สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ นิยาย บท 9

“ฟางเหนียง เหม่ออะไรอยู่รึ ข้าเรียกเจ้าตั้งนานแล้วนะ” ฟางเหนียงได้ยินเสียงของเหมยเหม่ยจึงได้สติคืนมา แล้วรีบตอบเหมยเหม่ยด้วยเสียงตะกุกตะกัก “ฮะ ฮ่ะ เปล่าๆ ข้า ข้า ข้าแค่คิดว่า เครื่องประดับแบบไหนดีนะที่เหมาะสมกับเพื่อนคนสวยของข้าคนนี้” เหมยเหม่ยเบะปากแบบเขินอายให้นางหนึ่งที แล้วเดินไปเลือกเครื่องประดับที่โต๊ะตรงข้ามกับนาง ฟางเหนียงยิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆ กับท่าทางของเพื่อนสนิทคนนี้ นางเลือกดูเครื่องประดับไปเรื่อยๆ ก็เห็นกำไลหยกชิ้นหนึ่งที่มีสีอยู่ 3 สีในชิ้นเดียว นั่นก็คือหยกฮกลกซิ่ว ที่มีสี ขาว เขียว แดงหรือน้ำตาลอมแดงที่หมายถึงความมั่นคงทั้ง 3 ด้านคือความสงบ สุขภาพแข็งแรง และความสุขใจ นางยื่นมือไปหยิบกำไลหยกชิ้นนั้น แต่ก็มีมือปริศนายื่นมาหยิบกำไลหยกชิ้นนั้นพร้อมกับนางเช่นกัน

“เอ่ออ พอดีข้าหยิบมันก่อน” ฟางเหนียงพูดพร้อมเงยหน้าขึ้นมองคนปริศนาผู้นั้น แต่แล้วสิ่งที่นางเคยวาดฝันไว้ก็เกิดขึ้นในที่สุด มือของนางที่ถือกำไลหยกอยู่ตอนนี้นั้น ได้ปล่อยกำไลหยกชิ้นนั้นให้กับเขาไปแล้ว “ไม่เป็นไร ข้าหยิบช้าเอง กำไลหยกชิ้นนี้ควรเป็นของเจ้า” ลีหยางยื่นกำไลหยกคืนฟางเหนียง นางที่ได้ยินเสียงอันไพเราะนั่นออกมาจากปากเรียวบาง มีสีชมพูอ่อนของคนผู้นั้นทำให้นางรู้สึกนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ พร้อมกับที่นางกำลังสำรวจใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงของเขา ดวงตากลมโตมีประกาย ขนตายาว คิ้วเข้มไม่หนา จมูกโด่งนิดหน่อย ทั้งหมดนี้สมส่วนกันมากยิ่งนัก ผู้หญิงเช่นนางเห็นแล้วยังต้องอาย หน้าตาละอ่อนอย่างกับเด็กน้อยอายุ 15-16 ปี ดูดีมากจนทำให้หัวใจดวงน้อยของข้าน้อยผู้นี้เต้นอย่างไม่เป็นสุข

“เจ้า เจ้า เจ้าจะเอารึไม่ ถ้าเจ้าไม่เอาแล้ว เช่นนั้นข้าขอนะ” ฟางเหนียงได้ยินเช่นนั้นนางก็ได้สติขึ้นมา รีบแย่งกำไลหยกชิ้นนั้นคืนอย่างรวดเร็ว “ไม่ๆ กำไลหยกชิ้นนี้ข้าตั้งใจจะซื้อให้เพื่อนข้า ข้าให้เจ้าไม่ได้หรอกนะ” ฟางเหนียงเอากำไลหยกชิ้นนั้นไปซ้อนไว้ด้านหลังเพราะกลัวว่าเขาจะแย่งเอาของนางไปจริงๆ นางนี่น่าไม่น่าหลงกลกับใบหน้าอันอ่อนหวานเช่นนี้เลย เกือบเสียของที่จะมอบให้กับเพื่อนรักซะแล้ว “ข้าก็กำลังจะหาเครื่องประดับสักชิ้นให้กับเพื่อนของข้าเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเอาชิ้นไหนดี” ลีหยางหันไปมองกำไลหยกที่ยังซ่อนอยู่ข้างหลังฟางเหนียงอย่างนึกเสียดาย ฟางเหนียงเห็นท่าทางเช่นนั้นของลีหยางแล้ว ก็รีบพูดเบี่ยงเบนความสนใจของลีหยาง

“เพื่อนของเจ้าเป็นหญิงหรือเป็นชายล่ะ เดี๋ยวข้าช่วยเจ้าเลือกเอง อาจมีชิ้นอื่นที่เหมาะกับเพื่อนของเจ้าก็ได้” นางพยายามพูดให้ลีหยางเปลี่ยนความคิดไปเลือกเครื่องประดับอย่างอื่นจะได้ไม่ต้องมาแย่งกำไลหยกชิ้นนี้กับนางอีก “เพื่อนข้าเป็นผู้ชาย ที่เพิ่งสอบได้จอหงวนมา ข้าเลยคิดว่าจะหาของขวัญให้เพื่อนข้าสักชิ้นหนึ่ง” ลีหยางตอบฟางเหนียงแล้วยิ้มให้นาง รอยยิ้มอันแสนหวานนี้มันช่างน่าสัมผัส ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำให้นางหลงไหลมากยิ่งขึ้น ผู้ชายอะไรทำไมมีรอยยิ้มที่หวานเยิ้มเช่นนี้นะ “นี่เจ้า น้ำลายของเจ้าไหลออกมาจากปากแล้วนะ” ฟางเหนียงที่ตอนแรกจิตใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่แล้ว พอได้ยินเช่นนั้นนางจึงรีบยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำลายตัวเองอย่างไม่คิดอะไร แต่แล้วนางก็ต้องรู้สึกอายขึ้นมาอย่างมาก เพราะจริงๆ น้ำลายของนางไม่ได้ไหลออกมาอย่างที่เขาบอก

“ฮ่าๆๆ เจ้านี่ตลกยิ่งนัก ข้าแค่หยอกเจ้าเล่นเองนะ แต่จะว่าไปหน้าตาของเจ้าก็แสดงออกมาเช่นนั้นจริงๆ นั้นแหละ ฮ่าๆๆ ” ลีหยางหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างไม่เกรงใจคนอื่นๆ ที่เดินกันทั่วตลาด เขาเห็นท่าทางที่นางมองเขาอย่างไม่ปิดบังนั้น ทำให้เขารู้สึกสนใจหญิงสาวคนนี้นัก “ก็ใครให้เจ้าหน้าตาดีขนาดนี้ล่ะ ผู้หญิงคนไหนได้มองใกล้ๆ ก็ต้องเป็นเช่นข้าทั้งนั้น ชิ” ฟางเหนียงพูดแล้วสะบัดตัวออกไป แล้วเดินไปเลือกเครื่องประดับอีกโต๊ะหนึ่งที่น่าจะเหมาะกับผู้ชาย ลีหยางเห็นดังนั้นก็เดินตามนางมาด้วยเสียงหัวเราะที่ขบขัน ลีหยางแปลกใจยิ่งนักทำไมสตรีนางนี้ถึงได้พูดซื่อขนาดนี้ เขาไม่เคยเห็นใครเหมือนนางมาก่อนเลยสักคน

ฟางเหนียงที่เดินมาเลือกเครื่องประดับอีกโต๊ะ นางเลือกเครื่องประดับไปสักพักก็เจอกำไลหินชิ้นหนึ่ง กำไลหินชิ้นนี่สามารถบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างที่สุด เป็นเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้เราโดดเด่นขึ้นมาจากคนอื่น ๆ กำไลหินชิ้นนี้ยังเป็นหินแห่งความร่ำรวย สร้างเสริมสติ สมาธิ และยังนำโชคลาภให้กับผู้ครอบครอง ที่สำคัญยังทำให้ผู้ครอบครองมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอีกด้วย นางคิดว่ากำไลหินชิ้นนี้น่าจะเหมาะกับเพื่อนของลีหยางที่สุด

“ข้าว่ากำไลหินชิ้นนี้น่าจะเหมาะกับเพื่อนเจ้านะ หากเพื่อนของเจ้าใส่กำไลหินชิ้นนี้ไปแล้ว ข้าขอรับรองเลยว่าจะทำให้เพื่อนข้องเจ้านั้นโดดเด่นกว่าผู้อื่นเป็นแน่” นางคิดดูแล้วกำไลหินนี้ถ้าเพื่อนของเขาใส่แล้วต้องดูดีมากแน่ๆ ยุคนี้ผู้ชายเขาไม่นิยมใส่เครื่องประดับกันมากนัก เพราะคิดว่าเครื่องประดับนั้นเหมาะสำหรับผู้หญิงมากกว่า แต่สำหรับยุคที่นางจากมานั้นชายหญิงก็ใส่เครื่องประดับเหมือนกันทั้งนั้น ผู้ชายบางคนมีเครื่องประดับอยู่ในบ้านมากกว่าผู้หญิงเสียอีก “กำไลหินชิ้นนี้นะหรือ” ลีหยางดูแล้วก็รู้สึกชอบกำไลหินชิ้นนี้ขึ้นมาทันที ดูไปแล้วเครื่องประดับบางชนิดก็เหมาะกับผู้ชายเช่นเดียวกัน ลีหยางยิ้มแล้วพยักหน้าให้นาง

“เช่นนั้นข้าเอากำไลหินชิ้นนี้แหละ ขอบใจเจ้ามากนะ หากไม่เจอเจ้า ข้าก็คงจะหาของขวัญให้เพื่อนของข้าช้ากว่าคนอื่นเป็นแน่ แต่ว่าเจ้าชื่ออะไรรึ ส่วนตัวข้ามีชื่อว่าลีหยาง” ลีหยางกล่าวขอบคุณนางด้วยความเกรงใจที่รบกวนนาง หากไม่เจอนางเขาก็คงหาหนังสือเก่าๆ หรือไม่ก็ของราคาแพงที่เพื่อนของเขาไม่ชอบให้ไปเป็นแน่ แล้วถือโอกาสนี้ถามชื่อนางและแนะนำตัวเอง ตั้งแต่คุยกันมายังไม่ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับนางเลย “ข้ายินดี ส่วนข้านั้นมีชื่อว่าหลิวฟางเหนียง” นางตอบลีหยางพร้อมกับรอยยิ้มที่ยินดียิ่งนักที่ได้รู้จักชื่อของลีหยาง แถมลีหยางยังเป็นคนที่ถามชื่อนางก่อนอีกด้วย

ลีหยางตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะต้องไปแล้วเพราะยังมีธุระต่อจึงต้องเอ่ยลานางก่อน “เช่นนั้นครั้งนี้ข้าขอตัวก่อน ครั้งหน้าข้าขอตอบแทนเจ้าด้วยการเลี้ยงข้าวเจ้าได้หรือไม่” ลีหยางรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวคนนี้มาก จึงอยากคบหาเป็นสหาย “ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เอง” นางปฏิเสธออกไป ทั้งๆ ที่ในใจของนางนั้นตื้นเต้นเป็นอย่างมาก ที่เขาชวนนางไปทานข้าวเหมือนกับว่านางจะได้ไปทานข้าวกับเมนที่นางชอบจริงๆ ลีหยางทำหน้าเสียดาย “แล้วเราจะได้พบกันอีกรึไม่” ลีหยางถามนางเผื่อมีโอกาสทำความรู้จักกันมากขึ้น

“ข้าทำงานอยู่ร้านผักดองร้านข้าอยู่ซอยถัดไปจากตลาดนี้ หากเจ้าอยากจะซื้อผักดองก็ไปที่ร้านข้าได้” นางบอกที่อยู่ร้านให้กับเขา หากเป็นไปได้ก็แวะไปที่ร้านของนางทุกวันได้นะนางยินดีอย่างยิ่งเลยล่ะ อิอิ “เช่นนั้นข้าไปก่อนนะ แล้วพบกันใหม่” พูดจบลีหยางก็ยิ้มให้นางอีกครั้ง แล้วคิดว่าวันไหนที่เขาว่างจะแวะไปหานาง นางพยักหน้าตอบ แล้วยืนมองดูเขาที่เดินจากนางไป “ทำไมเวลาเช่นนี้ถึงสั้นนักนะ ให้ข้าได้มองหน้าเขานานกว่านี้ก็ไม่ได้เลยหรือ” นางพึมพำออกมาด้วยเสียงที่อาลัยอาวรณ์ชายที่มีหน้าตาหวานเยิ้มผู้นี้ยิ่งนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ