ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 383

คำพูดนี้พูดซะจน เฉินซ่าฟังแล้วก็ไม่ค่อยสบอารมณ์ กวาดตามองเขาแวบหนึ่ง "เจ้าจำไว้ ชีชีไม่ได้มีที่มาไม่ชัดเจน อย่าเอาแมวเอยสุนัขเอยยกมาเปรียบเปรยกับผู้หญิงของข้าส่งเดชอีก"

อิงเห็นเขามีสีหน้าเย็นชา ก้มหัวลงช้าๆและตอบรับ เฉินซ่าไม่เคยพูดเรื่องของโหลฮ่วนเทียนกับพวกเขา แม้ว่าโหลชีจะยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านั่นมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเชื่อมโยงกับนาง ควรจะเป็นพี่ใหญ่ของนางอย่างไร้ข้อสงสัย แต่ตอนนี้สถานการณ์ของตระกูลโหลก็ไม่ชัดเจน เขาไม่หวังว่าโหลชีจะติดสอยเข้าไปด้วย หากต้องคิดจะให้นางกลับเข้าบ้าน ตระกูลโหลจะต้องยอมรับตัวตนของนางเอง แสดงท่าทีต้อนรับนางกลับไปถึงจะถูก ไม่เช่นนั้นโหลชีจะรู้สึกว่าได้รับความไม่เป็นธรรม

แม้ว่าจะไม่มีตระกูลโหล โหลชีก็เป็นพระสนมของเขา และก็ไม่ได้มีที่มาไม่ชัดเจน พั่วอวี้สามารถเป็นบ้านสามีของนางได้ และสามารถเป็นบ้านฝ่ายหญิงของนางได้เช่นกัน

"เตรียมม้า" เฉินซ่าสั่งคำหนึ่ง สาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปนอกประตู

จะสามารถจากไปเช่นนี้ได้อย่างไร? เยว่และอิงล้วนตะลึงงันแล้ว มีผู้ส่งสารส่งข่าวสารกลับมา ไม่ช้าคนของอุทยานเขาธนูเทพก็จะมาถึงเมืองพั่วอวี้แล้วนะ อุทยานเขาธนูเทพนี้ ฝ่าบาทได้ติดต่อไปมาหาสู่กันมานานและเตรียมการเป็นเวลานานมากแล้ว เป็นส่วนสำคัญในการฝึกซ้อมทหารของพวกเขา เป็นเรื่องทางการที่มีความสำคัญถึงที่สุดเรื่องหนึ่งเชียวล่ะ

"นายท่าน พระสนมจะต้องปลอดภัยหายห่วงเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ คนจากอุทยานเขาธนูเทพใกล้จะมาถึงแล้ว นายท่าน เจ้าบ้านท่านนั้นของอุทยานเขาธนูเทพยินยอมมาเจรจาครั้งนี้ไม่ได้ง่ายๆเลยนะพ่ะย่ะค่ะ หากว่าพวกเขามาแล้วไม่พบท่าน เกรงว่าเรื่องนี้จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอีก นายท่าน......" เยว่รีบติดตามไป คิดจะเกลี้ยกล่อมห้ามปรามเขา ความสามารถของโหลชีพวกเขาล้วนกระจ่างเป็นอย่างมาก จะเกิดเรื่องขึ้นง่ายๆเช่นนั้นได้อย่างไร พูดคำหนึ่งที่ไม่ค่อยจะดีสำหรับคนอื่น แม้ว่าคนสามสิบกว่าคนนั่นจะตายจนหมดเกลี้ยง โหลชีก็อาจจะเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นดีได้

สำหรับความสามารถของโหลชีต่อพวกเขาแล้วในตอนนี้ได้ถึงระดับสูงที่รับรองได้ว่าสูงส่งเป็นอย่างมาก

ฝ่าบาทเป็นห่วงจนกระวนกระวายใจ

แต่พวกเขาล้วนไม่เคยมีผู้หญิงมาก่อน ทว่ากลับไม่รู้ว่าความเป็นห่วงคนคนหนึ่ง ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีความสามารถมากเพียงใด เมื่อได้ยินว่าฝ่ายตรงข้ามเกิดเรื่องแล้วหากไม่ร้อนใจ เชื่อเพียงอย่างเดียวว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่เป็นอะไร ความรู้สึกไม่ได้ผันผวน เช่นนั้นยังจะถือว่าเป็นความรักอะไรได้อีก? ยังมี......

รสชาติของความหึงหวง

ราวกับว่าเฉินซ่าจะไม่ได้ยิน สาวเท้าก้าวใหญ่ออกจากประตูตำหนักไปราวกับสายลม

มีคนเข้ามาด้วยความรีบร้อน คำนับลงไปทางเฉินซ่า "ฝ่าบาท ทางด้านเมืองชีเกิดแผ่นดินไหวพ่ะย่ะค่ะ!"

"อะไร?"

"แผ่นดินไหว?"

เยว่และอิงก็ตะลึงงันไปแล้ว แผ่นดินไหวพวกเขาแค่เคยได้ยินเท่านั้น ไม่เคยได้เผชิญมาก่อน สามปีก่อนตงชิงก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นครั้งหนึ่ง พวกเขาก็รู้ ตอนนั้น เมืองเล็กๆทั้งเมืองของตงชิงถูกทำลายแล้ว บ้านเรือนราษฎรพังทลายทั้งหมด ภูเขาถล่มพื้นดินแยก บาดเจ็บล้มตายอย่างสาหัส อีกทั้ง ตอนนั้นในนั้นมียอดฝีมือของวงการยุทธจักไม่กี่คน ล้วนหนีออกมาไม่ได้ ทั้งหมดถูกทับตายอยู่ใต้บ้านเรือน

แผ่นดินไหว น่ากลัวเพียงใด

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เมืองชีจะมีแผ่นดินไหว?

"สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?" สีหน้าของเฉินซ่าเคร่งขรึมดั่งหมึก เมืองชี เมืองชี! โหลชีก็อยู่ในนั้นนี่นา

แต่ว่า เล่ากันว่าแผ่นดินไหวจะสะเทือนต่อเป็นพันลี้ ทำไมที่พวกเขาตรงนี้ถึงไม่รู้สึกแม้สักนิด?

อันที่จริง โหลชีอยู่ในเขาพิณก็รู้สึกได้ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้น่าจะใหญ่มาก แต่ความจริงเล็กกว่าที่นางคาดเดาไว้มาก เพียงแต่นางอยู่ในภูเขา เพราะเดิมทีลักษณะภูมิประเทศก่อนหน้านี้ของเขาพิณลูกนั้นมีที่ว่างด้านในมากมาย ตีนเขามีโพรงถ้ำขนาดใหญ่จำนวนมาก แผ่นดินไหวสั่นสะเทือนทำให้โพรงถ้ำถล่ม จึงทำให้มองเห็นว่าภูเขาผืนนี้พินาศย่อยยับอย่างชัดเจน ถ้ำขนาดใหญ่เหล่านั้นถล่มทลายทีละถ้ำ จึงทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและเสียงดังอยู่บ้าง นี่จึงได้ทำให้รู้สึกได้ว่าการสั่นสะเทือนรุนแรงมาก

"ทูลฝ่าบาท ใต้เท้าโจวกำลังรวบรวมข้อมูลตัวเลข แต่โดยพื้นฐานควบคุมได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ มีเพียงบ้านเรือนบางหลังที่กำลังก่อสร้างพังถล่ม หอปราสาทกำแพงเมืองและบ้านเรือนที่สร้างเสร็จแล้วล้วนปลอดภัยไร้ความเสียหาย มีเด็กและลูกจ้างบางส่วนได้รับบาดเจ็บพ่ะย่ะค่ะ"

"นายท่าน ข้าน้อยจะเข้าไปทางนั้น ข้าน้อยพาคนไปหนึ่งร้อยคน ครึ่งหนึ่งให้อยู่ช่วยเหลือโจวหลี่ ครึ่งหนึ่งเข้าภูเขาไปหาพระสนมพ่ะย่ะค่ะ" อิงอาสาด้วยตัวเอง

คนผู้นั้นที่มารายงานกลับลังเลเล็กน้อย แล้วเอ่ยว่า: "ใต้เท้าองครักษ์อิงต้องการเข้าไปที่ภูเขาลูกไหนขอรับ? ขณะที่ข้าน้อยมาได้ยินคนบอกว่า เขาพิณพังถล่ม ทางเข้าภูเขาถูกปิดแล้ว ตอนนี้เข้าภูเขาไม่ได้ขอรับ"

"เขาพิณพังถล่ม?"

ทันทีที่ได้ยินคำนี้ เฉินซ่าจะยังยับยั้งความร้อนใจได้อีกอย่างไร?

ตอนนี้เขาไม่สนใจเกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายของเมืองชีสักนิด! แต่โหลชีกลับอยู่ในเขาพิณ! นางก็อยู่ในนั้น!

ตอนนี้เยว่และอิงก็ไม่กล้าพูดว่านางมีความสามารถสูงส่งมาก จะต้องปลอดภัยหายห่วงเป็นแน่ เขาทั้งลูกถล่มหมดแล้ว แม้วิทยายุทธจะสูงส่งแล้วจะสามารถทำอะไรได้! จะมีประโยชน์อะไร!

เบื้องหน้าเงาสีดำเงาหนึ่งผ่านออกไป พริบตาเดียวก็ออกจากประตูใหญ่ของตำหนักไปแล้ว เสียงทุ้มต่ำของเฉินซ่าลอยมาในสายลม "เยว่อยู่ต้อนรับคนอุทยานเขาธนูเทพ อิงรีบนำทหารสองร้อยคนตามมา"

"พ่ะย่ะค่ะ"

ตอนนี้พวกเขาก็ทำได้เพียงตอบรับ หากว่าโหลชีเกิดเรื่อง พวกเขาก็ล้วนไม่กล้าจินตนาการแล้ว

เฉินซ่าขี่เฟยเหินไปทางเมืองชีด้วยความเร็วมาก แต่เวลานี้กำลังจะล่วงเลยเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ยามค่ำคืนคล้อยมา ทุ่งป่าเถื่อนของพั่วอวี้ในช่วงจังหวะเวลานี้ ผีและปีศาจมากมายกำลังรอคอยโอกาสนี้

นอกประตูเมือง ตรงมุมหัวเลี้ยวด้านล่างของเชิงกำแพงเมือง คนหกคนม้าห้าตัวชำเลืองมองม้าเร็วสามตัวที่วิ่งด้วยความเร็วเต็มที่นั่น สีหน้าของทุกคนแตกต่างกันออกไป ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดผอมแห้งอ่อนแอ ใบหน้าซีดขาว เผยให้เห็นดวงตาที่โตขึ้นและดำขึ้น เพียงแค่ในดวงตานั่นกลับปรากฏแสงสลัวของความรักและความเกลียดชังที่ผสมผสานกันแวบหนึ่ง

"ทำไม ตอนนี้ใต้เท้าองครักษ์เสวี่ยเสียใจแล้วหรือ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ