ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 759

ญาธิดาวางเอลล่าลงไปบนพื้น ก่อนจะตักเตือนเด็กทั้งสองคนให้ยืนตรงเรียบร้อยด้วยน้ำเสียงเข้มงวดจริงจังอย่างช่วยไม่ได้ต่อหน้าผู้คน “อีธานเอลล่า ขอโทษเพื่อนๆ”

“แม่……” เอลล่าสูดจมูก มองเธอด้วยความน้อยใจ

เธอลูบหัวของลูกสาว พูดสั่งสอนเบาๆ “ไม่ว่าใครจะผิด แต่การลงไม้ลงมือมันไม่ถูกต้อง จะต้องขอโทษ”

อีธานได้ฟังแบบนั้น ก็รีบก้มหัวขอโทษเพื่อนคนอื่นๆ ทันที พูดขอโทษออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้ เอลล่าก็เบะปาก ขอโทษเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน

แม่ของพอลเชิดคางขึ้นอย่างยโสโอหัง สีหน้าเต็มไปด้วยความสะใจ “เห็นท่าทียอมรับผิดของลูกคุณแล้วไม่เลวเลยนี่ เรื่องนี้ก็ช่างมันแล้วกัน แต่เรื่องค่ารักษาพยาบาลพวกเรายังต้องพูดคุยกันอยู่ดี”

“เรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องใจร้อนไป ฉันจะจ่ายชดเชยให้กับพวกคุณไม่ขาดสักแดงเดียว” ญาธิดากวาดสายตามองแม่พอลอย่างเย็นชา ค่อยๆ เปิดปากพูดขึ้น “แต่ฉันไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้มันจะจบลงเท่านี้”

แม่พอลชำเลืองตามองเธอ หัวเราะเยาะเย้ยออกมาอย่างดูถูกดูแคลน “แล้วคุณจะเอายังไง?”

ญาธิดาไม่ได้สนใจเธอ แต่เหลือบตามองไปที่พอล พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พอลบอกป้ามาหน่อยสิ ว่าทำไมหนูกับเพื่อนๆ คนอื่นถึงพากันพูดถึงพ่อของเอลล่าด้วยเหรอ?”

พอลก็เงยหน้าอย่างหยิ่งยโสเช่นกัน พูดตอบกลับมาอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น “แม่ของผมบอกว่าพวกเขาเป็นเด็กนอกคอกที่ไม่มีพ่อ พ่อของพวกเขาแทบจะไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วพวกเขาก็ไม่มีเงินด้วย ไม่คู่ควรที่จะมาเล่นด้วยกันกับพวกเรา”

เขาพูดพลาง หัวเราะคิกคิกออกมาพลาง พูดถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “คุณป้า ถูกพ่อของเอลล่าทิ้งไปจริงๆ เหรอ? แม่ของผมบอกว่าคุณป้าไปแก้ผ้าสู้กับลุงคนอื่น”

พอคำพูดที่หน่อมแน้มจบลง ภายในห้องทำงานก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ

แม่ของพอลสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบอุ้มลูกขึ้นมา พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “เด็กไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ก็แค่พูดออกมาตามที่ตัวเองคิดเท่านั้น คุณที่เป็นผู้ใหญ่แล้วคงจะไม่ถือสาอะไรกับเด็กหรอกสินะ?”

“แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว” ญาธิดายิ้มอย่างเย้ยหยัน สายตาราวกับมีดเชือดเฉือนไปที่หน้าของแม่พอล “เด็กไม่รู้เรื่อง แต่ผู้ใหญ่รู้เรื่องรู้ราวทุกอย่าง ถ้าเขาไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรพวกนี้มาก่อน แล้วจะพูดออกมาได้ยังไง คุณว่าถูกไหม?”

แม่พอลถูกแทงใจดำ รีบพูดตะคอกออกมาด้วยความอับอายกลายเป็นโมโห “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเขาไปเรียนมาจากไหน คุณหมายความว่าฉันเป็นคนสอนอย่างนั้นเหรอ?”

“ตอนที่ฉันเข้าประตูมา ดูเหมือนว่าคุณก็พูดคำพูดประมาณนี้เหมือนกันนะ แล้วทำไมคุณจะเป็นคนสอนไม่ได้ล่ะ?”

สายตาของผู้หญิงทั้งสองคนมองสบเข้าหากัน ตาคู่หนึ่งเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม อีกคู่ดูสว่างวิบวับ หลังจากผ่านไปสองสามวินาที สายตาคู่ที่สว่างวิบวับก็ค่อยๆ เผยให้เห็นถึงความรู้สึกผิด รีบหันสายตามองไปที่อื่นทันที

“ญาธิดา เรื่องสกปรกที่คุณทำเหล่านั้น ทั้งเมือง Jต่างก็รู้กันหมดแล้ว อย่ามาแสร้งทำตัวมีคุณธรรมไปหน่อยเลย คิดอยากจะเอาฉันกับลูกของฉันมาเชือดไก่ให้ลิงดู ฉันจะบอกกับคุณไว้เลยว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!” แม่พอลพูดตะคอกออกมาด้วยความโกรธเคือง

ญาธิดากอดอกพิงอยู่ตรงผนัง ขยับเล่นแหวนแต่งงานที่อยู่บนนิ้วนางเบาๆ พูดตอบกลับไปเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ฉันไม่ได้มีความสนใจไก่และลิงอะไรทั้งนั้น ฉันสามารถอดทนกับคำพูดพล่อยๆ ของพวกคุณได้ ถึงยังไงนี่ก็เป็นยุคสมัยแห่งเสรีภาพในการพูดอยู่แล้ว”

เธอพูดจบ บทสนทนาก็เปลี่ยนไป น้ำเสียงก็หนักแน่นรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วย “แต่ลูกของฉันเผชิญกับคำพูดโจมตีอย่างไม่มีเหตุผล ผู้ปกครองกับเด็กทุกคนจะต้องขอโทษลูกของฉัน”

พวกเหล่าผู้ปกครองที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินแบบนี้ ก็พูดตำหนิต่อว่าเธอด้วยสีหน้ารังเกียจทันที เอนศีรษะกระซิบกระซาบเป็นระยะๆ

แม่พอลราวกับว่าได้ฟังเรื่องตลกอย่างไรอย่างนั้น เหลือบตามองเธอ พูดดูหมิ่นออกมาอย่างไม่เกรงใจ “ทำไมพวกเราจะต้องไปขอโทษลูกนอกสมรสทั้งสองคนด้วย คุณนึกว่าคุณยังเป็นภรรยาของภวินท์ที่มีอิทธิพลใหญ่คับฟ้าของเมือง Jอยู่อีกเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์