สอนสวาท คุณครูพยาบาล นิยาย บท 2

“หึ....”

สายตาคมกริบจับจ้องมองทุกอิริยาบถของเด็กสาว แต่ทว่าร่างกายกลับแข็งขืนอย่างไม่ควรจะเป็น ท่อนเนื้อกลางร่างดูเหมือนจะผงาดขึ้น มือหนากำแน่นพยายามข่มความกำหนัดไร้ที่มา

ปากอิ่มสีแดงสดที่คลี่ยิ้มเล็กน้อยมันน่าบดขยี้ยิ่งนัก แววตากลมโตที่เต็มไปด้วยความใสซื่อไม่ต่างจากสมันน้อย ดวงหน้างามที่มีเครื่องสำอางฉาบทับแต่มันไม่อาจปกปิดความอ่อนเยาว์ของหล่อนได้

“เสแสร้งสิ้นดี !!”

“เป็นไรว่ะไอ้ขุนพล”

ทศพลเต็มไปด้วยความสงสัยเมื่อคนเป็นเพื่อนเหมือนจะขุ่นเคืองใครสักคนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แทนที่เขาจะหยุดยืนต่อแถวแต่กลับเดินแทรกตัวเข้าไปในห้องพยาบาลอย่างไม่สมควร

เสียงอื้ออึงเซ็งแซ่ที่พากันต่อว่าคนที่แซงคิวเช่นเขาดังเป็นระยะแต่ทว่าเมื่อเขาเหลียวหันกลับไปมองทุกคนกลับเงียบสนิท ทำราวกับตาบอดเสียอย่างนั้น

“เสร็จแล้วค่ะ”

เสียงหวานฉ่ำของหญิงสาวไม่ต่างจากใบหน้าแม้แต่น้อย

“ขอบคุณครับ”

นักศึกษาที่เพิ่งทำแผลเสร็จกล่าวขอบคุณโดยที่กว่าหล่อนจะทำเสร็จใช้เวลานานพอสมควร

กลัวเลือด...นั่นคือหนึ่งอุปสรรคของการทำงานและหล่อนก็รู้ดีแก่ใจว่าตนเองไม่ได้มีความรู้สายอาชีพนี้แม้แต่น้อย ขั้นตอนปฐมพยาบาลเบื้องต้นยังยากเย็นสำหรับหล่อนเสียด้วยซ้ำ

“อ้าวพี่ขุนพลไม่สบายหรือพี่”

คนที่เพิ่งทำแผลเสร็จกล่าวทักคนเป็นพี่ชายในขณะที่เจ้าของชื่อนั้นพยักหน้าเล็กน้อยและตั้งคำถามกับคนเป็นน้องชายแทน

“อย่าบอกนะว่าไปมีเรื่องมาอีกแล้ว”

ขุนศึก สุพิทธิวรรณ วัย 24 ระบายยิ้มหล่อเหลาไม่ต่างจากคนเป็นพี่ชาย เขาทั้งคู่คือฝาแฝดที่ พระเจ้าประทานความเพียบพร้อมให้ แต่ดูเหมือนว่าคนเป็นน้องนั้นจะแตกต่างกับคนเป็นพี่ชายลิบลับในเรื่องของอุปนิสัย

ใจร้อน โมโหร้าย ชื่นชอบในเรื่องการชกต่อยทั้งที่วัยวุฒิไม่สมควรแก่การใช้กำลังในการตัดสินปัญหา ฉะนั้นสาวๆ ในสถานศึกษาจึงต่างพากันขยาดหวาดกลัวเขา ซึ่งต่างจากผู้เป็นพี่ชายที่พกรอยยิ้มอบอุ่นติดใบหน้าเสมอ

“นิดหน่อยครับ”

คนเป็นพี่ชายพูดกับน้องแต่สายตากลับจับจ้องไปที่ใบหน้าอ่อนเยาว์ของคนเป็นครูสาว

“เอ่อ...พี่สองคน เอ้ย...คุณสองคน เป็นฝาแฝดกันหรือ”

ดวงตากลมโตที่เสมือนซุกซ่อนความเศร้าหมองเอาไว้ช้อนขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าสลับกับคนที่ตนทำแผลให้อย่างงุนงง

เลือดในกายสาวสูบฉีดอย่างรุนแรงเสมือนมีกระแสบางอย่างแล่นพล่านภายในร่างจนปลายถัน เบ่งบานเสียดสีกับบราเซียร์

“ครับเราเป็นฝาแฝดกัน”

ขุนศึกเป็นคนตอบในขณะที่ผู้ชายอีกคนยืนจ้องมองหล่อนตาไม่กระพริบจนหญิงสาวรู้สึกประหม่าเสมือนโดนจับผิด

ชายหนุ่มผู้เป็นน้องสบสายตากับคนเป็นแฝดผู้พี่ก่อนจะระบายยิ้มมุมปาก ไม่ต่างจากคำโบราณว่า...แค่มองตาก็รู้ใจ

“เอ้ย ไอ้พวกแกล้งป่วยเลิกกวนครูช่อแก้วได้แล้ว”

บรรดาผู้ชายที่ยืนต่อแถวพากันซุบซิบก่อนจะสลายแถวอย่างรวดเร็วราวกับขุนศึกนั้นเป็นผู้มีอิทธิพลภายในสถานศึกษา

“ผมไปก่อนนะพี่ขุนพล”

คนเป็นน้องเดินล้วงกระเป๋าออกจากห้องพยาบาลทันทีโดยที่คนเป็นครูรู้สึกหวาดหวั่น

“ผมไม่ค่อยสบายครูช่วยตรวจหน่อยจะได้ไหมครับ”

ขุนพลทรุดกายลงนั่งในขณะที่หล่อนพยายาม กักเก็บความรู้สึกประหม่า ทั้งที่เมื่อครู่นั้นหล่อนไม่ได้มีความรู้สึกใดกับขุนศึกแม้แต่น้อยทั้งที่คนทั้งสองนั้นหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ

“ได้ค่ะ เชิญนั่ง”

สายตาคมกริบที่จับจ้องราวกับกำลังจับผิดทำให้หล่อนยิ่งรู้สึกหวาดวิตก แต่พยายามบอกตนเองให้สงบสติเอาไว้

“ครูอายุเท่าไหร่หรือครับ”

“ยี่...ยี่สิบหก”

หล่อนพูดด้วยท่าทีอึกอักก่อนจะเสหลบสายตาคมกริบที่จ้องมองมา

“ไม่สบายมีอาการอะไรบ้างคะ”

ชายหนุ่มกลับไม่ตอบในสิ่งที่หล่อนซักถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนสวาท คุณครูพยาบาล