ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 405

ร่างเงาของหยุนเฟิงลับเข้าผืนป่าด้านหลังไปแล้ว โหลชีเริ่มสอนสามสิบกว่าคนนี้ เฉิงสิบกับโหลวซิ่นก็เรียนด้วย แรกเริ่มเฉินซ่ายังฟังอยู่ข้างๆ แต่ฟังไม่กี่ประโยคก็สิ้นความสนใจแล้ว อิงไม่สนใจเรื่องพวกนี้ อีกอย่างเขาถูกโหลชีปฏิเสธแต่แรกแล้ว บอกว่าเขาไม่มีพรสวรรค์เรียนกับนาง ดังนั้นจึงไม่เสียแรงเปล่า หันไปเอ่ยกับเฉินซ่า "นายท่าน ไปพักด้านข้างก่อนเถิด"

เขาชี้ทางต้นไหม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล

ต้นไม้ต้นนั้นไม่สูงมาก แต่ร่มรื่นผิดปกติ เรือนไม้แบนแผ่ขยาย ประหนึ่งกลดเขียวขนาดยักษ์คันหนึ่ง เวลานี้แสงแดดยังไม่จัด นั่งอยู่ใต้เงาร่มประเสริฐที่สุดแล้ว

เฉินซ่า "อือ" เสียงหนึ่ง เดินไปทางต้นไม้ต้นนั้น อิงก็ตามอยู่ด้านหลังติดๆ

ใต้ต้นไม้ร่มเย็นมากจริงๆ ลมภูพัดมาเป็นระลอก พกพากลิ่นบุปผารวยริน

"นายท่าน จะให้พวกเขาหมู่บ้านเขาเล็กนี้ย้ายไปในเมืองหรือไม่?" อิงทำท่ามองไกลจากตรงนี้ ยังเห็นหลังคาสีเทาจำนวนหนึ่งของหมู่บ้านเขาเล็ก

เฉินซ่าส่ายหน้า ขณะจะกล่าว จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บเสียดเหมือนมีแหลมทิ่มตำ เริ่มแล่นมาจากหัวใจ ความรู้สึกนี้เขารู้ดี เขาทำท่ามือโดยพลัน

เวลานี้อิงไม่ได้มองเขา ดังนั้นจึงไม่เห็นท่ามือนี้ เทียนอิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับโดยตลอดแวบตัวออกมาทันที "ฝ่าบาท พิษกู่กำเริบหรือพ่ะย่ะค่ะ?"

"พิษกู่นายท่านกำเริบ?" ครั้นอิงได้ยินเสียงเขาก็หันกลับมาทันที เวลานี้เฉินซ่าพูดไม่ออกแล้ว หัวใจเขาสะพรึงลับๆ การกำเริบครั้งนี้ทั้งเร็วทั้งรุนแรง! เขากระทั่งไม่ทันเรียกโหลชี

"รีบเรียกพระสนม!"

แต่ครั้นเขาหันหน้าไปก็ตกตะลึง พบว่าโหลชีที่เมื่อครู่ยังสอนเหล่าทหารอยู่ตรงนั้น เวลานี้ไม่รู้ไปที่ใดแล้ว!

พวกเขาเห็นเพียงทหารไม่กี่นายกับโหลวซิ่น

"โหลวซิ่น พระสนมไปที่ใดแล้ว?!" อิงเรียกขึ้นมา พร้อมกันนั้นก็ยืนเรียงอยู่เบื้องหน้าเฉินซ่าร่วมกับเทียนอิ่ง บังสายตาทหารเหล่านั้น

ในตัวเฉินซ่ามีพิษกู่ เรื่องที่จะกำเริบทุกวันที่สิบห้าแพร่ไปนานแล้ว ในกองทัพก็น่าจะมีคนรู้เป็นจำนวนมาก แต่รู้ก็ส่วนรู้ จะแพร่ข่าวอย่างไรก็เป็นเพียงข่าวลือ พวกเขากลับไม่ให้คนอื่นเห็นท่าทางขณะที่ฝ่าบาทกำเริบ เพราะท่าทางในขณะนั้นน่ากลัวและรุนแรงมากกว่าจินตนาการของทุกคนมากโข!

หากศัตรูเห็นจะตื่นเต้น รู้สึกว่าเขาในเวลานี้ไม่เพียงพอให้พรั่นพรึง จะฉวยโอกาสยามนี้ฆ่าแม่ทัพ และหากให้ทหารในมือหรือประชาชนเห็น เกรงว่าจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นของพวกเขาที่มีต่อฝ่าบาท สั่นคลอนใจสวามิภักดิ์แด่ตำหนักจิ่วเซียว

ถึงกลุ่มทหารนี้เป็นทหารที่โหลชีคัดสรรอย่างดี แต่ก็เพิ่งเริ่มการฝึกพิเศษ ระดับความน่าเชื่อถือยังห่างจากองครักษ์หน่วยเจี่ยของพวกเขาเมื่อก่อนหน้านี้นัก ดังนั้นจะให้พวกเขาเห็นไม่ได้

ทั้งยังมีหยุนเฟิงอีกคน ฐานะไม่แน่ชัด

อิงกับเทียนอิ่งตื่นตระหนกในใจ

โหลวซิ่นก็เคยติดตามเฉินซ่า รู้ชัดสภาพที่พิษกู่เขากำเริบ ครั้นได้ยินเสียงตื่นตระหนกเช่นนี้ของอิงและท่าทางที่ยืนบังอยู่หน้าฝ่าบาท ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทันที

พวกเขาตกใจ ยังอีกสิบกว่าวันถึงจะวันที่สิบห้า เหตุใดฝ่าบาทจึงกำเริบเอาเวลานี้?

"เมื่อครู่แม่นางได้กลิ่นหอมของตัวยาชนิดหนึ่งจากป่าแถบนู้น จึงพาคนไปแล้ว"

เมื่อครู่โหลชีเหมือนพบกลิ่นหอมตัวยาที่แปลกพิเศษมากชนิดหนึ่ง นำคนเข้าป่าไปทันที ให้คนที่เหลืออยู่ถึงเวลาเข้าไปหาพวกเขา ส่วนคนกลุ่มที่นางพาเข้าไปแล้วก็ต้องหลบซ่อนตัวด้วย ถือเป็นการฝึกอย่างหนึ่ง

"ไปตามนางกลับมา ไม่ ให้พวกเขาไปตาม เจ้าอยู่นี่!" อิงแตกตื่นเล็กน้อย แม้ที่นี่เป็นป่าเขารกร้าง น่าจะไม่มีคนมา แต่เหลือเพียงพวกเขาสองสามคนอารักขาอยู่ข้างกายฝ่าบาทที่พิษกู่กำเริบ อย่างไรก็รู้สึกวาบหวิว รู้เช่นนี้ก็ไม่ส่งเทียนยีตี้เอ้อร์ไปหาซู่ฉงโจวแล้ว น่าจะพามาด้วยกันจึงจะถูก

"เหอเถียน เจ้าพาพวกเขาเข้าป่าไปตามพระสนม ให้พระสนมรีบออกมา" โหลวซิ่นกล่าวกับทหารที่อยู่ข้างตน

เหอเถียนเป็นคนหนึ่งที่แม้ไม่หล่อเหลา แต่กลับคิ้วเข้มตาโต ดูเข้มมีพลังมาก

เหอเถียนรับคำเสียงหนึ่ง นำคนที่เหลือมุ่งเข้าป่าทันที ไม่นานก็ได้ยินเสียงที่พวกเขาเรียกพระสนม แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆ

โหลวซิ่นเดินไปถึงใต้ต้นไม้ พบว่าจักรพรรดิในเวลานี้สองตาแดงก่ำ แผ่นหลังพิงกับต้นไม้ เสื้อผ้าบนตัวก็ถูกเลือดซึมเปียกแล้ว กลิ่นคาวเลือดฉุนมาก

เขาตกใจพลัน "ใต้เท้าองครักษ์อิง ฝ่าบาทกำเริบครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงมาก!" เลือดซึมออกมาเร็วกว่าเดิมแล้ว

อิงกัดฟัน "บางทีอาจเกี่ยวกับที่นายท่านบาดเจ็บภายใน ผลาญพลังภายในไปมาก" เพราะต้องการให้พวกเขาจับตาดูเฉินซ่า ไม่ให้เขาเดินพลัง ดังนั้นโหลชีจึงบอกสถานการณ์ของเขากับอิงและคนอื่นๆ แล้ว

"อีกเดี๋ยวแม่นางก็กลับมา"

เห็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน บัดนี้อ่อนแอและมีเลือดทั้งตัวนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ปากไม่อาจกล่าววาจา ร่างกายไม่อาจขยับ หัวใจโหลวซิ่นระทมนัก

พวกเขาต่างบอกว่าโหลชีจะกลับมาโดยเร็ว แต่ผ่านไปหนึ่งเค่อแล้ว กลับไม่กลับมาสักคนเดียว!

แม้ใบหน้าของเฉินซ่ามีเลือดซึมออกมามาก แต่ระหว่างหยดเลือดยังดูออกถึงใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ แต่เขากัดฟันแน่น เพราะออกแรงกัดมากเกินไป พวกเขาจึงได้ยินเสียงบดฟันขึ้นลง

สีหน้าอิงก็ซีดด้วย "ความทรมานของนายท่านเพิ่มขึ้นอีกแล้วใช่ไหม?"

เห็นเขาเช่นนี้ ก็คือทรมานจนมิอาจอดกลั้นได้แล้วจริงๆ เมื่อก่อนเขายังอดรนทนได้!

"ข้าจะไปเรียกสักหน่อย!"

โหลวซิ่นใช้วิชาตัวเบาไปถึงชายป่านั้น ใช้กำลังภายในเรียกทางในป่า "แม่นาง! แม่นางท่านอยู่ที่ไหน?!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ