สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ นิยาย บท 6

ฟางเหนียงเตรียมผักที่ลู่จื้อไปรับมาวันนี้เพื่อนำไปล้างทำความสะอาด ผักที่เถ้าแก่จะใช้ดองวันนี้ก็จะมี กระเทียม หัวไชเท้า ผักกาด แตงกวา หัวหอม ยอดกวางตุ้ง และกะหล่ำปลี ผักทั้งหมดนี้นางจะต้องล้างให้ดี แล้วเอามาหั่นให้เรียบร้อย เพื่อที่จะเตรียมเอาไว้ให้เถ้าแก่ไปทำการหมักดองในขั้นตอนถัดไป

“ฟางเหนียงวันนี้ข้าไม่ได้อยู่ช่วยเจ้านะ พอดีเถ้าแก่ให้ข้าไปส่งผักดองที่ต่างหมู่บ้าน วันนี้เจ้าเหนื่อยหน่อยแล้วกัน” ลู่จื้อเอ่ยขึ้น ปกติแล้วลู่จื้อจะเข้ามาช่วยนางล้างผักก่อนที่จะออกไปส่งผักดองทุกวัน แต่วันนี้ลู่จื้อน่าจะไปส่งผักดองอยู่หลายหมู่บ้าน เขาถึงออกเดินทางไปตั้งแต่เช้าเช่นนี้ “ข้าทำได้ เจ้ารีบไปส่งผักดองเถอะ เดี๋ยวลูกค้าจะรอนาน” หลังจากที่นางเอ่ยจบ ลู่จื้อก็ออกไปทันที นางเห็นว่าลู่จื้อออกไปแล้ว ก็หันกลับไปล้างผักที่เหลืออยู่ในตะกร้าต่อ

“ฟางเหนียง เจ้าว่างหรือไม่ มาช่วยข้าที่หน้าร้านสักครู่ เถ้าแก่ท่านไม่อยู่ออกไปข้างนอกนะ” เสียงเหมยเหม่ยที่เรียกนางจากหน้าร้านให้ออกไปช่วยขายผักดอง เพราะเถ้าแก่ได้ออกไปคุยธุระข้างนอก หน้าร้านจึงไม่มีใครอยู่ช่วยเหมยเหม่ย ยิ่งหากเป็นเวลาช่วงเช้าเช่นนี้อีกด้วยลูกค้าหน้าร้านนี่เยอะมากแน่นอน เหมยเหม่ยที่ขายคนเดียวคงรู้ว่าต้องเก็บเงินไม่ทันเป็นแน่ เลยต้องเรียกฟางเหนียงเข้าไปช่วยอีกแรง “ข้ากำลังไปแล้ว” ฟางเหนียงที่ได้ยินเหมยเหม่ยเรียก นางก็รีบวางผักที่ถืออยู่ในมือลงคืนไปในตะกร้าทันที แล้วจึงรีบออกไปช่วยเหมยเหม่ยเก็บเงินที่หน้าร้าน

“ทั้งหมด 60 อิแปะ ขอบคุณเจ้าค่ะ” เหมยเหม่ยคิดเงินแล้วกล่าวขอบคุณให้กับลูกค้าจนหัวหมุดไปหมดเพราะทำอยู่คนเดียว ฟางเหนียงเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปช่วยเก็บเงินอีกแถวหนึ่งทันที “ของท่านป้า 5 ห่อ 100 อิแปะเจ้าค่ะ ขอบคุณเจ้าค่ะ ของท่านน้า 200 อิแปะจ๊ะ ส่วนของพี่สาวคนนี้ 80 อิแปะ ของพี่ผู้ชาย 120 อิแปะ ของท่านป้า 40 อิแปะเจ้าค่ะ” นางคิดเงินให้กับลูกค้าท่านแรก แล้วบอกราคาที่ต้องจ่ายกับลูกค้าคนถัดไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เตรียมเงินที่จะต้องจ่ายไว้ พอถึงเวลาจ่ายจะได้ไม่ต้องเสียเวลานาน

“แม่หนู ทำไมเจ้าคิดเงินรวดเร็วนักล่ะ หลานของป้าไปเรียนอยู่แต่ในเมืองยังคิดไม่เร็วเท่าแม่หนูเลยด้วยซ้ำ แม่หนูไปเรียนที่ไหนมารึ” ท่านป้าคนหนึ่งเอ่ยถามนางด้วยความสงสัย อยากรู้ว่าแม่หนูคนนี้ได้อาจารย์ท่านไหนสอนให้ ท่านป้าคิด ฟางเหนียงก็แอบคิดในใจเช่นกันว่าคำนวณแบบง่ายๆ แค่นี้ทำไมถึงได้บอกว่านางเก่ง หากท่านป้าแกรู้ว่าวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่นางสอบตกมากที่สุดท่านป้าแกจะยังชมนางอยู่รึไม่นะ “อ่อ ท่านแม่ข้าเคยสอนให้ตอนเด็กๆ เจ้าค่ะ” ลูกค้าทั้งหลายที่ได้ยินที่นางกล่าว ก็พากันพยักหน้ารัวๆ แล้วซุบซิบกันว่าแม่ของนางนี้เก่งจริงๆ

“ท่านใดสนใจผักดองเลือกได้เลยนะเจ้าค่ะ เลือกเสร็จแล้วจ่ายเงินทางนี้ได้เลยนะเจ้าค่ะ ท่านน้าต้องการผักดองแบบไหนดีเจ้าค่ะ เยนหลัวไป (หัวไชเท้าดอง) เยนหวงกวา (แตงกวาดอง) หรืออย่างอื่นก็มีนะ เลือกได้เลยเจ้าค่ะ” ฟางเหนียงตะโกนให้กับลูกค้าที่มาใหม่ แล้วหันมาแนะนำให้กับลูกค้าที่กำลังเลือกผักดองอยู่ เหมยเหม่ยหันไปมองนางด้วยความแปลกใจตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ไม่สิ!!ตั้งแต่นางหายจากการไม่สบายก็เหมือนว่านางเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยล่ะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนออกมาหน้าร้านก็แค่มาช่วยหยิบยื่นของให้กับลูกค้าเท่านั้น ไม่มีการพูดจา ไม่มีการยิ้มแย้ม ใดๆ บางครั้งลูกค้าบางคนยังบอกให้นางยิ้มมากๆ หน่อยเวลาขายของ นางก็ได้แค่พยักหน้าตอบรับส่งๆไปเท่านั้น แต่มาตอนนี้นางทั้งคิดเงินเร็ว เรียกลูกค้าได้ แนะนำสินค้าดี พูดจาฉะฉานเหมือนไม่ใช่นางเลยสักนิด

“เหมยเหม่ย เก็บเงินกับลูกค้าด้วย เหมยเหม่ย” ฟางเหนียงตะโกนเรียกเหมยเหม่ยที่เอาแต่จ้องหน้านางตั้งนานแล้ว จนไม่หันไปเก็บเงินกับลูกค้าที่ยืนรอจ่ายเงินอยู่ “หะ ห่ะ อะไรนะ อ่าๆ อ่อๆ ของท่านน้า 160 อิแปะเจ้าค่ะ” เหมยเหม่ยรู้สึกตัวอีกครั้งก็พูดจาติดๆ ขัดๆ ด้วยความตกใจ ฟางเหนียงส่ายหัวไปมาแล้วหัวเราะเบาๆ กับอาการที่แสดงออกมาของเหมยเหม่ย ทั้งสองช่วยกันขายผักดองจนลูกค้าเริ่มน้อยลง ฟางเหนียงจึงขอตัวกลับไปที่ห้องล้างวัตถุดิบต่อ เพื่อทำงานของตนเองให้เสร็จ ฟางเหนียงเตรียมวัตถุดิบเสร็จก็ถึงเวลาเลิกงานพอดี นางเดินออกมาจากห้องล้างวัตถุดิบก็เห็นเหมยเหม่ยที่กำลังเตรียมตัวจะเลิกงานเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนจะเข้างานในเวลาย่ามเหม่า (ตี 5 ถึง 7 โมงเช้า) และเลิกงานในเวลายามเว่ย (บ่ายโมงถึงบ่าย 3 โมง)

“ฟางเหนียงเจ้าเตรียมตัวเสร็จรึยัง ไปรับค่าจ้างของวันนี้กันเถอะ เราจะได้กลับบ้านกันข้าเมื่อยตัวจะแย่อยู่แล้ว” เหมยเหม่ยเอ่ยขึ้น แล้วทั้งสองคนก็ไปที่ห้องทำงานของเถ้าแก่ และเคาะประตูก่อนเพื่อขออนุญาตเข้าไปด้านในเพื่อรับค่าจ้าง ส่วนลู่จื้อจะรับค่าจ้างหลังเพื่อน เพราะเขาต้องส่งผักดองให้เสร็จก่อน ทั้งสองคนเดินเข้าไปก็เห็นเถ้าแก่นั่งก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำบัญชีของวันนี้

“วันนี้พวกเจ้าคงเหนื่อยมาก เพราะไม่มีใครอยู่ช่วยงานเลย นี่ วันนี้ข้าให้พวกเจ้าคนละ 120 อิแปะแล้วกันถือว่าเป็นข้าขนมให้พวกเจ้า” นางทั้งสองเห็นดังนั้นก็ตาลุกวาวในทันที การเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานในวันนี้ บอกได้เลยว่าแถบจะหายเหนื่อยเลยที่เห็นเงินค่าแรงของวันนี้ ทั้งสองคนรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ทำงานกับเถ้าแก่ที่ใจดีเช่นนี้ โชคดียิ่งนัก “ขอบคุณมากเจ้าค่ะเถ้าแก่" ทั้งสองคนกล่าวขอบคุณพร้อมกัน แล้วจึงพากันเดินไปที่จุดขึ้นรถม้ากลับบ้าน เวลากลับบ้านทั้งสองจะพากันเดินผ่านไปทางตลาด ฟางเหนียงมองไปรอบๆ ตลาดที่ตอนนี้คนไม่เยอะมากนัก ในตลาดนี้มีร้านค้าขายของมากมาย แต่ของในเมืองนี้นั้นถูกมาก ถูกกว่าเมืองอื่นๆ หลายเท่าเพราะที่ดินเมืองนี้ดีมากเลยล่ะ จะปลูกอะไรก็ให้ผลงามไปหมด เวลาเอาไปขายให้กับเมืองอื่นก็ได้กำไรมากเลยทีเดียว

“ข้าอยากกลับไปอาบน้ำ แล้วนอนพักจะแย่แล้ว วันนี้เถ้าแก่ปล่อยให้ข้าทำงานคนเดียวเลย ตอนนี้ข้าแทบไม่มีแรงที่จะเดินไปขึ้นรถม้าด้วยซ้ำ” เหมยเหม่ยบ่นให้เถ้าแก่ที่วันนี้ไม่อยู่ช่วยงานในร้านนางเลยจนถึงเวลาเลิกงาน ปกติเถ้าแก่จะอยู่หน้าร้านตลอด แต่วันนี้ติดธุระสำคัญจึงทิ้งร้านให้เหมยเหม่ยต้องขายผักดองอยู่คนเดียว “อีกนิดเดียวก็จะถึงรถม้าแล้วทนอีกนิดนะ เดี๋ยวเจ้าก็จะได้นั่งพักยาวๆ แล้วล่ะ” นางเอ่ยปลอบใจเหมยเหม่ย ทั้งสองคนมาถึงรถม้าก็รีบพากันขึ้นไปนั่งทันที เดี๋ยวที่นั่งจะเต็มก่อน ฟางเหนียงหันไปทางเหมยเหม่ยแล้วหนวดตรงบ่าให้เพื่อน เพื่อจะได้บรรเทาให้เหมยเหม่ยหายเมื่อยไปบ้าง

“อ่าา ฟางเหนียงเจ้านวดเป็นด้วยรึ ข้ารู้สึกดีจัง อ่ะๆ ตรงนั้นแหละ อ่า ตรงนั้นก็ด้วย” นางนวดไปสักพักก็ต้องหยุด เพราะคนขึ้นรถม้ามาเต็มแล้ว ไม่มีที่ว่างพอจะนวดต่อได้ “เจ้าทำไมนวดเป็นรึ เจ้าไปให้ใครสอนให้” เหมยเหม่ยเอ่ยถามนาง เพราะตอนนี้รู้สึกหายเมื่อยขึ้นมาไม่น้อย “เมื่อก่อนท่านพ่อข้าออกไปล่าสัตว์บ่อยๆ เห็นคนอื่นเขานวดแบบนี้ ข้าก็เลยนวดมั่วๆ ไปแบบนั้นให้กับท่านพ่อ เผื่อท่านอาจจะหายเมื่อยบ้างนิดหน่อย” นางโกหกเหมยเหม่ยไปก่อน เพราะกลัวว่าเหมยเหม่ยจะสงสัยอะไรเอาได้ นางกับเหมยเหม่ยนั่งคุยเล่นกันไปตลอดทาง จนรถม้ามาถึงที่หมาย ทั้งสองคนก็พากันลงมาจากรถม้าแล้ว ไปก็พากันแยกย้ายกลับบ้านของตนเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ