แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 137

การทำธุรกิจค้าขาย เป็นอาชีพหลักในการหาเลี้ยงชีพของนาง

ส่วนการรักษาคนไข้ ในระดับหนึ่งก็เพื่อบริการธุรกิจ

การเป็นหมอ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสะสมเส้นสายคนของตนเอง มีเส้นสายของตนเองแล้ว ก็จะยิ่งง่ายในการทำธุรกิจ

เมื่อภพที่แล้วก็เป็นเช่นนี้

แต่ว่าเมื่อภพที่แล้วนางก็ไม่ได้เป็นหมอ แต่เป็นนักเภสัชกร

เพราะชื่อเสียงอัจฉริยภาพทางเภสัชกรรมของเขานั้นแพร่หลายในชนชั้นสูง จึงมีผู้ทรงเกียรติมากมายมาขอยา

ด้วยเหตุนี้นางจึงมีเส้นสาย หลังจากมีเส้นสายแล้ว ไม่ว่านางจะเข้าสู่วงการธุรกิจอันไหนก็มีคนคอยเปิดทางให้กับนาง การหาเงินจึงเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างมาก

และในยุคสมัยนี้ การเป็นหมอเพื่อสะสมเส้นสาย ไม่เพียงเป็นการส่งเสริมการวางแผนหาเงินของนาง ยังสามารถกลายเป็นร่มที่คอยปกป้องนางด้วย

เพราะนี่เป็นยุคแห่งการแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน หากนางเป็นเพียงคนค้าขาย หรือเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ใครก็สามารถเหยียบนางได้

แต่ถ้าหากนางได้รู้จักกับคนมีอำนาจ ดังนั้นเมื่อมีใครคิดอยากที่จะทำอะไรกับนาง ก็จะคิดใคร่ครวญให้ดีก่อน

ทั้งหมดนี้ ล้วนต้องค่อยเป็นค่อยไป

อย่างแรกที่ต้องทำก็คือ ต้องสร้างชื่อเสียงของตนเองให้โด่งดัง

นางมีเวลาไม่มาก ดังนั้นตั้งแต่แรกนางก็พุ่งเป้าไปที่โรคที่รักษายาก แต่ไม่ใช่โรคเล็กน้อยทั่วไป

ใช่ว่านางหลงตัวเอง คิดว่ามีความสามารถรักษาโรคที่รักษายากได้ทุกอย่าง เพียงแต่ได้รับผลกระทบมาจากการเรียนฝีมือทางการแพทย์ในยุคปัจจุบัน นางจึงสามารถรักษาโรคบางอย่างที่หมอในยุคสมัยนี้ไม่สามารถรักษาได้

อีกอย่าง นางมีน้ำแร่วิญญาณ และก็เป็นเภสัชกรอัจฉริยะ มีสองสิ่งนี้รวมกัน โรคที่รักษายากต่างๆจึงกลายเป็นเรื่องง่าย

“เจ้า....” หมอสูมองดูสายตาลั่วเสี่ยวปิง ที่เต็มไปด้วยความใจกว้างและมั่นใจ อย่างอึ้งเล็กน้อย

“หมอสู ท่านก็เห็นแล้ว งานกิจการค้าขายของข้าก็อยู่มากพออยู่แล้ว ไม่มีเวลามาตั้งใจเป็นหมอ เพียงแต่โรคบางอย่างที่หมอปกติรักษาไม่ได้ เมื่อข้าเห็นแล้วก็ไม่อาจนิ่งดูดายเท่านั้น”

คำพูดของลั่วเสี่ยวปิงค่อนข้างถ่อมตัว แต่หากคนอื่นได้ยินคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง จะต้องคิดว่าลั่วเสี่ยวปิงจองหองถือดี

ยังไงคนอื่นก็จะต้องคิดว่า เจ้าเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าสามารถรักษาโรคที่คนอื่นรักษาไม่ได้? นี่ไม่เท่ากับเป็นการพูดโอ้อวดหรือ?

แต่มีตัวอย่างจางต้าหลางกับจางเอ้อเก่าอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นหมอสูจึงไม่คิดเช่นนี้ กลับกัน เขารู้สึกว่าลั่วเสี่ยวปิงมีความสามารถ

จู่ๆ อารมณ์ที่หดหู่มาหลายวัน ตอนนี้ได้มลายจางหายไปหมดแล้ว

เป็นเพราะเขาใจแคบเกินไป นึกว่าลั่วเสี่ยวปิงจะแย่งอาชีพกับตน

แต่ลั่วเสี่ยวปิงมีความสามารถแบบนั้น หากจะแย่งจริงๆ เขายังจะทำอะไรได้?

คนเป็นหมอมีมากมายขนาดนั้น ทักษะทางการแพทย์แตกต่างกันไป แต่ทุกคนสามารถอยู่อย่างสงบสุขได้ นั่นเป็นเพราะอะไร?

ไม่ใช่เป็นเพราะผู้ป่วยยิ่งเยอะ? และทุกคนต่างก็มีความสามารถแตกต่างกัน?

ยังไงหมอสูก็อายุมากขนาดนี้แล้ว และก็เห็นอะไรมาเยอะ หลังจากไม่คิดทำอะไรที่ไม่คุ้มค่าแล้ว หมอสูก็ไม่มีความคิดที่จะจากไปอีก

และในเวลานี้ หมอสูค่อยคิดขึ้นมาได้ พร้อมถามลั่วเสี่ยวปิงว่า “เสี่ยวปิงมาหาข้ามีธุระอะไรหรือ?”

หมอสูถามไปด้วย มืออีกข้างหนึ่งก็เอายาสมุนไพรกลับออกมาตากต่อ

หลายวันนี้มีแดดติดต่อกัน หากไม่ตากให้แห้ง เมื่อฝนตกลงมายาสมุนไพรพวกนี้ก็จะเสียหายหมด

เห็นการกระทำของหมอสูแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าหมอสูล้มเลิกความคิดที่จะจากไปแล้ว ในใจค่อยโล่งอก

ยังไงถ้าหมอสูจากไป ผู้ป่วยในหมู่บ้านใกล้เคียงนี้ก็จะไม่สะดวกแล้ว

และตนเองก็มีแผนงานของตนเอง ไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้มากมายขนาดนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง