จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 97

บทที่ 96 คนเดียวเอาชนะทั้งฉินโจว

โม่หัวถิงและซูชิงเหยียนต่างพากันมองฝั่งหยูหมิงวั่งที่ประกาศยอมแพ้ ด้วยความตกใจจนพูดไม่ออก

ความสามารถทางการแพทย์ของพวกเขาสองคนหยูหมิงวั่งและฝั่งของเขาไม่ได้ ยังมองความลึกซึ้งในวิธีการรักษาในรอบที่สองและ สามไม่ออก

แต่ว่า พอได้ยินฉินเสว่หมิงอธิบาย โม่หัวถึงและซูชิงเหยียนสองคน ก็พากันมองหลินหยุนด้วยความตกใจ!

สังคมในปัจจุบัน แพทย์ที่สามารถรักษาคนไข้ให้หายได้นั้น ถูกผู้คนยกยอว่าเป็นหมอเทพ ในขณะเดียวกันที่รักษาผู้ป่วย ยังสามารถไตร่ตรองถึงสุขภาพของผู้ป่วย รวมถึงสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตของผู้ป่วยด้วย นี่ต่างหากที่เป็นยิ่งกว่าหมอเทพ

แพทย์คนอื่นคือรักษาอาการป่วย มีเพียงหลินหยุนที่ช่วยชีวิต!

ปัจจุบันจังหวะในการใช้ชีวิตเริ่มเร็วขึ้น ความปรารถนาแรกของโรงพยาบาลหลายแห่ง ไม่ใช่การช่วยชีวิตจากความตาย รักษาอาการป่วย แต่คือการมองเห็นผลประโยชน์

ในสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ จรรยาบรรณของแพทย์ก็เริ่มลดน้อยลงอย่างน่าตกใจ

การขาดจรรยาบรรณทางการแพทย์คือความสามารถทางการแพทย์ที่ลดลง เพราะทุกคนต่างก็พยายามมองหาผลประโยชน์ ใครจะมีเวลาหมกมุ่นอยู่กับการเพิ่มความรู้ความสามารถให้กับตนเอง?

วิชาชีพการแพทย์ หากไม่มีพรสวรรค์ที่จะเป็นหมอเทพ บางคนอาจจะต้องทำเหมือนเฉินหนงที่ต้องลองยาหลายชนิด อาศัยการสะสมความรู้ไปเรื่อยๆ สัมผัสกับทุกโรค สุดท้ายถึงจะกลายเป็นหมอเทพได้

เพราะฉะนั้น แพทย์อย่างโม่หัวถิงและซูชิงเหยียนต่างก็พากันได้รับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญหลายอย่าง พวกหยูหมิงวั่งอีกสองคนนั้นก็ยิ่งได้รับรางวัลเกียรติยศตลอดชีวิตของสมาคมการแพทย์ประเทศจีนแล้ว

เป็นเครื่องหมายแสดงว่าพวกเขาเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงไม่กี่คนของประเทศจีนแล้ว

แต่ว่า ตอนนี้พอมาเทียบกับหมอเทพที่แท้จริงอย่างหลินหยุน ก็ต่างกันอย่างชัดเจน

จางเหยียนและนักเรียนคนอื่นๆ ต่างพากันตกใจจนอ้าปากค้าง

สิ่งที่ฉินเสว่หมิงพูดไม่ได้ใช้เสียงเบานัก ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันได้ยินหมด

“หลินหยุนไปเรียนวิชาทางการแพทย์ที่สูงส่งแบบนี้ตอนไหนกัน?”

“ใช่ เป็นไปได้ยังไงเนี่ย? ฉันจำได้ว่าเขาเป็นนักเรียนของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวนะ!”

จางเหยียนสีหน้าไม่ดี พูดอะไรไม่ออกสักคำ

นักเรียนสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว คิดไม่ถึงว่าจะสามารถเอาชนะแพทย์ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ได้

นี่มัน เป็นเรื่องที่ความอัปยศอดสูยิ่งนัก!

สีหน้าที่โอ้อวดของจงเฟยหยู่ ในที่สุดก็หายไป เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ

“นี่มัน เป็นไปได้ยังไงกัน! เขามีระดับความรู้ที่ลึกซึ้งในการแพทย์แบบนี้ได้ยังไง ก่อนหน้านี้ที่ฉันทำกับเขาแบบนั้น ทำไมเขาไม่ว่าอะไรสักคำ?”

เมื่อนึกถึงตอนที่เพิ่งเจอกัน ท่าทางของตัวเองที่หยิ่งยโสที่ทำต่อหน้าเขาแบบนั้น จงเฟยหยู่อยู่ดีๆ ก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที

“ตอนนั้นเขาคงแอบหัวเราะอยู่ในใจที่ฉันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงสินะ!”

“หมอนี่มันร้ายจริงๆ ความสามารถในการแพทย์สูงขนาดนี้ คนหลายคนดูถูกเขาเยอะขนาดนั้น กลับไม่พูดอะไรสักคำ คงรอตบหน้าทุกคนอยู่สินะ!”

“แต่เขาเป็นนักเรียนสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวแท้ๆ จะมีความสามารถทางการแพทย์ที่สูงขนาดนี้ได้ยังไงกัน?” จงเฟยหยู่แอบสงสัยอยู่ในใจ

เวลานี้ พยาบาลคนหนึ่งนำผู้ป่วยคนที่หนึ่งกลับมาด้วยความรีบร้อน

สีหน้าของผู้ป่วยคนนั้นสีหน้าสลดใจอย่างเห็นได้ชัด เขามาคุกเข่าให้กับหลินหยุนทันที พร้อมทั้งร้องไห้เสียงดัง “หมอเทพ ขอร้องล่ะช่วยผมด้วย!”

เมื่อมองเห็นภาพนี้ เรื่องผลการตรวจ ก็คงไม่ได้ต้องถามแล้ว

หลินหยุนมองไปที่ผู้ป่วยคนนั้น แม้ว่าเขาจะมีวิธีการรักษามะเร็ง แต่นั่นคือการเปิดเผยตัวตนการเป็นผู้บำเพ็ญเซียนของเขา

หลินหยุนไม่ใช่พ่อพระ แน่นอนว่าเขาจะไม่มีทางช่วยผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ แล้วเปิดเผยตัวตนของตนเอง

“โรคมะเร็งในตับระยะแรกมีวิธีการรักษา มีความเป็นไปได้ที่จะรักษาหายสูงมาก คุณไม่ต้องขอร้องผม ไปโรงพยาบาลแล้วรักษาตามที่หมอบอกเถอะ!”

หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“หมอเทพ ในเมื่อคุณมองออกว่าผมเป็นโรคมะเร็งในตับ งั้นก็แสดงว่ามีวิธีรักษาผมใช่ไหม? ขอร้องล่ะ ช่วยผมด้วย!”

เมื่อได้ยินว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็ง ผู้ป่วยก็กระวนกระวายใหญ่แล้ว หลินหยุนเป็นเหมือนกับฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยเขาได้

หลินหยุนมองที่ผู้ป่วยคนนั้นแวบหนึ่ง ค่อยๆ หันตัวไป สองมือไขว้หลัง ไม่ได้สนใจอะไรอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์