั้งพันธมิตรล่ะ?”

หลี่เจียงสงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต้องเกี่ยวแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่มีพันธมิตร แล้วกองกำลังแต่ละฝ่ายจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ แต่เมื่อพันธมิตรจัดตั้งขึ้นแล้ว พวกที่มีความสามารถสู้เราไม่ได้ หรืออาจจะเป็นปฏิปักษ์ต่อเรา จะต้องอาศัยการคุ้มครองจากพันธมิตรมาจัดการกับเรา”

“ถ้ามีแค่พวกเขาก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หากบุญคุณความแค้นระหว่างเรามีอยู่ก่อนการจัดตั้งพันธมิตร มันไม่เกี่ยวข้องกับใครหรือกองกำลังใดๆ เลย พอถึงตอนนั้นหากพันธมิตรเข้ามาแทรกแซงจะทำยังไงล่ะ?”

แม้แต่หยางเฉินก็ยังแปลกใจเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงว่าหลี่เจียงสงจะกล้าแข็งข้อกับกษัตริย์เย่ แต่เมื่อคิดถึงผลประโยชน์ที่เขาสัญญาเอาไว้กับตระกูลหลี่ ก็เข้าใจว่าทำไมหลี่เจียงสงถึงยอมทุ่มเททุกอย่าง

ถึงอย่างไรหลี่จ้งได้นำผู้แข็งแกร่งของหลี่ซื่อกรุ๊ปเข้ามาในเมืองราชวงศ์เย่แล้ว หลังจากเรื่องราวทางนี้เรียบร้อย หยางเฉินจะช่วยให้ตระกูลหลี่เข้าสวมรอยแทนที่ราชวงศ์เย่

คำพูดของหลี่เจียงสง ทำให้ผู้คนที่มีความสามารถที่ค่อนข้างพึ่งพาได้จำนวนไม่น้อยเกิดความกังวลมากขึ้น

ก็เหมือนกับที่หลี่เจียงสงกล่าว หากปราศจากพันธมิตร กองกำลังแต่ละฝ่ายสามารถพึ่งพาความสามารถของตนเองได้เท่านั้น

แต่หลังจากที่ก่อตั้งพันธมิตรขึ้น มันจะเป็นผลดีสำหรับกองกำลังที่ค่อนข้างอ่อนแอกว่า แต่ก็ไม่ยุติธรรมสำหรับกองกำลังที่แข็งแกร่งกว่า

อย่างเช่นกองกำลัง A และกองกำลัง B เป็นศัตรูคู่แค้นกัน กองกำลัง A นั้นแข็งแกร่งกว่ากองกำลัง B แต่เมื่อกองกำลัง A และ B เข้าร่วมเป็นพันธมิตร ความเคียดแค้นระหว่างพวกเขาก็จะถูกพันธมิตรเข้าขัดขวาง

มันไม่ยุติธรรมกับกองกำลัง A เลย

ผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในที่นี้ล้วนมาจากกองกำลังชั้นนำทั่วทั้งจิ่วโจว พวกเขาคิดว่ากองกำลังของตัวเองแข็งแกร่งมาก หากจัดตั้งพันธมิตร จะรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบ

ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจของสมาชิกกองกำลังระดับสูงจำนวนมากเริ่มสั่นคลอน

“กษัตริย์เย่ ราชวงศ์เย่จะมีความทะเยอทะยานก็ได้ แต่เราไม่สามารถปฏิบัติต่อทุกท่านในที่นี้เหมือนเป็นคนโง่ ราชวงศ์หลงของเราต่อต้านการจัดตั้งพันธมิตรโดยเด็ดขาด”

ในเวลานี้ จู่ๆ หลงจิ้นก็เอ่ยปากขึ้น กวาดสายตามองไปรอบๆ ฝูงชนและกล่าวอย่างเย็นชา “ผมขอเสนอแนะทุกท่านด้วย ถ้าใครเข้าร่วมเป็นพันธมิตร ก็จะเป็นศัตรูของราชวงศ์หลงของเรา!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War