สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ นิยาย บท 25

หลังจากที่ฟางเหนียงตกลงจะขายผักที่นางปลูกทั้งหมดให้กับภัตตาคารของลีหยางแล้ว ลีหยางก็ให้รถม้ามารับผักกาดขาวไปก่อน แล้วจึงค่อยมารับมะเขือเทศ กะหล่ำปลี พริก ตามลำดับ แต่มะเขือเทศนางจะขายให้เขาส่วนหนึ่งก่อน เพราะนางจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เพาะกล้า ครั้งนี้นางขายผักกาดขาวได้ 5 ตำลึงกับ 400 อิแปะ นางไม่คิดเลยว่าจะขายได้เยอะถึงเพียงนี้ วันนี้นางจึงอยากทำกับข้าวที่มีผักกาดขาวเป็นเมนูอาหารเย็นนี้ นั้นก็คือผักกาดขาวห่อหมู กิมจิ แกงจืดหมูสับ ขณะที่นางรอเวลาเก็บเกี่ยวของผักทั้งสามแปลงนั้น นางกับเจิ้งเจี๋ยจะพากันขึ้นเขาไปเก็บผักป่า บางวันทั้งสองคนก็ไปดักปลา แต่ 2-3 วันมานี้ เจิ้งเจี๋ยไม่ให้นางติดตามไปด้วย ได้แต่บอกนางว่าให้ดูแลผักที่สวนเพราะจะถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว เขากลัวว่าผักจะไม่สมบูรณ์

“ฟางเหนียง ข้าเอาเมล็ดของดอกไม้มาฝากเจ้าด้วยล่ะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นดอกไม้ชนิดใด” เจิ้งเจี๋ยยื่นเมล็ดที่มีลักษณะเป็นวงกลม มีเปลือกที่แข็ง ใหญ่เท่านิ้วโป้ง ให้กับฟางเหนียง ฟางเหนียงรับไว้แล้วก็ชวนเขาไปทานข้าว “อ่า ขอบใจมากนะ มาเรามาทานข้าวกันเถอะ พรุ่งนี้เราจะเก็บพริกกัน” เจิ้งเจี๋ยพยักหน้าตอบ วันต่อมาทั้งสองคนตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเก็บพริกส่งร้านภัตตาคาร ฟางเหนียงให้รถม้ามารับพริกกับกะหล่ำปลีพร้อมกัน เพราะจะได้ไม่เสียเวลาเดินทางไปมาหลายรอบ เจิ้งเจี๋ยที่เห็นว่านางเหนื่อยแล้ว เขาจึงให้นางขึ้นไปพักก่อน ส่วนที่เหลือเขาจะทำเอง ฟางเหนียงจึงขึ้นไปเข้าครัวทำกับข้าวรอ และต้มน้ำอาบที่เจิ้งเจี๋ยเตรียมไว้ให้ เสร็จแล้วนางก็อาบน้ำ แล้วต้มน้ำอาบอีกรอบไว้ให้เจิ้งเจี๋ย ฟางเหนียงเดินไปที่สวนอีกรอบหนึ่ง เพื่อดูว่าเจิ้งเจี๋ยใกล้เสร็จงานหรือยัง

“เจิ้งเจี๋ยขึ้นมาเถอะ พรุ่งนี้เราค่อยทำกันใหม่ นี้ก็พลบค่ำแล้ว” เขาที่ได้ยินเสียงของนางก็รีบตอบกลับมาด้วยความเป็นห่วงทันที “ใกล้เสร็จแล้ว เจ้าไปรอข้าในบ้านก่อนเถอะ ยุงมันเยอะมากนัก” นางพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในบ้าน “โฮสต์ บ้านใกล้จะเสร็จแล้วนะ ไม่น่าจะเกินเดือนหน้า” นางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที “จริงรึ เสียดายที่ข้ายังไม่มีเวลาได้ไปดู” คิดแล้วนางก็ทำหน้าเศร้า ปรับปรุงบ้านใหม่อย่างดีแต่ไม่มีโอกาสได้ไปอยู่ เอาไว้นางส่งผักรอบนี้เสร็จแล้วนางจะชวนเจิ้งเจี๋ยกลับบ้านสักครั้ง หลังจากที่รถม้ามารับผักทั้งหมดของนางกลับไปแล้ว ฟางเหนียงจึงคิดจะเอาเงินไปเก็บสะสม นางขายผักกาดขาวได้ 5 ตำลึง 400 อิแปะ กะหล่ำปลีได้ 4 ตำลึง 600 อิแปะ พริกขายได้ 3 ตำลึง ส่วนมะเขือเทศนางขายได้ 15 ตำลึงทอง รวมเงินที่ขายผักทั้งหมดเป็น 16 ตำลึงทอง 3 ตำลึงเงิน นางเอาเงินทั้งหมดเป็นเงินสะสม เพราะตอนนี้นางมีเงินติดตัวอยู่ประมาณ 15 ตำลึงทอง หากไม่มีเหตุจำเป็นอะไรนางจะไม่เอาเงินที่ได้มานั้น ใช้ในชีวิตประจําวันเด็ดขาด

“มีใครอยู่ไหม ปึง ปึง ปึง เจิ้งเจี๋ยเจ้าอยู่ในบ้านหรือไม่” เสียงเรียกที่ดังไม่หยุด ทำให้นางต้องรีบวิ่งออกจากห้องไปดูว่าใครมา “มาแล้ว มาแล้ว รอสักประเดี๋ยว” นางตะโกนตอบรับคนที่อยู่นอกบ้าน เจิ้งเจี๋ยก็เดินตามหลังนางมาติดๆ เขาที่อยู่สวนหลังบ้านได้ยินเสียงเรียกจึงรีบเดินมาดูด้วยเช่นกัน ฟางเหนียงเปิดประตูก็เห็นชายคนหนึ่งที่มีรูปร่างที่อ้วนเตี้ย แต่ใส่เสื้อผ้าราคาแพง และสร้อยทองที่ใส่เต็มคอที่ดูพะรุงพะรัง ส่วนคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขานั้น เป็นหญิงวัยกลางคนที่ดูสง่ามีราศี มีใบหน้าที่งดงาม บ่งบอกให้รู้ว่าหล่อนเป็นคนชั้นสูง แต่หญิงวัยกลางคนผู้นี้กลับไม่เข้าตานางนัก นางมีความรู้สึกไม่ชอบหญิงวัยกลางคนผู้นี้มากนัก

“เจิ้งเจี๋ย เจ้ายังจำได้อยู่หรือไม่ ว่าเจ้ายังไม่จ่ายดอกเบี้ยที่เจ้าเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองให้กับข้า นี่ก็เลยกำหนดที่เราตกลงกันมาหลายเดือนแล้ว บ้านหลังนี้ไม่ใช่ของเจ้าอีกต่อไป วันนี้ข้าจะขายบ้านหลังนี้ให้กับหญิงท่านนี้แล้ว” ฟางเหนียงที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันหน้าไปมองที่เจิ้งเจี๋ยที่ยามนี้ดึงนางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้ว “เถ้าแก่ ข้าขอเวลาอีก 1 เดือนได้หรือไม่ ข้าสัญญาว่าจะหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยให้ท่านแน่นอน” เถ้าแก่ได้ยินเช่นนั้น สายตาที่กำลังมองสำรวจบ้านอยู่ก็หันขวับมาทางเจิ้งเจี๋ยในทันที “เจ้าจะจ่ายแค่ดอกเบี้ยอย่างนั้นรึ ในสัญญาก็เขียนไว้อยู่แล้วว่าหากไม่จ่ายดอกเบี้ยภายใน 3 เดือน บ้านหลังนี้ก็จะเป็นของข้าในทันที หรือถ้าหากเจ้าต้องการบ้านหลังนี้จริงๆ ก็ต้องหาเงินมาจ่ายทั้งต้นทั้งดอกภายในเดือนที่ 4 แต่นี้มันเดือนที่ 5 แล้ว หากเจ้าต้องการบ้านหลังนี้จริงๆ ก็เอาเงินมา 20 ตำลึงทองข้าจะขายบ้านหลังนี้คืนกับเจ้า” ฟางเหนียงได้ยินเช่นนั้นก็อ้าปากค้างไปในทันที บ้านทรุดโทรมหลังนี้ เขากล้าขายคืนให้เจิ้งเจี๋ยในราคาที่แพงถึงเพียงนี้ได้อย่างกัน นี่มันหน้าเลือดชัดๆ

“หญิงท่านนี้ให้ข้า 20 ตำลึงทองข้าก็จะขายให้เจ้า 20 ตำลึงทองเช่นกัน เจ้าจะซื้อหรือไม่” เจ้าเตี้ยหน้าเลือดผู้นี้ถามเจิ้งเจี๋ยขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านป้า ท่านต้องการอะไรจากข้าอีก จวนหลังนั้นท่านก็เอาไปแล้ว นี่ก็แค่บ้านที่ทรุดโทรมหลังหนึ่งเท่านั้น ท่านยังต้องการมันอยู่อีกรึ” เจิ้งเจี๋ยไม่ตอบเจ้าเตี้ยนั้น แต่กลับหันมาถามหญิงวัยกลางคนที่เจิ้งเจี๋ยเรียกหล่อนว่าท่านป้า ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างเจ้าเตี้ย “ข้าก็แค่หาบ้านหลังหนึ่งไว้ให้คนรับใช้ในจวนของข้าเป็นของขวัญวันแต่งงานก็เท่านั้น ข้าจะไปรู้ได้เยี่ยงไรว่าบ้านหลังนี้จะเป็นของเจ้า” หล่อนตอบมาด้วยท่าทางที่นิ่งเฉย เฮอะ ไม่รู้ว่าเป็นบ้านของเจ้าอย่างนั้นรึ ซื้อให้เป็นของขวัญอย่างนั้นรึ แม้แต่หลานของเจ้ายังทำร้ายได้ถึงเพียงนี้ แล้วนั้นแค่คนรับใช้ในจวน เจ้าจะใจดีมอบบ้านเป็นของขวัญได้เยี่ยงไรกัน แถได้อีกนะยัยป้ามหาภัย ทำเช่นนี้มันหาเรื่องกันชัดๆ ฟางเหนียงโมโหในใจ

“เถ้าแก่ท่านให้เวลาข้าอีกสักหน่อยไม่ได้รึ หากท่านยึดบ้านหลังนี้ไปแล้ว ข้ากับภรรยาจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ” เจิ้งเจี๋ยยังคงขอร้องเจ้าเตี้ยนั้นอีกครั้ง "ข้าก็บอกเจ้าแล้วอย่างไรล่ะ เจ้าให้ข้าได้เท่าหญิงท่านนี้ได้ ข้าก็จะคืนบ้านหลังนี้ให้เจ้า” เจ้าเตี้ยยังคงพูดหยิ่งผยองตอบเจิ้งเจี๋ย “ถ้าหากเจ้าไม่มีเงินมาให้ข้า พรุ่งนี้เจ้าทั้งสองก็ย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ เพราะคนของหญิงท่านนี้จะย้ายเข้ามาอยู่ในวันมะรืน” พูดเสร็จเจ้าเตี้ยก็ชวนยัยป้ามหาภัยนั้นกลับ แต่ก่อนที่จะกลับยัยป้ามหาภัยยังหันมาพูดกับเจิ้งเจี๋ยด้วยเสียงที่ดูถูกดูแคลน “เจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากพ่อของเจ้า แค่บ้านหลังเดียวยังไม่ปัญญาจะรักษาไว้ได้” "ยัยป้ามหาภัยพูดแล้วก็ยิ้มเยาะ พอหันหลังกำลังจะเดินจากไป ก็ต้องชะงักกับเสียงของฟางเหนียง

“ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก คนอะไรไม่มีปัญญาที่จะปลูกจวนเป็นของตัวเอง ได้แต่อาศัยจวนของผู้อื่นอยู่ แม้แต่ชื่อเสียงการค้าก็ยังไปโกงเขามา ทำตัวเช่นนี้มีความสุขในแต่ละวันได้เยี่ยงไรกัน ข้านี่สงสัยยิ่งนัก ไม่กลัวเขาจะกลับไปเอาคืนบ้างหรืออย่างไรกัน เจ้าว่าไหมเจิ้งเจี๋ย” ยัยป้ามหาภัยหันกลับมามองทางฟางเหนียงทันที ฟางเหนียงก็กำลังจ้องไปยัยป้ามหาภัยนั้นเช่นกัน ยัยป้ามหาภัยไม่ตอบแล้วหันหลังเดินกลับไปตามเจ้าเตี้ยนั้น “ฟางเหนียงข้าขอโทษเจ้าด้วยนะ ข้านี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ แม้แต่บ้านข้าก็ไม่มีให้เจ้าได้อยู่อาศัย” เจิ้งเจี๋ยกอดฟางเหนียงไว้ แล้วพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ ฟางเหนียงที่บ่อน้ำตาตื้นอยู่แล้วได้ยินเสียงที่สั่นเครือนั้นของเจิ้งเจี๋ย น้ำตาของนางก็ไหลพล่าจนเปรอะเปื้อนไปเต็มใบหน้า ทั้งสองกอดกันแน่นโดยไร้เสียงพูด มีแต่เสียงสะอื้นที่ประสานกันอยู่เท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ