พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 342

ตอนที่ 342 เคียงรักจวบจนสิ้นลม

องครักษ์ไปหาเซียวเซียวที่ร้านจู้เสียน

เซียวเซียวดื่มสุรามากมายหลังจากผละออกมาจากซือถูจิ้ง คืนนี้หูฮวนซียังไม่ได้ไปที่ไหน ยังคงพักอยู่ที่นี่ เห็นองครักษ์นำตราลายลักษณ์ของซือถูเย้นออกมาแสดง ในใจของเขารู้สึกหนักอึ้งใจขึ้นมา

นางนำองครักษ์ไปยังห้องส่วนตัว รับสั่งอย่างเย็นชาให้โดนตัวเซียวเซียวลงไปในทะเลสาบอันหนาวเย็น ทำให้เขาสร่างเมาขึ้นเอา

เซียวเซียวกึ่งเมากึ่งสร่าง ถูกดึงตัวขึ้นมา หูฮวนซีนั่งอยู่ข้างตัวเขา พูดเน้นเสียงเย็น “ซือถูจิ้งฆ่าตัวตาย!”

เพียงหกพยางค์ ดังก้องอยู่ในหูเซียวเซียว ตกใจดั่งฟ้าผ่าลงมา

เขาวิ่งไปในวังราวกับคนคลุ้มคลั่ง ยืนอยู่หน้าประตู หอบหายใจ วิ่งมาตลอดทางทำให้อาการเมาคลายลง ความเจ็บปวดเมื่อสร่างแล่นเข้าสู่หัวใจ

เขายืนอยู่หน้าประตูไม่ได้เข้าไป ทุกครั้งที่กลับเมืองมักจะมาที่แห่งนี้ เที่ยวร่อนเร่อยู่ในที่แห่งนี้เสมอ ราวกับว่าได้ใกล้ชิดกับนางมากขึ้นในที่แห่งนี้

ในที่สุดข่าวน่าตกใจนี้ก็สะพัดไปถึงอ๋องหลี่ชินจนเขาต้องเดินทางมา

เสียงทั้งหมดที่ลอยอยู่ที่ข้างหูของเขาล้วนเป็นเรื่องราวความทรงจำที่ผ่านมา สับสนวกวน สายตาล่องลอย ไม่รู้ควรมองไปที่จุดไหน ความชาแล่นไปทั่วร่าง เดินไปข้างในอย่างไร้การควบคุม

ผู้คนเดินเข้าๆออกควักไขว่เหมือนกับโคมม้าวิ่ง ราวกับว่าเขาได้หลุดออกไปอยู่อีกโลกหนึ่ง

ตั้งแต่หน้าประตูจนถึงข้างเตียงห่างกันเพียงสิบก้าวเดินเท่านั้น เหมือนกับว่าเขากำลังเดินเข้าไปเพื่อหยุดชีวิตลง

มีผู้คนมากมาย แต่สิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตามีเพียง ร่างที่สวมชุดแดงสดอยู่บนเตียง

นางสวมชุดแต่งงานนอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบสงบอยู่เช่นนั้น

ทันใดนั้นเขายิ้มออกมา ยิ้มจนน้ำตาล้นเอ่อไหลริน

ในปีนั้นเขาเพิ่งเตรียมชุดแต่งงานเสร็จเรียบร้อย นางลองสวมดูในทันที หมุนตัวไปรอบๆอยู่ตรงหน้าเขา ราวกับผีเสื้อดอกไม้สีสันสดใส นัยน์ตาโบยบิน ปลาบปลื้มไร้กังวล

“หยุดยิ้มเสีย สวยหรือไม่” นางก้าวเข้ามาหาเหมือนกำลังระบำ ราวกับเทพธิดาในฝัน

เขายื่นมือออกไป อยากกุมมือนางเอาไว้ มือหยุดลอยอยู่ในอากาศอันว่างเปล่า คว้าได้เพียงอากาศเอาไว้

ปรากฎเสียงหนึ่งขึ้นมาในใจ นางตายไปแล้ว เจ้าจะมีชีวิตต่อไปทำไม

เขาลังเลสั่นเทา ก้าวเข้าไป ซือถูเย้น หลีโม่ ฉินจื่อ โฉงหวาก้าวถอยออกไป เพราะสายตาแตกสลายสิ้นหวังของเขา

เขาสู้รบอยู่หลายปี สนามรบรั้นอันตรายหาที่เปรียบมิได้ หลายคราเขาเกือบเข้าสู่ความตาย แต่เพียงลมหายใจเฮือกหนึ่งก็ทำลายไม่ได้ นางยังมีลมหายใจ นางยังหายใจเขาจะตายลงได้อย่างไร

เขาสู้รบจนสำเร็จ ควบม้าไปไกลแสนไกล บนทะเลทรายอันแห้งแล้งพืนนั้น สลักเส้นอักษรเอาไว้ว่าเซียวเซียวรักซือถูจิ้ง

เขานำเลือดของตนซึมซาบตัวอักษรเหล่านั้นลงไป สีแดงสาดเข้ามาในดวงตา พระอาทิตย์ตกในสนามรบคือความสวยงามที่วูบไหวน่าสลด มิอาจสู้ซือถูจิ้งนามนี้ได้

ในครานั้น เขาถูกกักขังอยู่ในภูเขาเถองหลง เสบียงถูกปล้น ไร้หนทางนำผู้คนห้าพันคนเข้าสู้เมืองอันดิบเถื่อน เสียงอาวุธคมดาบดังสนั่นไม่มีท่าทีว่าจะหยุดยั้ง เขาวิ่งเข้าสู่ความตายอย่างแน่วแน่

ในสนามนั้นสู้จนถึงที่สุด เขาฆ่าฟันนับไม่ถ้วน ศรปักเขาล้มลงกับพื้น คิดว่าต้องสิ้นชีวิตลงแน่ เขามองอีกาที่บินวนอยู่เหนือหัว ปลดกำไลลูกปัดที่แขนออกมา พันรอบแขนรอบแล้วรอบเล่า นั่นเป็นสิ่งที่ซือถูจิ้งส่งให้เขา

“ข้าไปวัดกวนอิมเพื่อขอมาให้เจ้า หลังจากนี้ต่อไปเจ้าใส่เอาไว้ มีพระโพธิสัตว์กวนอิมคอยหนุนนำ ไม่ว่าสิ่งใดก็มิต้องกลัว ”

ในตอนนั้นเขายังเป็นทหารยู่หลินอยู่ในวัง

เขาใช้มันเป็นอย่างดี

ในปีนั้นเขาคิดว่าจะขอซือถูจิ้งแต่งงาน ฮ่องเต้กล่าวกับเขาว่า เจ้าสามารถแต่งงานกับองค์หญิงได้ หากแต่ว่าตระกูลเซียวไร้ตำแหน่งทางทหาร ฐานะสามัญชน จากนี้ต่อไปถอนตัวออกมาจากเมืองหลวง หากไม่มีเหตุอันใดก็ไม่กลับมา

นอกจากนั้นซือถูจิ้งก็มิใช่องค์หญิงอีกต่อไป เหมือนกับตระกูลเซียว เป็นเพียงแค่สามัญชน หลังจากนั้นก็ไม่สามารถกลับเมืองมาพบครอบครัวคนใกล้ชิดของนางได้อีก

ฮ่องเต้ยังตรัสอีกว่า เจ้าต้องปกป้องดูแลตระกูลเซียว ต้องดูแลองค์หญิง และจงทำร้ายใจขององค์หญิงเสีย หลังจากนั้นจึงแต่งงานกับนาง

เขากล่าว ถ้าเช่นนั้น ข้าไม่สู่ขอองค์หญิง และมิแต่งงาน ข้าจึงจะปกป้องนางได้ตลอด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม