ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 422

ความมืดได้สูญเสียสีของตัวมันเองไปแล้วต่อหน้าลำแสงสองสายนี้ ในนี้ไม่เห็นความมืด แสงสีทองสีเขียวส่องที่นี่จนป่าสีเขียวเป็นแสงสะท้อนไปทั่ว ขนาดบนใบหน้าพวกเขายังเป็นสีทองสีเขียว แปลกประหลาดราวกับสัตว์ประหลาดในหุบเขา

แต่หลุมใหญ่เยี่ยงนี้ อย่าว่าแต่ด้านล่างมีสมบัติอะไร พวกเขาก็ไม่มีทางลงไปได้เลย ต่อให้เป็นเฉินซ่าที่วิทยายุทธ์สูงขนาดนี้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าธรรมชาติที่มหัศจรรย์เยี่ยงนี้ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน

เฉินซ่าเห็นนางครุ่นคิดหัวแทบแตกยังไม่ยอมแพ้ และไม่มีหนทางมองเห็นด้านล่างหลุมใหญ่นั่นด้วย สายตากลอกไปมาเล็กน้อย พลันโอบเอวนาง ปลายเท้าแตะพื้น ร่างทะยานผ่านด้านบนหลุมใหญ่นั่นไป

"สวรรค์ ไม่ทำคนตกใจขนาดนี้ได้ไหม?" โหลชีโดนเขาทำแทบหัวใจวาย ใครจะคิดว่าเขาจะเล่นไม้นี้? แถมนางยังคิดอยู่ว่า หลุมใหญ่นี่อาจจะอันตรายมากกว่าหลายๆที่ที่นางเคยบุกมาด้วยซ้ำ

"ข้ายังไม่เคยเห็นเจ้ากลัวสิ่งใดจริงๆมาก่อน"

"ความหมายของท่านคือข้าเสแสร้งมาตลอดงั้นสิ?"

"เจ้าพูดเองนะ" เขายิ้มมุมปาก

โหลชีจะเถียงย้อน แต่กลับรู้สึกว่าใต้ฝ่าเท้ามีแรงดึงดูดและลมเบาบาง เลยก้มหัวลงไปมอง พบว่าตอนนี้พวกเขาค้างอยู่เหนือหลุมใหญ่ เท่ากับว่าค้างกลางอากาศ!

นางตกใจมาก

"จะดูก็รีบดู ข้าค้างอยู่ได้ไม่นานนัก"

โหลชีถึงได้สติกลับมา รีบมองเข้าไปในหลุมใหญ่

เพราะมีแสง ดังนั้นนางเลยมองเห็นผนังหลุมใหญ่มาก นั่นเป็นหินสีขาวที่เรียบลื่น เรียบเนียนไร้รอยต่อ ดูแล้วเกิดตามธรรมชาติ นี่แสดงว่าสถานที่นี้ไม่มีจุดไหนให้ลงยืนได้เลย

แสงนั่นอยู่ลึกมากลึกมาก จนตามองไปไม่ถึง

"รีบกลับไปเถิด" โหลชีก็ไม่กล้าอยู่นาน เพราะนางรู้สึกว่ามีแรงดูดส่งมาจากก้นหลุม พวกเขาค้างอยู่ตรงนี้ ร่างกายก็หล่นลงไปหลายส่วน

เฉินซ่าโอบเอวนางหมุนตัวเหาะกลับไป

"ดูท่าสถานที่นี้พวกเราไม่มีทางลงไปสำรวจให้แน่ชัดแล้ว" ในตอนที่เฉินซ่าคิดว่านางคงผิดหวัง นางกลับหัวเราะอย่างมีเลศนัยขึ้นมา "พวกเราไม่ผิดหวังนี่ พวกเราได้สมบัติล้ำค่ามาสองชิ้น จางมิ่งนั่นกับจ้าวหยุนไม่ได้อะไร ดูท่าคงหวังจะมาหาเอาที่นี่แน่" จากนั้นรอพวกเขามาดู ฮะฮะฮะ ไม่รู้ว่าจะกระอักเลือดหรือเปล่า

"พวกเรารออยู่ที่นี่ดู รอพวกเขามา ข้าจะส่งพวกเขาลงไป" เฉินซ่าสีหน้าเรียบเฉย เหมือนกำลังพูดเรื่องช่วยเหลืออะไรอย่างนั้น ใครไม่รู้ ต้องคิดว่าส่งพวกเขาลงไปที่เขาพูดถึง ต้องเป็นตวัดฝ่ามือซัดพวกเขาลงไปแน่ ส่วนจางมิ่งนั่น โหลชีไม่มีความเห็นอะไร เขาจะเป็นหรือตาย แต่จ้าวหยุน....

"ละเว้นจ้าวหยุนสักครั้งเถิด" พอได้ยินนางพูดเช่นนี้ สีหน้าเฉินซ่าทะมึนลงทันที "เจ้าจะขอร้องแทนเจ้าอัปลักษณ์เยี่ยงนั้นรึ?" เขายังไม่หายโกรธเลย นี่นางจะหาเรื่องเขาต่อ เมื่อไหร่นางจะทำตัวว่าง่ายไม่ยั่วโมโหเขากัน?

พอโหลชีเห็นสีหน้าเขาก็ถอนหายใจยาว นี่ไม่แค่ฝ่าบาทบ้าอำนาจ ยังมังกรบ้าอำนาจอีกแหน่ะ ไม่สิ มังกรขี้หึง นางยื่นมือไปกอดแขนเขา ลากเขาเดินไปในป่าที่อยู่ห่างไปไม่ไกล และปลอบประโลมเขาไปด้วย

"ท่านคิดดูนะ อีกนิสัยหนึ่งของจ้าวหยุน หยุนเฟิงเคยให้บัวเลือดเขาน้ำแข็งกับข้ามาใช่ไหม? ครั้งนี้ถือว่าตอบแทนเขาละกัน ท่านคงไม่อยากให้ข้าติดค้างน้ำใจบุรุษอื่นกระมัง?"

"ติดค้างน้ำใจ? เจ้าจะตอบแทนน้ำใจเขา?" เขาเหล่ามองมา

โหลชีเกือบกัดลิ้นตัวเอง บอกว่า "น้ำใจนี้ไม่ใช่ความรัก นี่ ข้าบอกเลยนะ ท่านไม่เล่นตัวอักษรมั่วซั่วได้ไหม?"

ปัญญาอ่อนหรือเปล่า? จะพูดกันดีๆได้ไหมเนี่ย?

เฉินซ่าแค่นเสียงหึ ยังดีไม่ค้านอีก

โหลชีแค่รู้สึกว่า อย่างน้อยหยุนเฟิงไม่เคยทำร้ายนางมาก่อน และยังเคยมีน้ำใจกับนางด้วย ส่วนจ้าวหยุน เจอกันครั้งก่อนก็เคยช่วยนาง ที่เมืองลั่วหยาง นางจะออกนอกเมือง เขาเป็นคนเอาป้ายคำสั่งของซู่ฉงโจวมา

ตอนนั้นนางก็ไม่ได้รู้สึกว่าจ้าวหยุนเป็นศัตรูกับนางหรือยังไง เพียงแต่ครั้งนี้ทำไมเขาเริ่มเปลี่ยนไป นางคิดไม่ตกจริงๆ แต่คนอย่างจ้าวหยุนนี่ นางรู้สึกว่าเก็บไว้จะมีประโยชน์กว่า

ในตอนที่โหลชีคิดว่าเขารับปากแล้ว เฉินซ่ากลับอุ้มนางขึ้นมา พริบตาเดียวขึ้นต้นไม้ โอบนางนั่งลงบนกิ่งก้านที่หนาแข็งแรง รัดนางไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา จ้องมองนางด้วยสายตาทุ้มเข้ม น้ำเสียงต่ำทุ้มว่า "เจ้าบอกให้ข้าฟังเจ้า มีอะไรจะบอกไหม?"

พวกหลินเสิ้งเวยเดิมเดินตามหลังพวกเขา พอเห็นพวกเขาขึ้นต้นไม้ เลยยืนงงใต้ต้นไม้ นี่....

เฉิงสิบกระแอมเสียงเบาสองครั้งพลางว่า "พวกเจ้าสองคน ไปบนต้นไม้ทางนั้น" ต้นไม้ที่ชี้ไปถึงจะห่างไปไม่ไกล แต่อยู่บนนั้นไม่มีทางได้ยินคำพูดบนต้นไม้ทางนี้แน่

หลินเสิ้งเวยกับหวูเสี้ยวหยูรีบเงียบเสียงเคลื่อนตัวไปทางนั้น และปีนขึ้นต้นไม้ไป

ส่วนเฉิงสิบขยับไปทางอีกต้นหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ถึงจะไม่รู้ว่าจางมิ่งกับจ้าวหยุนมันเรื่องอะไรกัน จนถึงตอนนี้ยังมาไม่ถึงที่นี่ แต่พวกเขาต้องมาแน่ บัดนี้ยังไงซะพวกเขาก็ต้องค้างคืน สู้เฝ้าไปด้วยพักผ่อนที่นี่ไปด้วยดีกว่า

แน่นอน เขาเองก็ไม่กล้าไปแอบฟังคำพูดของสองคนนั้นหรอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ