รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 629

เปปเปอร์ตอบรับด้วยความพึงพอใจ “เปลี่ยนเวลานิดหน่อยนะ เป็นสองทุ่ม”

เขาเดินทางไปหามายมิ้นท์ตอนหกโมง จากนั้นก็พาเธอไปทานข้าว สองทุ่มดูหนังดูหนังเสร็จออกมาก็สี่ทุ่มแล้ว

เวลาสี่ทุ่มเมื่อเขาส่งเธอกลับไปที่คอนโดพราวฟ้าก็น่าจะประมาณเที่ยงคืน

ดึกขนาดนั้นเขาน่าจะนอนที่นั่นได้ใช่ไหม?

ดวงตาของเปปเปอร์กะพริบเป็นประกาย เมื่อคิดได้ดังนั้นหัวใจของเขาก็เต้นรัว

ผู้ช่วยเหมันตร์ไม่รู้ว่าเปปเปอร์คิดอะไรอยู่ในใจ ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินว่าให้เปลี่ยนเวลาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พยักหน้าและตอบว่า “ได้ครับประธานเปปเปอร์”

เปปเปอร์วางโทรศัพท์ภายในลงก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือตอบข้อความมายมิ้นท์ว่า ‘เดี๋ยวตอนหกโมงผมจะรับคุณไปทานข้าวด้วยกันก่อน ได้ยินมาว่าที่ทางฝั่งเหนือของเมืองมีร้านอาหารฝรั่งเศสเปิดใหม่ร้านหนึ่งรสชาติไม่เลวเลย’

มายมิ้นท์ยิ้มเบาๆ ‘ได้ค่ะ’ หลังจากที่พิมพ์เสร็จแล้วเธอก็กดส่งออก

เธอเพิ่งจะกดส่งข้อความออกไป ก็มีสายโทรเข้าทันที

เมื่อเธอเห็นรายชื่อของผู้ที่โทรเข้ามา มายมิ้นท์ก็ทำสีหน้าประหลาดใจ

เนื่องจากโทรศัพท์สายนี้เป็นสายของราเม็ง

นับตั้งแต่ร่างของราเม็งมีบุคลิกที่สองเข้าครอบงำ และเดินทางออกจากเมืองเดอะซีไปยังเมืองปักษา เธอก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาอีก และเขาก็ไม่ได้ติดต่อกับเธอเช่นกัน

เพราะเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะติดต่อกับราเม็งเรื่องอะไรดี เนื่องด้วยบุคลิกที่สองของเขานั้นเธอไม่มีความเข้าใจเรื่องนิสัยมาก่อนเลย สิ่งเดียวที่เธอรู้นั่นก็คือบุคลิกที่สองของเขาไม่ใช่คนดี

อีกทั้งตัวเธอเองก็รู้สึกเบื่อที่จะต้องติดต่อกับคนคนนี้ ดังนั้นเธอจึงพยายามไม่ติดต่อเขาและไม่คิดถึงเขา

แต่คิดไม่ถึงว่าเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน เขากลับโทรหาเธอเอง

เพียงแต่ว่าโทรศัพท์สายนี้เธอควรจะรับมันหรือไม่

มายมิ้นท์มองดูชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ ก่อนจะกัดริมฝีปากเบาๆ ด้วยความลังเลใจ

เพราะว่าเธอไม่รู้จักบุคลิกที่สองของเขาคนนี้ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับเขา

แต่หลังจากที่เธอทำท่าทางครุ่นคิดอยู่สักพัก ในที่สุดมายมิ้นท์ก็ตัดสินใจรับโทรศัพท์นั้น

หากว่าคนที่โทรมาไม่ใช่บุคลิกที่สองของเขา แต่เป็นราเม็งคนเดิมที่เข้ามาครอบครองร่างกายเดิมได้แล้วล่ะ

เมื่อมีความหวังดังกล่าว มายมิ้นท์สูดหายใจเข้าลึกแล้วกดปุ่มรับสาย “ราเม็ง”

เธอพูดออกไปด้วยน้ำเสียงอันระมัดระวัง ผสมผสานไปด้วยการทดลองใจ

อีกด้านของโทรศัพท์เงียบไปประมาณสองวินาที จากนั้นจึงมีเสียงชายหนุ่มที่น่าสะพรึงกลัวดังขึ้นว่า “พี่สาวครับ ผมชื่อธิติ หากเทียบกับราเม็งแล้วผมชอบชื่อนี้มากกว่า”

สรุปแล้วก็คือเขาไม่อยากจะใช้ชื่อที่ไอ้หมอนั่นสุดงี่เง่าใช้มายี่สิบกว่าปี

และชื่อธิตินี้ สามารถแยกแยะระหว่างเขากับไอ้ราเม็งงี่เง่านั่นได้

เมื่อได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ สีหน้าของมายมิ้นท์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หัวใจของเธอจมดิ่งลง ความรู้สึกผิดหวังเพิ่มมากขึ้น

ความหวังของเธอยังคงไร้ผล ราเม็งยังไม่ตื่นขึ้นมา และไม่สามารถเข้าควบคุมร่างกายของเขาได้

คนที่โทรศัพท์มานั้นคือบุคลิกที่สองของเขา

สิ่งนี้ทำให้มายมิ้นท์รู้สึกไม่สบายใจเลย เธอเม้มริมฝีปากแดงเรื่อของตนแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณธิติมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ราเม็งหรือควรจะเรียกว่าธิติ บัดนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าต่างที่มีแสงส่องประกาย

เขาได้ยินน้ำเสียงที่มายมิ้นท์พูดกับเขาและคำเรียกนั้น ดวงตาก็หรี่ลงเล็กน้อย การแสดงออกเปลี่ยนไปเป็นมืดมน “พี่สาว ตอนที่พี่เรียกราเม็งทำไมถึงดูสนิทสนม แต่ตอนที่เรียกผมถึงดูห่างเหินนักล่ะ?”

มายมิ้นท์กล่าวขึ้นเบาๆ ว่า “เรื่องง่ายๆ นั่นเพราะว่าคุณไม่ใช่ราเม็ง”

ดังนั้นเธอจึงไม่อาจจะเห็นเขาเป็นราเม็งและปฏิบัติต่อเขาด้วยทัศนคติเดียวกันได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว