เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1092

พวกคุณชายบ้านรวยคิดจะใช้พลังปราณสัมผัสปลาพวกนี้กลางอากาศ แต่คนที่รู้สถานการณ์ภายในที่อยู่ข้างๆ รีบห้ามพวกเขาเอาไว้ ปลาพวกนี้ไม่สามารถแตะต้องได้จริงๆ

เมื่อข้ามสะพานเมฆ คือตำหนักไท่เหอ ตำหนักแรกในตำหนักทั้งเก้าของวัง

อะไรที่เรียกว่าสีทองสว่างระยิบระยับ อะไรที่เรียกว่าทรงพลังยิ่งใหญ่

แวบแรกที่ลู่ฝานเห็นตำหนักไท่เหอ คำที่คิดได้เป็นอย่างแรกในหัวก็คือ

“พลังอำนาจกลืนภูเขาและแม่น้ำ!”

แม้เป็นเพียงสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่ง แต่เหมือนมีจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น

ชายคาที่โค้งขึ้นแบบจีนเหมือนปีก ป้ายประตูราวกับดวงตา ตำหนักเหมือนร่างกาย ประตูหลักเหมือนปาก ทั้งตำหนักเหมือนสัตว์ร้ายขนาดมหึมานอนอยู่ที่นี่ แผ่พลานุภาพที่ดูเย่อหยิ่งออกมา

บวกกับมังกรและเสือหน้าตำหนัก รู้สึกเหมือนโดนกระชากวิญญาณออกไป

“หยุด!”

เสียงตะโกนดังขึ้นในตำหนัก รถม้าทุกคันหยุดลงทันที

หลู่เฉิงเซี่ยงจัดแจงปกคอเสื้อชุดจีนโบราณ พูดกับลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม “ไปกันเถอะ ออกไปได้แล้ว”

ลู่ฝานเดินตามหลู่เฉิงเซี่ยงออกจากรถม้า

เงยหน้าขึ้นมอง บันไดหินสูงขึ้นไปข้างบนจนถึงประตูของตำหนักไท่เหอ มีองครักษ์เกราะทองยืนอยู่ทั้งสองข้างของบันไดหิน ดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมา ทำให้เกิดแสงระยิบระยับแสบตา

หลู่เฉิงเซี่ยงมองไปด้านหลังแวบหนึ่ง รถม้าขนาดเล็กกว่าหน่อยหยุดลงเช่นกัน หลังจากนั้นหลู่ยินค้ำไม้เท้าสองข้างลงมาจากรถม้า

หลู่ยินรีบเดินเข้ามา พูดกับหลู่เฉิงเซี่ยงอย่างออดอ้อนว่า “ปู่ เวลาแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าปู่จะไม่อยู่บนรถม้าคันเดียวกับหนู ปู่คิดว่าหนูแย่กว่าไอ้หมอนี่ใช่ไหม เป็นหน้าเป็นตาให้ปู่ไม่ได้ใช่ไหม”

ลู่ฝานหัวเราะอยู่ข้างๆ แต่ไม่พูดอะไร สิบสามยืนอย่างนอบน้อมอยู่ข้างหลังลู่ฝาน

หลู่เฉิงเซี่ยงพูดกับหลู่ยินอย่างเอ็นดู “หลู่ยิน เธอควรจะรู้เหตุผลสิ ยังต้องให้ปู่อธิบายอีกเหรอ”

หลู่ยินเบะปาก ย่นจมูกใส่หลู่เฉิงเซี่ยง จากนั้นไปยืนข้างลู่ฝาน แล้วพูดเสียงเบาว่า “เรื่องครั้งก่อนยังไม่จบ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า