ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 410

ชายคิ้วขาวผู้นั้นเวลานี้ก็เห็นองคาพยพของเขาชัดเจนแล้ว เห็นเป็นเฉินซ่า เขาดีใจพลัน ละเลยความระทึกที่กระบี่เมื่อครู่นำมาสู่เขาชั่วขณะ "สวรรค์มีทางเจ้าไม่เดิน นรกไม่มีประตูเจ้ากลับบุกเข้ามา!"

วาจาของเขาเพิ่งจบ ก็เห็นชายเย็นชาผู้นั้นเพียงกวาดสายตามาเบาๆ ในนัยน์ตามีเพียงจิตสังหารที่ควบแน่น ในนัยน์ตานั้นกลับเป็นแดงเลือดไร้ขอบเขต! ครั้งมองดวงตาทั้งคู่ ก็ให้รู้สึกเหมือนบ่อโลหิตที่ผุดเลือดสดขึ้นมาสองตา สามารถปลิดชีพคนได้ทุกเมื่อ ชวนให้พรั่นพรึง

พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเฉินซ่าเป็นแบบนี้! นัยน์ตาโลหิต?

สุ้มเสียงเย็นเยียบของเฉินซ่าดังขึ้น "เจ้ารู้ว่าอะไรคือนรกหรือ? ข้าจะให้พวกเจ้าได้เปิดหูเปิดตา ว่าอะไรคือนรก"

คำกล่าวของเขาเสียงสิ้นสุด เงาร่างดุจภูตผี แพล็บเดียวก็แวบกายไปแล้ว ร่างกายและหัวใจยอดฝีมือเหล่านั้นหนาวขึ้นมากะทันหัน ทุกคนต่างสังเกตได้ถึงอันตราย แต่ทุกคนไม่รู้ว่าจะหลบเลี่ยงจากตรงไหนได้!

มีอายกระบี่ มีจิตสังหาร มีกลิ่นคาวเลือดฉุน มีเงาดำ แต่มองไม่ชัด ตีไม่ถูก ส่วนข้างกายพวกเขากลับมีคนร้องอนาถล้มลงไม่หยุด พวกเขาได้ยินเสียงเคร้งของกระบี่ เหมือนผีร้ายคร่าชีวิตก็มิปาน

ก่อนเฉินซ่าจะลงมือ คนสวมหน้ากากชุดขาวก็ถอยออกไปจั้งหนึ่งแล้ว หันกลับมาเห็นภาพนี้ ทำให้หนังศีรษะเขาชา เขาไม่เคยเห็นการสังหารคนเช่นนี้ กระบี่ที่น่าหวาดกลัวนั้นทุกการเสือกต้องดื่มเลือด อีกอย่าง กระบวนท่าของเฉินซ่าแทบเรียกได้ว่าเป็นเอกระ นั่นมิใช่กระบวนท่าอะไร เขาเพียงห้ำหั่นอย่างเดียว คนหนึ่งมา เขาก็แทงออกไปตรงๆ ดูแล้วเหมือนเชื่องช้ามาก แต่อีกฝ่ายกลับหลบไม่พ้น ถูกกระบี่แทงตำแหน่งหัวใจ เฉินซ่ากุมด้ามกระบี่ ริมฝีปากบางปิดสนิท เบือนหน้าอย่างเหี้ยมเกรียมไร้ที่เปรียบ จากนั้นก็ผ่อนกระบี่ ซัดส่วนปลายของด้านกระบี่ออกไปฝ่ามือหนึ่ง กระบี่ทะลุหัวใจคนผู้นั้นออกไปในพริบตา พกพารูเลือดหนึ่ง

เฉินซ่าเฉียดกายจากข้างตัวเขา ยื่นมือจับ กุมกระบี่นั้นอีกครั้ง พลิกมือฟาดฟันไม่หยุด คนที่จะโจมตีเขาจากข้างหลังร้องโหยหวนเสียงหนึ่ง สมองถูกเฉือนออกไปเสี้ยวหนึ่ง สมองโผล่ออกมา

เหยๆ นี่มันอาวุธทำลายล้างชัดๆ!

คนสวมหน้ากากชุดขาวสั่นเทิ้ม รู้สึกว่าตัวเองเผ่นแนบก่อนคิดแผนที่ดีที่สุดได้ มิเช่นนั้นเขาต้องตายอยู่ที่นี่เหมือนคนพวกนี้จริงๆ แล้ว เห็นท่วงท่าเขาพลิ้วไหว หากถูกฟันครึ่งสมอง เช่นนี้ต้องไม่งามตาเป็นแน่แท้

เฉินซ่าไม่ได้สังเกตการจากไปของคนสวมหน้ากากชุดขาว เขาเพียงรู้สึกว่าเลือดร้อนทั่วร่างกำลังเดือดพล่าน ฆ่าๆๆ!

...

ในที่สุดอิงกับโหลวซิ่นก็หาคนของพวกเขาพบ อยู่ริมผาขาด เฉิงสิบแบกอิ้นเหยาเฟิงขึ้นมาพอดี ทุกคนรีบเข้าไปช่วย มีคนประคองอิ้นเหยาเฟิง เฉิงสิบรู้สึกได้ว่าเรือนร่างนางเกร็งไปเล็กน้อย ขมวดคิ้วเบี่ยงกาย "ข้าวางนางลงก็ได้"

มุมปากอิ้นเหยาเฟิงยกขึ้นนิดๆ อย่างอดไม่อยู่ อารมณ์ดีขึ้นมาอย่างฉับพลัน นางไม่ชอบให้ชายอื่นแตะเนื้อต้องตัวนาง เฉิงสิบเขา...

เฉิงสิบเพิ่งวางนางลง เงาร่างทั้งสองเคล้าประคองกันเดินมา

เดิมทีอิงกับโหลวซิ่นแยกกันเดิน ต่อมาก็พบกันอีก ได้ยินเสียงพูดคุยทางนี้ถึงเดินมา

"พวกเจ้าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?" ครั้นเฉิงสิบเห็นพวกเขาเปื้อนเลือดเต็มตัว สีหน้าก็เปลี่ยนโดยพลัน "ใต้เท้าองครักษ์อิง ฝ่าบาทล่ะ?"

มีเพียงพวกเขาสองคน ฝ่าบาทเล่า? ต้องรู้ แม่นางของพวกเขาให้คำสั่งเด็ดขาดกับใต้เท้าองครักษ์อิง ให้เขาอยู่กับองค์จักรพรรดิไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว และไม่อนุญาตให้เขาใช้วรยุทธ์ด้วย

บัดนี้พวกเขาทั้งสองซมซานเช่นนี้ ฝ่าบาทที่ปราศจากกำลังภายในกลับไม่อยู่ข้างกาย นี่...

เฉิงสิบมีลางร้ายชั่วขณะ

สีหน้าอิงกับโหลวซิ่นกลับไม่เหมือนองค์จักรพรรดิเกิดเรื่องใหญ่แล้ว เพียงรู้สึกพิลึกนิดหน่อยเท่านั้น อารมณ์ของพวกเขาซับซ้อน ไม่มีคำเหมาะสมที่สามารถบรรยายได้ชั่วขณะ

"พระสนมล่ะ?"

"แม่นางล่ะ?"

ทั้งสองคนถามในเวลาเดียวกัน

เฉิงสิบหันไปมองผาขาดนั้น "แม่นางลงหน้าผาไปแล้ว"

"อะไรนะ?!" อิงตะลึงฉับพลัน รีบสาวเท้าขึ้นหน้าไปสองสามก้าว มองลงหน้าผาขาดนั้น การมองนี้กลับพบว่าก้นเหวลึกยิ่งนัก มองไม่เห็นอะไรเลย

"แม่นางอิ้นพบสัตว์ประหลาดตัวน้อยตัวหนึ่ง สัตว์น้อยตัวนั้นอาจเป็นประโยชน์กับแม่นาง ดังนั้นแม่นางจึงตามลงไป ข้างกายนำคนไปด้วยแปดคน"

"แย่แล้ว!" โหลวซิ่นร้อนรน มองทางอิง "ใต้เท้าองครักษ์อิง ท่านว่ายามนี้ฝ่าบาทยังควบคุมองค์เองได้หรือไม่?"

ถูกอาวุธวิเศษครอบงำ แรกเริ่มฝ่าบาทอาจยังสามารถควบคุมตนเองได้ พวกเขาต่างเดาได้ว่าเขาต้องไปตามฆ่าพวกคนคิ้วขาวนั่นแน่ พวกเขาไม่ห่วงฝ่าบาทในเวลานี้ว่าจะสู้กับคนเหล่านั้นไม่ได้ ห่วงแต่ฝ่าบาทยิ่งฆ่าคนเหล่านั้นมาก อาวุธวิเศษจะยิ่งดื่มเลือดมาก จิตวิญญาณกระบี่ก็จะยิ่งโหดเหี้ยม ฝ่าบาทจะควบคุมกระบี่นั้นไม่ได้ ถูกกระบี่ครอบงำ เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นมนุษย์กระหายเลือด ถึงตอนนั้นเมื่อพบพวกเขาเหล่านี้อีกครั้ง ฝ่าบาทก็ไม่แน่ว่าจะควบคุมไม่ได้ลงมือกับคนเหล่านี้

อิงได้ยินการถามของโหลวซิ่นก็นึกถึงจุดนี้ทันที หัวใจระส่ำ แพล็บเดียวก็วาบหวิวขึ้นมา หากสติฝ่าบาทไม่ชัดเจน เช่นนั้นก็น่ากลัวมากจริงๆ!

เฉิงสิบได้ยินก็เหงื่อตก "พวกเจ้ากำลังพูดอะไรกันแน่?"

"อาวุธวิเศษ กระบี่วิเศษเล่มนั้น แปลกไปอยู่บ้าง! ยามนี้ฝ่าบาท...กำลังฆ่าล้างบางอยู่ มียอดฝีมือกลุ่มหนึ่งขึ้นเขามา..."

"อะไรนะ?!"

"แต่ น่าจะถูกฝ่าบาทกำจัดไปหมดแล้ว" โหลวซิ่นเสริมอีกประโยคทันที ยามนี้เฉิงสิบถึงฟังความหมายของเขาเข้าใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ