สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ นิยาย บท 46

"เหมยเหม่ยเจ้าอดทนอีกนิดนะ ไม่นานเจ้าตัวเล็กก็จะได้ออกมาหาเจ้าแล้ว" ฟางเหนียงพูดปลอบใจเหมยเหม่ย ขณะที่เหมยเหม่ยกำลังนอนเม้มปากตนเองไว้ไม่ให้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด "ทุกคนไปรอด้านนอกก่อนนะเจ้าคะ" ผู้ช่วยหมอตำแยมาถึงก็รีบไล่ทุกคนออกจากห้องทันที หลังจากทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปแล้ว ผู้ช่วยหมอตำแยก็รีบปิดประตูลงทันที ฟางเหนียงและหานตงนั่งไม่ติดกับที่เดินไปเดินมาไม่หยุด อีกคนก็เป็นห่วงเพื่อนอีกคนก็เป็นห่วงภรรยา ท่านป้ากับท่านลุงและพ่อแม่ของหานตง ก็มองตามทั้งสองคนไปมาเช่นกัน จนตอนนี้เริ่มจะรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่นานเสียงที่ทุกคนรอคอยก็ดังขึ้น กรี๊ด!!! อุแว้ อุแว้ อุแว้ หานตงและฟางเหนียงมองหน้ากันด้วยความดีใจ ไม่นานผู้ช่วยหมอตำแยก็ออกมาพร้อมกับเด็กทารกที่มีหน้าตาที่น่าเกลียดน่าชังยื่นให้กับหานตง

"ยินดีกับทุกคนด้วยนะเจ้าค่ะ ที่ได้หลานชายคนแรกของครอบครัว" หลังจากที่เสียงผู้ช่วยหมอตำแยพูดจบ ฟางเหนียงก็หันไปมองหน้าของเจิ้งเจี๋ยทันที ทั้งสองหันหน้ามามองพร้อมกัน ฟางเหนียงยิ้มเขินออกมา จะไม่ให้นางยิ้มเขินได้อย่างไรกัน ก็เสื้อผ้าและของใช้สำหรับเด็กที่นางเตรียมไว้ให้เจ้าตัวเล็กเมื่อเดือนก่อน มันเหมาะสำหรับผู้หญิงทั้งหมดเลยนี่น่า ก็ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นเด็กผู้ชาย หมอตำแยก็ยืนยันว่าเป็นเด็กผู้หญิงแน่ๆ ท่านป้ากับท่านลุงก็บอกว่าจะต้องเป็นเด็กผู้หญิงเช่นกัน นางผู้เชื่อกับสิ่งที่ผู้ใหญ่ท่านบอก ก็เลยไม่ได้เผื่อใจซื้อชุดผู้ชายให้เลยสักชุดเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเจิ้งเจี๋ยก็ได้เลือกชุดของจอมยุทธหญิงไว้ให้อยู่บ้าง น่าจะประมาณ 10 ชุดได้ แต่ชุดผู้หญิงของนางนี้สิ มีประมาณ 50 ชุดเลยมั่ง เจ้าตัวเล็กนี่แสบตั้งแต่อยู่ในท้องเลยนะ เฮ้อ!!! แต่ก็ช่างเถอะ แล้วค่อยไปซื้อชุดใหม่ให้เจ้าหลานชายตัวน้อยของนางก็แล้วกัน "แล้วเราค่อยไปซื้อชุดใหม่ให้หลานชายเจ้าก็ได้ ครั้งนี้ข้าจะช่วยเลือกชุดเจ้าเองนะ" เจิ้งเจี๋ยเห็นฟางเหนียงทำหน้าสลดลง ก็รีบเดินเข้ามากอดนางไว้แล้วพูดปลอบใจนางทันที

ณ ตระกูลเสี่ยว "ทำไมล่ะเจ้าคะ เราก็ทำการค้าด้วยกันมาก็นานมากแล้ว" เสี่ยวจื่อลู่เอ่ยถามด้วยเสียงอ้อนวอน "ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ ข้าเพิ่งรู้มาว่าคุณหญิงเสี่ยวเป็นคนอย่างไร หากข้ายังคงทำการค้ากับคุณหญิงเสี่ยวอีก คุณหญิงเสี่ยวจะไม่ทำร้ายข้าเช่นเดียวกับที่ทำต่อน้องชายตนเองอย่างนั้นหรอกรึ" พ่อค้ารายใหญ่คนหนึ่งในกลุ่มที่ทำการค้าเกี่ยวกับแป้งต่างๆ ร่วมกับตระกูลเสี่ยวเอ่ยขึ้น ที่พ่อค้าคนนี้กล้าพูดเช่นนี้เพราะเขาได้ไปรู้ความจริงมา ว่าทำไมเหย่เจิ้งไฉถึงได้ป่วยกะทันหันจนทำให้ตระกูลเหย่ถึงกับล้มละลาย และยังได้มอบการค้าทั้งหมดให้กับพี่สาวของตนดูแล แทนที่จะให้พี่สาวสอนลูกชายตนเองเรียนรู้การค้าเพื่ออนาคตข้างหน้าของตระกูล เรื่องทุกอย่างที่เขาเคยได้รู้มาจากตระกูลเสี่ยวเมื่อครั้งก่อนนั้น มันคือเรื่องโกหกทั้งสิ้น แท้จริงแล้วมันคือแผนการของตระกูลเสี่ยวที่โลภมากอยากได้ของ ของคนอื่นมาครอบครอง

"ท่านพูดเรื่องอะไรเจ้าคะ ข้าไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย" เสี่ยวจื่อลู่เอ่ยปฏิเสธด้วยท่าทางประหม่า "เจ้าทำอะไรไว้อย่าคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้นะ คุณผู้หญิงเสี่ยว เฮอะ เฮอะ" เสี่ยวจื่อลู่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที "ใช่แล้วล่ะ ข้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเหย่หมดแล้ว ข้าไม่คิดเลยจริงๆ ว่าคุณหญิงเสี่ยวจะเป็นคนใจร้ายได้ถึงเพียงนี้ ถึงข้าจะไม่ได้เป็นพ่อค้าที่ดีอะไร แต่ข้าก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายพี่น้องของตนเองเหมือนคุณหญิงเสี่ยวเลย ต่อจากนี้ไปข้าคงจะทำการค้ากับตระกูลเสี่ยวไม่ได้อีกแล้ว หากท่านใดอยากทำการค้ากับตระกูลที่โหดร้ายเช่นนี้ก็ตามใจเถอะ แต่ข้าคนหนึ่งที่จะไม่ยุ่งกับคนประเภทนี้โดยเด็ดขาด" ชายร่างใหญ่พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากโรงเตี๊ยมทันที

คนในกลุ่มที่เหลือเห็นว่าชายร่างใหญ่ที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของตระกูลเสี่ยวไม่อยากทำการค้าร่วมกันแล้ว พวกเขาก็ไม่อยากทำเช่นเดียวกัน เพราะการกระทำของตระกูลเสี่ยวที่ทำต่อตระกูลเหย่นั้นมันทำให้ความไว้ใจของพวกเขาที่มีต่อตระกูลเสี่ยวนั้นหายไปในพริบตา "พวกท่านจะทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้นะ ยามที่พวกท่านลำบากไม่ใช่ข้าหรอกรึที่ช่วยเหลือพวกท่าน" เสี่ยวจื่อลู่ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ "เจ้าช่วยอะไรพวกข้าอย่างนั้นรึ แค่ช่วยซื้อแป้งของข้าในราคาที่ถูกมากๆ อย่างนั้นรึ ครั้งนั้นที่ข้ายอมให้เจ้าก็เพราะเห็นว่าเจ้ากำลังลำบากเช่นกัน จึงคิดว่าช่วยๆ กันไป หากข้ารู้ว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้ เจ้าคิดหรือว่าข้าอยากจะร่วมทำการค้ากับเจ้าอีก" ชายร่างผอมเอ่ยขึ้นด้วยความเหลืออด แล้วลุกขึ้นเดินออกไป คนที่เหลือก็เดินออกไปด้วยเช่นกัน "กรี๊ด!!!!!" เสียงกรีดร้องของจื่อลู่ดังออกมาจากในห้องส่วนตัวของโรงเตี๊ยม ทำให้ลูกค้าหลายคนที่อยู่บริเวณนั้นต้องหันมาทางเสียงของนางพร้อมกันด้วยความสงสัย

ณ บ้านของเหมยเหม่ย "นี่ฟางเหนียง นั่นลูกข้านะ เอาคืนมาให้ข้าได้แล้ว" หานตงเดินตามฟางเหนียงที่ตอนนี้ได้อุ้มเจ้าหลานชายน้อยไม่ยอมปล่อยมือสักที คนเป็นพ่อจนต้องร้องเรียกเอาลูกของตนคืนมา "เจ้าก็มีเวลาอยู่กับเจ้าตัวเล็กตลอดทั้งคืนแล้วนี่ ข้ามาแค่ตอนกลางวันเท่านั้นเองนะ ยังจะมาแย่งเจ้าตัวเล็กไปจากข้าอีกอย่างนั้นรึ" ตลอดสามวันที่ผ่านมาตั้งแต่เจ้าตัวเล็กได้ออกมาลืมตาดูโลกนั้น หานตงแทบจะไม่ได้อุ้มลูกชายของตนเองเลยก็ว่าได้ เพราะกลางวันฟางเหนียงก็อุ้มทั้งวันปล่อยจากมือแค่เวลาให้นมเท่านั้น ส่วนกลางคืนหลังจากที่ฟางเหนียงกลับไปแล้ว ก็เป็นช่วงที่เจ้าตัวเล็กต้องเข้านอน แล้วเขาจะเอาเวลาไหนไปอุ้มลูกกัน "ตอนกลางคืนจะอุ้มได้อย่างไรล่ะ เจ้าตัวเล็กก็นอนหลับไปแล้ว" หานตงพูดแย้งออกมา "ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ท่านยังได้นอนมองหน้าของเจ้าตัวเล็กเวลาหลับทั้งคืนเลยมิใช่รึ" ฟางเหนียงเถียงกลับและไม่ยอมคืนเจ้าตัวเล็กให้หานตงอีกด้วย "แต่เจ้าก็น่าจะให้ข้าอุ้มลูกสักหน่อยก็ได้นี่" หานตงมองหน้าเจ้าตัวเล็กที่ทำตาใสใสมองเขา ฟางเหนียงที่เห็นว่าหานตงจะเข้ามาอุ้มเจ้าตัวเล็กจากอ้อมกอดของนาง ฟางเหนียงก็เบี่ยงหลบแล้วพาเจ้าตัวเล็กเดินหนีไปทางอื่น "นี่ ฟางเหนียง เจ้าจะไปไหน นั่นลูกของข้านะ" หานตงตะโกนตามหลังฟางเหนียง ที่เดินห่างไปจากเขาไกลแล้ว

เหมยเหม่ยที่นอนอยู่บนเตียงดูสามีและเพื่อนของนางแย่งเจ้าตัวเล็กกัน ก็ได้แต่ถอนหายใจยาวและส่ายหน้าไปมา เอาจริงๆ แล้วเหมยเหม่ยก็ไม่ได้ต่างอะไรจากหานตงเลยสักนิด เพราะนางได้อุ้มลูกแค่ตอนให้นมลูกเท่านั้น หลังจากที่กินนมเสร็จแล้วลูกของนางก็จะเรียกหาฟางเหนียงทุกครั้งเวลาที่ฟางเหนียงอยู่ อีกอย่างที่เด็กคนนี้ชอบก็คือเสื้อผ้าที่ฟางเหนียงซื้อมาให้ทั้งๆ ที่เสื้อผ้าพวกนั้นจะเป็นของผู้หญิง แต่ลูกของนางกลับชอบมันเอามากๆ นางเคยให้เจ้าตัวเล็กใส่เสื้อผ้าผู้ชายที่พ่อเขาซื้อมาให้แล้ว ผลที่ได้ก็คือเจ้าตัวเล็กร้องไห้ไม่หยุดจนต้องเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าที่ฟางเหนียงซื้อให้แทนถึงจะยิ้มออกมา เฮ้อ!!! ดูไปแล้วเจ้าตัวเล็กคงจะไม่ใช่ลูกของนางแน่ๆ น่าจะเป็นลูกของฟางเหนียงมากกว่า แค่เจ้าตัวเล็กมาอาศัยท้องของนางมาเกิดก็เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็เถอะแค่เจ้าตัวเล็กเป็นที่รักของทุกคนนางก็ดีใจมากแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ