ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 421

หากมิใช่บาดแผลนี้ ถึงเขาจะไม่ถือเป็นพวกหล่อเหลาไร้ใครเทียม แต่ก็ต้องเป็นชายหนุ่มที่ดูสง่างามคนหนึ่งแน่

ตอนนี้มือหนึ่งเขาจับมั่นไปที่ดาบโค้งดูเก่าแก่บนโต๊ะ หันมองชายหนุ่มที่ยืนข้างหน้าต่างพลางถาม "เป็นอย่างไร มาแล้วหรือไม่?"

ชายหนุ่มข้างหน้าต่างอายุราวสิบสามสิบสี่ปี ดูอ่อนเยาว์นัก มีดวงตากลมโตคู่หนึ่ง ริมฝีปากแดงเรื่อฟันขาว ท่าทางซุกซนนั่นทำให้คนที่พบเจอรู้สึกดีได้ด้วยง่าย

เขาได้ยินคำถามจากชายหนุ่ม ส่ายหัวบอก ยังไม่เห็นรถม้าขององค์หญิงฝูหรง"

เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนบอกอีกว่า "พี่อวิ๋น ทำไมพวกเราต้องฆ่าองค์หญิงฝูหรงด้วยล่ะ? ได้ยินว่าองค์หญิงฝูหรงกำลังจะอภิเษกกับยู่ไท่จื่อแล้วนี่นา หากนางตายไป ยู่ไท่จื่อนั่นมิน่าสงสารแย่รึ?"

คำพูดนี้ทำให้สิบกว่าคนในห้องพากันหัวเราะร่วนขึ้น

ชายหนุ่มยิ้มแต่ไม่ตอบ มีคนอื่นเดินไปตบบ่าหนุ่มน้อยนั่นพลางหัวเราะบอก "อามู่ เจ้าเด็กโง่นี่ ต่อให้ไม่มีองค์หญิงฝูหรง ยู่ไท่จื่อก็ไม่กลัวไม่มีไท่จือเฟยหรอก เจ้ากังวลแทนเขาทำไมกัน?"

หนุ่มน้อยที่ชื่ออามู่ค้อนเขาขวับ "เหอะ เจ้าน่ะเลือดเย็น"

ทุกคนหัวเราะขึ้นมาอีก

อามู่วิ่งไปยืนข้างชายหนุ่ม และนั่งลงข้างเขา กุมแขนเขาข้างหนึ่งพลางแกว่งมันไปมา "พี่อวิ๋น อามู่แค่พูดเท่านั้น ยังไงซะไม่ว่าท่านจะฆ่าใคร อามู่จะช่วยท่านแน่นอน!"

ความอ่อนนุ่มที่แนบติดท่อนแขน ทำให้ชายหนุ่มตัวแข็งเล็กน้อย ดึงมือออกจากอ้อมกอดอามู่ และยกถ้วยชาขึ้นจิบชา "อืม พี่ขอบใจอามู่นัก"

"ลูกพี่อวิ๋น มาแล้ว!"

ทุกคนพากันลุกขึ้นมา เก็บอาการซุกซนทะเล้นใบหน้ายิ้มแย้มขึ้น ความอำมหิตและคุ้นเคยชนิดหนึ่งแผ่ซ่านออกมาระหว่างตัวพวกเขา กลายเป็นการโจมตีและป้องกันอันไร้หนทางบุกทะลวงอย่างไร้รูปร่างชนิดหนึ่ง

"ตามแผนครั้งก่อน ทุกคนคำนวณเวลาให้ดี พวกเจ้าจำไว้ ไม่ว่าจุดไหนเกิดผิดพลาดก็จะกระทบต่อแผนการทั้งกระดาน ดังนั้นทุกคนต้องบรรลุทภารกิจของตนอย่างเข้มงวด เข้าใจหรือไม่?"

"เข้าใจ!"

ชายหนุ่มสะบัดมือ ทุกคนรีบออกจากห้องทันที

ในห้องเหลือเพียงชายหนุ่มและหนุ่มน้อยชื่ออามู่นั่น

ทั้งสองคนยืนข้างหน้าต่าง อามู่มองชายหนุ่ม พูดเสียงเบาว่า "พี่อวิ๋น ท่านควรจะไปได้แล้ว"

ชายหนุ่มลูบหัวเขา "ข้ายืนดูเจ้าลงไปจากที่นี่แล้วค่อยไป อามู่ ระวังตัวด้วย"

อามู่เบิกตาทั้งกลมและใหญ่ เผยรอยยิ้มซุกซนออกมา พยักหน้าบอก "อามู่รู้แล้วน่า"

ถนนยาวสุดลูกหูลูกตา รถม้าหรูหราโอ่โถงค่อยๆขับเคลื่อนมา ด้านหน้ามีกองทหารม้าแปดนาย ด้านหลังมีกองทหารม้ายี่สิบนาย หอกยาวประดับพู่สีแดง แต่ละคนดูองอาจน่าเกรงขามยิ่ง

เหล่าชาวบ้านพ่อค้าบนถนนยาวพากันแหวกออกไปสองข้างทาง

ซาลาเปาไส้เนื้อลูกหนึ่งในมือชายผู้หนึ่งกระเด็นหล่นมากลางถนนในขณะแออัด ตอนนี้เองกองทหารม้าด้านหน้าขบวนขององค์หญิงฝูหรงเดินมาถึงตรงนี้พอดี ชายผู้นั้นโผเข้าหาซาลาเปาไส้เนื้อ ปากก็ร้องบอก "ไอ้หยาซาลาเปาไส้เนื้อของข้าอย่าจากข้าไปสิ ไม่มีเจ้าแล้วข้าต้องหิวแน่ เหตุใดเจ้าใจร้ายเยี่ยงนี้!"

บางคนทนไม่ไหวหัวเราะออกมา ทหารสองนายที่คอยเปิดทางหน้าขบวนเดิมจะชักกระบี่ออกมา พอได้ยินเสียงหัวเราะของชาวบ้านข้างทาง ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนละ

"บังอาจ องค์หญิงใหญ่เสด็จ ยังไม่รีบถอยไปอีก!"

"ข้าไปแล้วไปแล้ว เก็บซาลาเปาไส้เนื้อของข้าก็ไป..." ชายผู้นั้นพูดไปพลางเก็บซาลาเปาไส้เนื้ออันนั้น แต่ไม่รู้ทำไมซาลาเปาลูกนั้นกลิ้งไปที่ท้องม้าอีก ชายผู้นั้นไม่สนอะไรวิ่งไปที่ท้องม้าทันที

"เจ้าทำอะไร? รีบไสหัวไป!"

"ไสหัวไป ไม่งั้นม้าข้าเหยียบเจ้าไส้ทะลักแน่!"

ทหารองครักษ์บนม้าร้องเสียงดังออกมา แต่ชายผู้นั้นกลับมุดไปมุดมาใต้ท้องม้า ซาลาเปาไส้เนื้อลูกนั้นก็กลิ้งไปกลิ้งมาใต้ท้องม้า สุดท้ายกลิ้งไปใต้ท้องรถม้า

เหล่าทหารองครักษ์ต่างพากันตกใจ รีบลงจากม้า หิ้วตัวชายผู้นั้นออกมา "บังอาจนัก รบกวนขบวนเสด็จขององค์หญิง มีความผิดสถานใด?"

"องค์หญิงใหญ่อภัยให้ด้วย อภัยให้ด้วย ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้แล้ว จะไปแล้ว ซาลาเปาไส้เนื้อข้าน้อยไม่เอาแล้ว ขอองค์หญิงใหญ่ปล่อยข้าน้อยไปเถิด ข้าน้อยหิวยิ่งนัก..."

ชายผู้นั้นร้องเสียงดัง ร้องไห้น้ำตาไหลพราก ทำให้ชาวบ้านด้านข้างต่างรู้สึกเห็นใจ ใช่ไง ถ้าไม่ได้หิวจนตาลาย ซาลาเปาไส้เนื้อที่หล่นลงพื้นเขลอะขละแล้ว ใครจะเก็บขึ้นมากินอีกเล่า อีกอย่าง ยังมุดไปมุดมาใต้ท้องม้า อันตรายมากไม่ใช่หรือไง?

"องค์หญิงใหญ่มีเมตตามาตลอด โปรดละเว้นเขาด้วยเถิด"

"ใช่ใช่ ละเว้นเขาด้วยเถิด"

เป่ยฝูหรงที่อยุ่ในรถม้าได้ยินเสียงจากด้านนอก นางกัดฟันกรอด สะบัดผ้าเช็ดหน้าอย่างโกรธเกรี้ยว "ชาวบ้านน่ารังเกียจเสียจริง!"

นางกำนัลหน้าตาสะสวยที่ถือขลุ่ยหยกอยู่ข้างนางปลอบว่า "องค์หญิง ถึงชาวบ้านเหล่านี้จะน่ารังเกียจ แต่ตอนนี้องค์ชายหกกำลังได้ดีมีความดีความชอบ กำลังได้ความนิยมเลยเชียว หากตอนนี้องค์หญิงมีข่าวลือเรื่องการกระทำไม่ดีอะไรออกไป องค์ชายหกต้องกัดไม่ปล่อยแน่"

"หลักการนี้มีหรือข้าจะไม่เข้าใจ" ใบหน้างดงามไร้ใครเทียมของเป่ยฝูหรงเกิดรอยเบื่อหน่ายอย่างปิดไม่มิด แต่ก็ได้แต่ร้องบอกว่า "เอาล่ะ ปล่อยเขาไปเถิด"

องครักษ์ด้านนอกรีบรับคำทันที "ขอรับ!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ