บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 2105

งานเลี้ยงในวัง รายการที่จะขาดไปไม่ได้เด็ดขาด ก็คือบรรดาพี่น้องสะใภ้เมาท์มอยกันนั่นเอง

หรงเยว่เป็นฝ่ายเริ่มถามขึ้นเป็นคนแรก ว่าพวกเด็ก ๆ ออกไปเรียน พวกเขาไปเรียนที่ไหน? แล้วเมื่อไหร่ถึงจะกลับมา?

หยวนชิงหลิงพูดอย่างลึกลับว่า: "จะกลับมาเมื่อไหร่นั้นยังบอกได้ไม่แน่ชัด แต่มีเรื่องหนึ่งที่สามารถบอกได้ นั่นก็คือเซเว่นอัพวางแผนว่าจะให้ของขวัญแก่ทุกคน รอให้ถึงวันส่งท้ายปีเก่าพวกเราก็จะได้รู้กันแล้ว"

“ของขวัญอะไรรึ? ถึงต้องเก็บเป็นความลับขนาดนี้?” ฮูหยินเหยาถาม

“ไม่บอก ถ้าบอกก็ไม่น่าประหลาดใจน่ะสิ”

หรงเยว่มองนาง "คงไม่ใช่ว่าพอถึงเวลาจริง ๆ จากความประหลาดใจ จะกลายเป็นความตื่นตกใจแทนหรอกนะ?"

หยวนชิงหลิงยิ้มพลางพูดว่า: "ถ้าสำหรับคนอื่นก็อาจจะพูดยากหน่อย แต่ถ้าสำหรับเจ้าล่ะก็ จะต้องเป็นเรื่องน่าประหลาดใจแน่ ๆ"

นับจากวินาทีนั้นหรงเยว่ก็ตั้งหน้าตั้งตารอทันที ฮองเฮาช่างรู้ใจนางจริง ๆ หรือจะเป็นสิ่งที่นางไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต? อาหาร? เสื้อผ้า? สินค้าคุณภาพสูง?

เซเว่นอัพเจ้าเด็กน้อยคนนี้ จะให้ของขวัญอะไรนางกันแน่นะ?

พระชายาซุนกลับไม่ได้สนใจมากมายว่าเขาจะให้อะไร คิดแค่ว่าพอถึงช่วงปลายปี ทุกคนมีโอกาสได้มาอยู่ด้วยกันเหมือนตอนนี้ ได้รวมตัวพูดคุยสนุกสนานเฮฮาแบบนี้ ก็ดีกว่าอะไรทั้งหมดแล้ว

ชีวิตคนเรานั้น หลังจากผ่านพ้นการหลั่งเลือด ฝ่าฟันมรสุมอันหนักหนามาได้ สุดท้ายก็จะกลับสู่ความสงบสุข ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติพร้อมหน้า ก็วิเศษกว่าสิ่งอื่นใดในโลกนี้แล้ว

ฮูหยินเหยากับจิ้งเหอจูงมือกัน สองคนนี้มีการไปมาหาสู่กันค่อนข้างบ่อย ตอนนี้พวกนางดูแลสถานรับเลี้ยงเด็กด้วยกัน ในใจเต็มไปด้วยความสุขเปี่ยมล้น

อะซี่คุยไปพลาง ก็คอยหันหน้าไปมองหาสวีเปิ้งเปิ้งไปพลาง เด็กคนนี้พลังชีวิตเหลือล้นจริง ๆ เด็กวัยกำลังโต ชอบจ้องจะวิ่งออกไปข้างนอกตลอด

หยวนหย่งอี้เอนตัวเข้าไปซบข้างลำตัวหยวนชิงหลิง นางไม่ได้เจอพี่หยวนมานานมากแล้ว จึงอยากคุยกับอีกฝ่ายมาก ๆ เป็นธรรมดา

ชีวิตของนางดำเนินมาจนถึงตอนนี้ ก็ยังคงจดจำความฝันที่จะสะพายกระบี่ออกไปท่องยุทธภพให้ไกลจนสุดขอบฟ้า แต่เพราะตอนนี้นางมีภาระติดพัน ต่อให้เป็นการจากไปแค่ชั่วระยะสั้น ๆ ก็ยังไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

แต่นางก็ไม่ได้นึกเสียดายอะไร เพราะนางเคยได้ออกไปแล้ว เคยเห็นโลกใบนี้แล้ว

แต่ติดอยู่ที่ว่า นางมักจะคิดอยู่เสมอว่านอกจากโลกใบนี้แล้ว มันยังมีโลกใบอื่นอีกหรือไม่นะ? ถ้ามีโอกาส นางก็อยากออกไปเปิดหูเปิดตาอีกสักครั้งจริง ๆ

พระชายาอานกับหมันเอ๋อไม่อยู่ ในฐานะสองศรีพี่น้องสะใภ้ที่ห่างหายจากกลุ่มไปนาน พวกนางย่อมกลายเป็นหัวข้อซุบซิบของทุกคนเป็นธรรมดา

ใครไม่อยู่ ก็ต้องซุบซิบถึงคนนั้นนั่นแหล่ะ

พระชายาซุนเล่าว่าสะใภ้เก้าคลอดลูกออกมาหลายคนแล้ว ตอนนี้คิดจะกลับมาสักครั้งก็ไม่ง่ายแล้ว

ส่วนพระชายาอาน หรงเยว่เล่าว่าหลายปีมานี้ นางยิ่งเป็นเหมือนนักพรตที่ละซึ่งกิเลสเข้าไปทุกที ๆ แล้ว บอกว่านางไม่สวมกระทั่งพวกผ้าไหมผ้าต่วนเนื้อดีด้วยซ้ำ แต่จะสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกับชาวบ้านในเจียงเป่ย

พระชายาซุนรีบเสริมว่า "อย่าให้พูดเลย ยัยปีศาจเฒ่านั่นไปอยู่จวนเจียงเป่ยตั้งนานหลายปีแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะดูแก่ขึ้นเลยสักนิด ต่อให้ใช้เศษผ้าหยาบ ๆ คาดผมใส่ชุดกระโปรงที่ทำจากหนาม ก็ยังซ่อนหน้าตาสวย ๆ ของนางไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”

“เจ้าสิยัยปีศาจเฒ่า!” ฮูหยินเหยาด่านางพลางหัวเราะชอบใจ

"ถ้าพูดถึงปีศาจเฒ่า ต้องยกให้ฮองเฮาต่างหาก!" อะซี่หันหน้ามาพูดด้วยรอยยิ้ม

ทุกคนต่างเห็นด้วยกับคำพูดของอะซี่ เข้าไปรุมล้อมหยวนชิงหลิงทันที ถามนางว่ามีวิธีการดูแลตัวเองยังไง

หยวนชิงหลิงถูกรุมล้อมจนถอยไม่ได้แล้ว จึงทำได้แค่ยิ้มแล้วพูดว่า "ไม่ได้บำรุงอะไรหรอก สวยตามธรรมชาติน่ะ"

“ขี้โม้!” ทุกคนโพล่งด่านางพร้อมกัน

ขี้งกจริง ๆ เลย! มีสูตรลับอะไรดี ๆ ก็ไม่รู้จักเอามาแบ่งปันกับทุกคนบ้าง

หลังจากรวมตัวกันเพียงสั้น ๆ ฮ่องเต้แห่งเป่ยถังก็ออกเดินทางอีกครั้ง

ชีวิตนี้ของเขา มีรูปแบบการใช้ชีวิตอีกด้านหนึ่ง และเป็นสิ่งที่เขามีความสุข ทั้งยังพึงพอใจมาก!

แต่จะอย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอย ว่าของขวัญจากเซเว่นอัพคืออะไรกันแน่?

เจ้าห้าถึงกับสาบานเลยว่า ตัวเขาเองก็ไม่รู้ มีเพียงเจ้าหยวนคนเดียวที่รู้

แต่เจ้าหยวนไม่ยอมบอก ตอนนี้เจ้าหยวนเก็บซ่อนพวกความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้เยอะมาก

เขารู้แค่ว่าเซเว่นอัพกำลังวางแผนถ่ายทำภาพยนตร์ ยังบอกด้วยว่าจะให้ทันช่วงเทศกาลตรุษจีน

ต่อมา ก็บอกอีกว่าจะให้ทันก่อนตรุษจีนสักสองสามวัน แบบนี้คนในโรงหนังจะได้มีไม่มากนัก

ถ้าขาดทุนก็ต้องสมน้ำหน้าเซเว่นอัพแล้ว จะฉายหนังดันคาดหวังให้คนในโรงหนังมีน้อย ๆ

ไอ้ของเฮงซวยที่เรียกว่าเวลาน่ะ ไม่ว่าโลกใบนี้จะเกิดอะไรขึ้น มันก็จะหมุนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งตามจังหวะของมัน

วันหยุดฤดูร้อนสิ้นสุดลงแล้ว วันหยุดฤดูหนาวเวียนมาถึงอีกครั้ง

ทันทีที่วันหยุดฤดูหนาวมาถึง ข้าวเหนียวกับโค้กก็กลับบ้านทันที

สมัยก่อนเมื่อไหร่ก็ตามที่ถึงวันหยุด ข้าวเหนียวจะบอกเสมอว่าเขาอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เขาเอาแต่เรียน ๆ ๆ อย่างบ้าคลั่ง ยังบอกด้วยว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด

หลังวันส่งท้ายปีเก่า เจ๋อหลานกับซาลาเปารวมถึงทังหยวนก็รีบตามมา ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้พาฉื้อถงมาด้วย พามาแค่สามยักษ์ใหญ่เท่านั้น

เขาย่อมถามเอาความเป็นธรรมดา รัชทายาทมีหน้าที่ดูแลประเทศ ถึงกับละทิ้งหน้าที่โดยพลการ

ถึงอย่างไร ก็ยังมีเวลาอีกสองสามวันก่อนที่ราชสำนักจะหยุดทำการ มีเรื่องเร่งด่วนอะไรกัน ถึงต้องรีบออกไปในเวลานี้?

จะถามก็ถามเถอะ ก็แค่บอกไปว่าคิดถึงพ่อแม่ คิดถึงตายายก็จบแล้ว

พอถามเพิ่มอีกหนึ่งข้อ ไม้เท้าของอู๋ซ่างหวงก็โบกมาทักทายเขาอย่างเร่าร้อน

ช่างเถอะ ฉลองปีใหม่ทั้งที ไม่อยากไปต่อว่าอะไรเขาแล้ว ปีนี้เขาก็เหนื่อยยากลำบากไม่น้อย ให้เขาพักร้อนล่วงหน้าได้สนุกเพลิดเพลินกับวันหยุดสักหน่อยก็ดี

ติดอยู่แค่ว่า เจ้าหัวเล็ก ๆ ทั้งหกนี้มักจะจับกลุ่มกันอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่ พอทุกครั้งที่เห็นว่าเขามาแล้ว ก็จะรีบหยุดอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน