ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 392

เวลานี้ มังกรร้ายพลันร้องขึ้นเสียงดังอย่างตกใจว่า "มีคนตกลงมาจากท้องฟ้าแล้ว!"

ก่อนที่เขาจะส่งเสียง เฉินซ่าได้เงยหน้าขึ้นไปมองแล้ว พอเห็นหัวใจเขาที่ฆ่าจนด้านชาไร้ใครเทียมก็สั่นกระตุก

ร่างที่หล่นลงมาจากฟ้านั้นช่างคุ้นเคยนัก

เขารีบสะบัดโซ่ทิ้ง โซ่ออกไปโดนตาข่ายที่ทหารม้าโซ่อัปรีย์ถักทอขึ้น ทำให้เขาอาศัยแรงนั่น ยื่นมือขึ้นไปโอบกอดคนผู้นั้น

กอดนางไว้แน่น ร่างพลันร่วงลง

พวกมังกรร้ายต่างพากันตกใจอ้าปากค้างกับภาพที่เห็น

พวกที่มือดึงโซ่ หรือพวกที่ถือคบไฟล้อมกรอบมองดูอยู่ แต่ละคนเบิกตากว้างราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน เหตุใดจึงมีคนร่วงหล่นลงมาจากฟ้าได้?

สตรีผู้หนึ่ง!

จากมุมนั้นมังกรร้ายเห็นใบหน้าสตรีผู้นั้น สตรีที่งดงามยิ่งหลับตาสนิท

พระสนมแห่งพั่วอวี้!

พวกเขาอยู่ในพั่วอวี้ มังกรร้ายย่อมต้องใส่ใจเรื่องของตำหนักจิ่วเซียวเป็นอย่างมากอยู่แล้ว แทบจะทุกอำนาจล้วนพากันสืบหาข้อมูลหน้าตาของโหลชีหลังจากที่เฉินซ่าประกาศแต่งตั้งพระสนม พวกเขาส่วนมากไม่รู้ตบะวิทยายุทธ์ของโหลชี เพราะความดีความชอบเหล่านั้นที่นางสร้างพวกเขาไม่รู้ว่าต้องใช้เรี่ยวแรงไปเท่าไหร่ และก่อนหน้านี้โหลชีไม่มีชื่อเสียงเลยสักนิด นางปรากฏตัวออกมาดื้อๆ คนส่วนมากต่างคิดว่านางแค่หน้าตางดงามและมีมันสมองเล็กน้อย สิ่งที่ถนัดที่สุดคงจะเป็นพวกการควบคุมสัตว์กระมัง แต่กลับทำเฉินซ่าหลงใหลโงหัวไม่ขึ้น ถึงกับพูดว่าต้องการสตรีเยี่ยงนางคนเดียว น่าขบขันยิ่งนัก

แต่ว่าไม่รู้ว่าคนมากมายเพียงใดต่างเห็นโหลชีเป็นจุดอ่อนของเฉินซ่าไปแล้ว คนที่อยากฆ่านางมีมากมายนัก

มังกรร้ายไม่เพียงกระหายการฆ่า ยังชมชอบสตรียิ่ง พอเห็นหน้าตาโหลชี น้ำลายเขาก็ไหลไม่หยุด เขายังไม่เคยเห็นสตรีใดสวยงามเพียงนี้มาก่อน! และยิ่งเห็นเสื้อผ้าที่โหลชีสวมใส่ ร่างกายเขาพลันร้อนรุ่มทันที

เพราะเห็นเป็นโหลชี เขาจึงเมินเฉยกับเรื่องที่จู่ๆนางก็หล่นลงมาจากท้องฟ้าเอาดื้อๆไปเลย

"พี่น้องทั้งหลาย ฆ่าเฉินซ่าซะ! สตรีของเขาข้าไม่ถือสาจะนอนให้แทนเขาเอง!"

เทียนยีและตี้เอ้อร์สะท้านชั่วครู่ เจ้าหมอนี่ใจกล้ามาจากไหน? กล้าพูดจาเช่นนี้! พวกเขาสามารถคาดเดาได้เลยว่า มังกรร้ายจะตายอย่างน่าอนาถแค่ไหน!

เฉินซ่ากอดโหลชีนั่งลงบนหลังม้า สายตาเย็นเยียบของเขาปรายมองหน้ามังกรร้าย และดึงกลับมาอย่างรวดเร็ว ในตอนที่ปรายตามาถึงหน้าโหลชี สายตาเย็นเยียบนั่นพลันมลายไป

เขาไม่คิดเลยว่าโหลชีจะหล่นลงมากลางอากาศอีก และครั้งนี้ก็หล่นลงมาในอ้อมกอดเขาอีก!

"นี่มิใช่เป็นการบอกหรอกรึว่า เจ้าถูกกำหนดไว้แล้วต้องเป็นสตรีของข้า?" ริมฝีปากบางกระซิบข้างหูนาง ใช้เสียงที่มีแต่นางเท่านั้นที่ได้ยิน

ใบหน้าเย็นชาเรียบเฉยมาทั้งคืนของเฉินซ่าพลันมีรอยยิ้มขึ้น ถึงเขาจะเป็นบุรุษ แต่ขนาดพวกมังกรร้าย ยังตาพร่าไปกับรอยยิ้มนี้ของเขา

แต่รอยยิ้มนี้ไม่นานก็หายไป โหลชีหล่นลงมาจากท้องฟ้าอีก แสดงว่าอะไร? แปลว่าอะไร?

แปลว่านางกลับไปอีกแล้ว!

กลับไป "ที่แห่งนั้น" ที่ที่เขาเองก็มิรู้ว่าอยู่ที่ใด เขาไปไม่ได้ และไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ! นี่มันเรื่องอะไรกัน?

เขากอดนางไว้ ในใจเขายังคงหวาดหวั่น นางกลับไปอีกแล้ว หากนางมิกลับมาเล่าจะทำเช่นใดดี?

เวลานี้เขาถึงได้เห็นเสื้อผ้าของโหลชี และรีบกอดนางไว้แน่นทันที

เสื้อผ้าเยี่ยงนี้คราก่อนยามนางหล่นลงมาในอ้อมกอดเขานางก็เคยใส่ ทำไมตอนนี้กลับมาใส่อีกแล้วเล่า?

เสื้อตัวบนรัดรูป กางเกงรัดรูป ฉายชัดถึงทรวดทรงองค์เอวนางทั้งตัว! คนยุคโบราณไม่มีทางเข้าใจกางเกงยีนส์รัดรูปเอาต่ำและเสื้อรัดรูปคอต่ำหรอก!!!

เพราะการฝึกฝนและการออกกำลังกายตั้งแต่เล็กของโหลชี ทำให้เรือนร่างของนางอรชรงดงามยิ่ง ทุกสัดส่วนล้วนเรียบเนียนเป็นพิเศษ จุดเนินสูงดึงดูดคนยิ่งนัก สัดส่วนเยี่ยงนี้ยามใส่ชุดโบราณที่เทอะทะพลิ้วไหวย่อมซ่อนไปได้หลายส่วน โดยเฉพาะสองขาเรียวยาวตรงของนาง ยามใส่ชุดโบราณก็มองไม่เห็นแล้ว แต่นี่มันชุดยีนส์รัดรูปนะ ที่รัก รู้ไหมว่าอะไรคือสไตรส์ที่วิเศษและทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่นน่ะ? การปฏิรูปที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่นก็คือ การถือกำเนิดของกางเกงยีนส์ไงล่ะ!

เล่านอกเรื่องไปไกลละ

ยังไงซะให้คนโบราณคนหนึ่ง ไม่สิ ผู้ชายยุคโบราณมาเจอโหลชีในชุดกางเกงยีนส์รัดรูป คงรู้นะว่าจะตกตะลึงกันแค่ไหน?

เฉินซ่าใกล้จะธาตุมารเข้าแทรกละ

บัดนี้เป็นฤดูร้อน เขาไม่ได้ใส่เสื้อคลุม มิเช่นนั้นเขาต้องรีบเอาเสื้อคลุมห่อร่างนางไว้มิดชิดแน่!

แต่ว่า.....

สายตาของเขาปรายมองมังกรร้าย และปรายตามองคนเกือบร้อยที่เหลือ มีไอหมอกดำมืดอาฆาตออกจากดวงตานั้น คนพวกนี้ต้องตาย!

เดิมเขาก็ไม่คิดจะปล่อยคนพวกนี้อยู่แล้ว แต่ก่อนหน้าที่โหลชียังไม่ตกจากฟ้า ความอาฆาตของเขายังไม่หนักขนาดนี้ คำพูดเมื่อครู่ที่มังกรร้ายพูด รวมถึงโหลชีหล่นลงมาอีกครั้ง และเสื้อผ้าของนาง สิ่งเหล่านี้ทำให้ในใจเขาเกิดความวุ่นวายบ้าคลั่งดุจพายุร้าย

"เทียนยี"

เขากอดนางไว้แน่น แต่กลับเรียกชื่อลูกน้อง

"ฝ่าบาท ข้าน้อยอยู่ขอรับ"

เทียนยีเหลือบตามองขึ้นไป เห็นสายตาเฉินซ่ากดลงมา เขาพลันเข้าใจทันทีในความหมายของฝ่าบาท และพยักหน้าแผ่วเบา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ