ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 425

เมื่อโหลชีกวาดตามองแล้วแม้ว่าจะรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ว่าอาการของเฉินซ่าในตอนนี้ได้ดึงดูดความสนใจของนางไปหมดแล้ว ฉะนั้นนางจึงไม่ได้ใส่ใจนัก

เห็นว่ามือทั้งคู่ของนางกำลังสั่นเทา เฉิงสิบก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาแล้ว แม้แต่แม่นางที่มีท่าทีใจเย็นตลอดมายังเป็นเช่นนี้ เขาก็ตระหนกตกใจตามไปด้วย เป็นเรื่องที่เลวร้ายจริงๆ

"แม่นาง ต้องใจเย็น"

เดิมทีโหลชีไม่ใช่คนประเภทที่พอเจอกับปัญหาก็ตื่นตระหนก นางเพียงแต่เป็นห่วงจนจิตใจว้าวุ่น แต่ก็คงรู้สึกว้าวุ่นไม่นาน จับไม่พบชีพจร ไม่ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ นี่นับว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแล้ว ถึงขั้นนี้แล้ว นางกลับใจเย็นลง สูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ในที่สุดสองมือก็ไม่สั่นอีกต่อไป

มือของนางกดอยู่ที่หน้าอกของเฉินซ่า ลองถ่ายทอดพลังภายในให้เขา เพื่อจะปกต้องชีพจรของหัวใจเขาเอาไว้ แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของนางกระตุกขึ้นมาอีกครั้งคือ พลังภายในที่ส่งไปให้นั้นเหมือนวัวโคลนลุยทะเล ทั้งหมดถูกดูดกลืนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีแม้คลื่นใดๆที่กระเทือนขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย

หัวใจของนางแทบจะหล่นวูบ

"แม่นาง ดูท่าฝนกำลังจะตกลงมาแล้ว ต้องหาที่หลบฝนกันก่อนค่อยว่ากัน สภาพของฝ่าบาทเช่นนี้คงไม่สามารถตากฝนได้"เฉิงสิบมองใบหน้าของฝ่าบาทแวบหนึ่ง รู้สึกตื่นตกใจจริงๆ

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ถ้าแม้แต่แม่นางก็รักษาไม่ได้ เช่นนั้น ......

ไม่ เขาไม่กล้าจะคิดต่อ

"เจ้ามาแบกเขาไป"โหลชีพยายามทำใจให้นิ่ง

เฉิงสิบเพิ่งจะแบกเฉินซ่าขึ้นไปบนหลัง ฝนเม็ดใหญ่ก็ค่อยๆเทลงมา โหลชีร้อนใจ ยื่นมือจะถอดเสื้อของตัวเองออกมาเพื่อบังฝนให้กับเฉินซ่า ดีที่หยู่ หวูเสี้ยวหยู่วิ่งกลับมาพอดี เด็ดใบไม้ใหญ่มาได้หลายใบ โหลชีคว้าหมับมาทันที"เจ้าดึงทางนั้น เฉิงสิบเดินตรงกลาง "

นางกับหยู่ดึงปลายของใบไม้เอาไว้คนละข้าง ใช้ใบไม้สี่ห้าใบก็สามารถทำเป็นที่กำบังฝนเคลื่อนที่อย่างง่ายได้แล้ว แต่ว่าในเวลาสั้นๆแค่นี้ ฝนกลับตกหนักขึ้น เม็ดฝนที่ทั้งใหญ่และถี่กระแทกลงมาอย่างหนักหน่วง ทำให้เส้นทางข้างหน้ามัวไปหมด "รีบมาเร็วเข้า"

ได้ยินเสียงของหลินเสิ้งเวยก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไร พวกเขาจึงเร่งฝีเท้าวิ่งไปทางด้านนั้น โหลชีในตอนนี้ยิ่งรู้สึกร้อนใจมากเท่าไหร่ภายนอกยิ่งนิ่งขรึมเท่านั้น นางมองไปทางเฉินซ่า กลับรู้สึกว่าสภาพของเขาเช่นนี้ไม่เหมือนคนที่มีชีวิตเลย

ที่จริงหัวใจของนางค่อยๆหนักอึ้งลงไปทุกที แต่ก็ทำได้เพียงพร่ำบอกตัวเองอย่างสุดกำลังว่า นางต้องช่วยเขาได้แน่ ต้องทำได้แน่

ทั้งหมดมุ่งตรงไปหาหลินเสิ้งเวย และเห็นว่าเขายืนตากฝนอยู่ด้านนอกไม่ได้เข้าไปข้างใน ทั้งๆที่ตรงหน้าเขามีถ้ำอยู่แห่งหนึ่งแท้ๆ มีความกว้างเท่ากับคนสองคน สูงเท่ากับคนหนึ่งคน บริเวณหน้าถ้ำมีหินงอกธรรมชาติอยู่ผืนหนึ่ง เหมือนเป็นรั้วของถ้ำอย่างไรอย่างนั้น แต่สำหรับพวกเขาแล้วไม่ถึงกับเข้าไปไม่ได้

"พระชายา เจ้าตัวเล็กนั้นอยู่ข้างใน "หลินเสิ้งเวยปากหยดน้ำฝนที่อยู่บนหน้าพลางพูดขึ้น

โหลชีนิ่งอึ้ง ผ่านไปชั่วครู่จึงได้สติ เจ้าตัวเล็กที่เขาพูดถึง น่าจะเป็นสัตว์สีขาวที่ล่อให้นางไล่ตามไปจนถึงหุบเหวที่ขาดช่วงในตอนแรกแน่ๆ เดิมทีนางอยากจะจับมาให้เฉินซ่ากิน นางอยากจะทิ้งความตั้งใจไปนานแล้ว คิดไม่ถึงว่าในขณะที่นางกำลังจะถอดใจ มันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

"ไม่ต้องสนใจมัน เข้าไป"ฝนยิ่งตกก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ หรือว่าคนมากมายขนาดนี้ยังต้องหลีกทางให้เจ้าสัตว์ตัวน้อยนั้นอีก ยิ่งไปกว่านั้น นางรีบหันไปมองร่างกายของเฉินซ่าอีกครั้ง

เดิมทีหลินเสิ้งเวยคิดว่าถ้าเข้าไปอย่างกะทันหันจะทำให้สัตว์สีขาวตัวนั้นตกใจจนหนีไปอีกครั้ง พระสนมถึงกับกระโดดลงไปยังหน้าผาที่ขาดช่วงเพื่อมัน นี่ก็แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสัตว์น้อยตัวนั้นแล้วมิใช่หรือ เพราะฉะนั้นเขาจึงยอมตากฝนที่หนาวเย็นอยู่ข้างนอกโดยไม่กล้าเข้าไปข้างใน คิดไม่ถึงว่าพอโหลชีมาถึงจะพูดว่าไม่ต้องสนใจมัน

เขาไม่รู้สาเหตุ เดิมทีโหลชีอยากจะได้สัตว์น้อยตัวนี้มาก แต่เมื่อมีปลาดุกเทพแล้ว ฤทธิ์ของมันยอดเยี่ยมมาก นางย่อมไม่ต้องการสัตว์ตัวนั้นแล้ว

แต่ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ฤทธิ์ของปลาดุกเทพยอดเยี่ยมจนคาดไม่ถึงจริงๆ ถึงกับทำให้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

แต่ไหนแต่ไรเฉิงสิบนั้นเชื่อฟังโหลชีมาก นางบอกว่าเข้าไปก็คือเข้าไป

แบกเฉินซ่า เขากระโดดตัวลอยข้ามพวกก้อนหินงอกที่เล็กแหลมเหล่านั้นไป ครู่เดียวก็ทะลวงเข้าไปในถ้ำแล้ว

พอก้าวเข้าไป เท้ายังไม่ทันได้ยืนอย่างมั่นคง เงาของก้อนสีขาวๆก็พุ่งตรงมาที่หน้าของเขา ท่าทีดุดัน แต่ว่ายังไม่ทันได้สัมผัสกับเฉิงสิบ โหลชีที่เข้ามาทีหลังได้ใช้แส้สะบัดออกไป ม้วนตัวมันเอาไว้ สะบัดไปด้านข้างอย่างไม่รู้สึกสงสารและเสียดายเลยสักนิด

จี๊ดๆ

เจ้าสิ่งนั้นส่งเสียงร้องราวกับหนู ฟังแล้วรู้สึกน่าเวทนาอยู่บ้าง แต่ว่าตอนนี้ไม่มีใครสนใจมันเลย

เจ้าตัวเล็กที่ถูกสะบัดออกไปมีอาการมึนงงเล็กน้อยรูปร่างหน้าตาของมันเหมือนตัวเม่น เพียงแต่บนตัวของมันไม่มีหนามแหลม แต่เป็นขนสีขาวแข็งกระด้างทั้งตัว แต่บริเวณท้องของมันเป็นสีชมพูไม่มีขน ขาสั้นๆทั้งสี่ของมัน ดูไม่ออกเลยสักนิดว่ามันจะเคลื่อนไหวได้ว่องไวมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ