ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 397

ด้านนอกประตูห้องนอน สาวน้อยสี่คนยืนอยู่ซ้ายขวา แต่ละคนแต่งตัวสีสันสดใส ภายใต้แสงตะเกียงทำให้ดูงดงามมีเสน่ห์ดุจภาพวาด อายุน้อยที่สุดก็แค่สิบสี่สิบห้าปี มากสุดไม่เกินสิบแปดปี

ในมือพวกนางถือของหลายสิ่งหลายอย่าง สีหน้าเขินอายและปีติ หนึ่งคนในนั้นยังพูดอะไรบางอย่างกับเทียนยีที่ยืนเฝ้าประตู

เทียนยีส่ายหัว จากนั้นก็เห็นโหลชี รีบถอนหายใจโล่งอก

"พระสนม"

สาวน้อยเหล่านั้นหันหัวมามอง พอเห็นโหลชี ต่างมีสีหน้าต่างๆกัน

เสื้อเชิ้ตรัดรูปและกางเกงยีนส์รัดรูปของโหลชีเด่นสะดุดตาจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินซ่าสลบไปแล้ว ต้องไม่ยอมให้นางใส่ชุดเยี่ยงนี้มาเดินไปเดินมาในจวนเจ้าเมืองแน่

นอกจากชุดนี้แล้ว พวกนางยังเห็นหน้าตาของโหลชี ต่อให้โหลชีงดงามเป็นเลิศ ก็ยังมีคนไม่อยากยอมรับว่านางงดงามกว่าตนเพราะว่าริษยา และยังจงใจเมินเฉยเพราะการแต่งกายที่แปลกประหลาด และคิดว่านางก็แค่นี้เอง

เพราะจวนเจ้าเมืองยังสร้างไม่เสร็จ จึงได้แต่หานางกำนัลมาเก็บกวาดทำความสะอาดเท่านั้น ปกติพวกนางเพียงจัดการสิ่งต่างๆ เช่น ปักดอกไม้ลงแจกัน หรือเปลี่ยนมู่ลี่ เปลี่ยนดอกไม้อะไรทำนองนั้น

คนพวกนี้เพราะโจวหลี่คิดว่าถ้าหากโหลชีมาพำนักที่นี่จริง ต้องพาคนของตนเองมาแน่ ถึงเวลานั้นนางกำนัลพวกนี้ก็จะให้นางเป็นคนคัดเลือกเอง ดังนั้นเลยหาพวกหน้าตาสะสวย คล่องแคล่วว่องไวมา สาวน้อยเหล่านี้คิดอะไรนั้นเขาไม่ได้สนใจเท่าไรนัก

ตอนนี้คนพวกนี้ล้วนมอบให้พ่อบ้านจัดการหมดแล้ว ในตอนที่พ่อบ้านรู้ว่าเฉินซ่าและโหลชีจะมาพำนักก็ไม่กล้าชักช้า รีบส่งคนมารับรองทันที

แต่ตอนนี้โหลชีมองดูคนพวกนี้พลางเลิกคิ้วอย่างสงสัย

ในตำหนักจิ่วเซียว นางกำนัลส่วนมากไม่มีทางได้เข้าใกล้ตำหนักเขาในยามที่เขาพักผ่อนเลย ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้นางพึ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก

"นี่มันเรื่องอะไรกัน?" นางไม่ใช่ไม่เห็นสายตากระอักกระอ่วนของเทียนยี

"เรียนพระสนม นางกำนัลพวกนี้มารับใช้ฝ่าบาทเปลี่ยนชุด..." เทียนยีก้มหน้าลงต่ำ

โหลชีคิดภาพตามทันที

เฉินซ่านอนบนเตียง สาวน้อยเป็นขบวน บางคนแก้สายรัดเอว บางคนเปิดเสื้อเขาออก บางคนแก้กางเกงเขา...

หยุด!

"ฝ่าบาทไม่ชอบให้มีคนรับใช้ เจ้ามิรู้รึ?" นางเหล่เทียนยีหนึ่งที และเดินขึ้นขั้นระเบียง

เทียนยียังไม่ได้พูดอะไร นางกำนัลคนที่เมื่อครู่พูดกับเขานั่นพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนหวานว่า "พระสนม ข้าน้อยหงเสีย มิใช่บอกว่าฝ่าบาทเหน็ดเหนื่อยหรือไร? พวกข้าน้อยตระเตรียมน้ำไว้ให้ฝ่าบาทเช็ดตัวทำความสะอาดแล้ว เรื่องพวกนี้มิควรให้พระสนมทำดอก พระสนมเป็นผู้สูงส่ง"

โหลชีเลิกคิ้วมองสาวน้อยคนนั้น น้ำเสียงนี้ฟังแล้วเหมือน...มีเหตุผลเสียจริง ในโลกนี้ผู้มีอำนาจคนใดไม่มีนางกำนัล เรื่องการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านี้ดูจะเป็นงานที่ให้เหล่านางกำนัลรับใช้ โดยเฉพาะยามที่เจ้านายไม่สบายอย่างนี้ด้วยแล้ว

"ไม่ต้องหรอก พวกเจ้าไปพักผ่อนเถอะ"

นางกำนัลคนนั้นคิดว่าตนพูดอย่างนี้แล้วจะสามารถเข้าไปในห้องบรรทมรับใช้ฝ่าบาทได้ ไม่คิดว่าโหลชีจะยังคงปฏิเสธ อดอึ้งไม่ได้

นางคิดถึงข่าวลือภายนอก มีคนว่าโหลชีเป็นเด็กกำพร้าที่ฝ่าบาทเก็บได้จากข้างนอก ไม่มีฐานะหรืออำนาจใดๆ ดูแล้วท่าจะจริง

มาจากสามัญชน หรืออาจจะคนยากไร้ ต้องไม่ชินกับการมีคนรับใช้แน่

คนมีอำนาจถ้าไม่มีมาดเลยสักนิด ในบางด้านแล้วออกจะไร้สง่าราศี นางกำนัลคนนี้เริ่มดูถูกโหลชีขึ้นมาบ้างแล้ว

"พระสนม ให้พวกข้าน้อยรับใช้ฝ่าบาทเถิด พระสนมเองก็ต้องทำการชำระล้าง ให้เสี่ยวยินพาพระสนมไปอาบน้ำ ข้าน้อยจะทำการรับใช้ฝ่าบาทด้วยใจแน่นอนเจ้าค่ะ"

โหลชีชะงักกึก เปิดประตู "ยกของเข้ามาเถอะ"

เหล่านางกำนัลคิดว่าจะให้พวกนางเข้าไปรับใช้จริงๆ ต่างมีสีหน้าลิงโลด เดินตามโหลชีเข้าไป และจะพุ่งไปทางเตียงใหญ่ทันที

"หยุด ของวางลง พวกเจ้าออกไปได้แล้ว"

คำพูดของโหลชีทำให้พวกนางตะลึง "พระสนม?"

พวกหงเสียเคยได้ยินว่าฝ่าบาทหล่อเหลาไร้ใครเทียม ถึงจะมีชื่อเสียงเรื่องโหดเหี้ยม แต่พวกนางกลับรู้สึกว่า นั่นก็เป็นฝีมือ บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ทำคนรักใคร่เลื่อมใส

ยามที่พวกนางรู้ว่าเมืองชีนี้ยกให้โหลชีก็พากันผิดหวัง เจ้าเมืองเป็นหญิง ต่อไปพวกนางจะเอาความหวังในการครอบครองลาภยศสรรเสริญจากที่ใด? ไปตำหนักจิ่วเซียวยังไม่แน่อาจจะพยายามมากขึ้น จนได้เป็นขุนนางหญิง ในจวนเจ้าเมืองนี้พวกนางคงเป็นได้แค่นางกำนัลจนตาย โหลชียังไม่แน่ว่าจะอยู่ที่นี่ตลอด แล้วพวกนางจะทำอะไรได้?

ตอนนี้ฝ่าบาทอุตส่าห์มาทั้งที หากพวกนางสามารถรับใช้ฝ่าบาท ต่อให้มิอาจมีสัมพันธ์กับพระองค์แม้เพียงหนึ่งคืนได้ ขอเพียงฝ่าบาทชอบ เอ่ยปากให้พวกนางไปตำหนักจิ่วเซียว ต่อไปยังกลัวมิมีโอกาสรึ?

เหมือนความคิดของคนส่วนใหญ่ พวกนางต่างไม่เชื่อว่าฝ่าบาทจะมีสตรีเพียงนางเดียวได้ แทบจะทุกคนพากันรอคอย รอวันนั้นที่ความรักของฝ่าบาทที่มีต่อโหลชีดับมอดลง และพวกเขาเชื่อมั่นว่า อย่างมากก็ไม่เกินครึ่งปี

ต้องรู้ไว้นะว่า บุรุษน่ะได้ใหม่ลืมเก่าเสมอ

โหลชีกลับขี้เกียจมากความกับพวกนางต่อ บรรยากาศเริ่มกดดัน พริบตาเดียวพวกนางก็ใบหน้าซีดเผือด

"ออกไป"

เหล่านางกำนัลรีบวางข้าวของลงอย่างรีบร้อน และหมุนตัวออกไป หงเสียที่ถือชุดสับเปลี่ยนกัดริมฝีปากแต่ไม่ยอมออกไป นางมองหน้าโหลชีว่า "พระสนม ข้าน้อยได้กลิ่นคาวเลือด ฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่?"

ประสาทดมกลิ่นของนางดีกว่าคนธรรมดามาแต่เด็ก เมื่อครู่ตอนเข้ามาก็ได้กลิ่นคาวเลือดแล้ว บวกกับก่อนหน้านี้ที่เทียนยีมาเอารถม้าก็สั่งการไว้แล้วว่า ให้พวกเขาตระเตรียมเสื้อผ้าชายหญิงไว้อย่างละชุด บัดนี้โหลชียืนอยู่ที่นี่ดีๆ แต่เสื้อผ้าแปลกประหลาด จะเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่แปลก ฝ่าบาทกลับอยู่แต่ในห้อง ไม่พบเจอผู้ใด ไม่ถามไถ่เรื่องราว เห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บแล้ว

หงเสียไม่ได้บอกการคาดเดานี้กับนางกำนัลคนอื่น ตอนนี้เห็นพวกนางออกไปแล้ว เหลือนางเพียงคนเดียว ย่อมไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ ดูแลฝ่าบาทที่ได้รับบาดเจ็บ ยิ่งทำให้ฝ่าบาทชอบนางได้ง่ายยิ่งขึ้น

นางกลับไม่ได้สังเกตเห็นว่า พอโหลชีได้ยินคำพูดนาง ดวงตางามหรี่ลงเล็กน้อย "กลิ่นคาวเลือด ไม่คิดว่าข้ามีระดูเจ้ายังดมกลิ่นออกมาได้ จมูกเจ้านี่ดียิ่งกว่าหมาเสียอีก"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ