แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 243

ตอนนี้เอง ก็ยังคงเป็นหญิงชราคนหนึ่งในหมู่บ้านที่ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงได้เอ่ยเกลี้ยกล่อมขึ้นว่า“ชนเหมย ข้าว่า หากเจ้ายังไม่พาบุตรชายของเจ้าไปหาหมออีก เกรงว่าท่าจะไม่ดีแล้วล่ะ”

คำพูดของหญิงชราคนนี้ ถือว่าเป็นการไว้หน้าแม่หม้ายหลี่

แม่หม้ายหลี่เองก็ไม่หาเรื่องลั่วเสี่ยวปิงอีกต่อไป นางเพียงเตรียมตัวพาเหยียนขวนไปหาหมอ

เพียงแต่หวังจินเสียกลับไม่พอใจขึ้นมา ดึงแม่หม้ายหลี่เอาไว้จะให้นางชดเชยหมูของตัวเองด้วยเงินท่าเดียว ไม่เช่นนั้นก็จะดึงรั้งไว้เช่นนี้ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ปล่อยให้แม่หม้ายหลี่จากไป ท่าทีราวกับเตรียมพร้อมจะสู้อีกครั้ง

แม่หม้ายหลี่เพิ่งจะได้รับบาดเจ็บ ในใจยังรู้สึกแต่ความหดหู่ จะสามารถสู้อีกได้อย่างไร ดังนั้นจึงได้ทำการเจรจาต่อรอง จากค่าชดเชยสี่ตำลึงที่หวังจินเสียขอ นางต่อรองจนถูกลดเหลือสองตำลึง

ไม่ใช่เพราะหวังจินเสียเป็นคนพูดง่าย แต่นั่นเป็นเพราะหมูของหวังจินเสียยังไม่ตาย

หลังการเจรจา แม่หม้ายหลี่ที่เป็นผู้หญิงแน่นอนว่าไม่สามารถพาเหยียนขวนออกไปเองได้ จึงได้ขอผู้ชายในหมู่บ้านให้มาช่วย

ผู้คนในหมู่บ้านต่างก็คิดว่าอย่างไรเสียเหยียนขวนก็เป็นซิ่วฉาย ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ต้องให้เกียรติเขาหน่อย จึงไม่ได้ปฏิเสธ

เพียงแต่ความเกลียดชังของแม่หม้ายหลี่ที่มีต่อลั่วเสี่ยวปิง มันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เรื่องนี้ยังไม่ต้องเอ่ยถึง

หลังจากที่ลั่วเสี่ยวปิงออกมาจากเรือนของจางต้าโถว ก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นนานนัก อำลาทุกคนเสร็จแล้วก็กลับบ้านไป

ทันทีที่เข้าไปในเรือน ลั่วเสี่ยวปิงก็เห็นไป๋เสาและจางเสี่ยวหลิงกำลังรออยู่ในเรือน ส่วนเด็กๆนั่งเงียบอยู่ข้างๆ

ที่เป็นเช่นนั้น นั่นก็เพราะรอยฝ่ามือที่อยู่บนใบหน้าของจางเสี่ยวหลิง

เมื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิง จางเสี่ยวหลิงอยากจะยิ้ม แต่เพราะแผลบนใบหน้าสาหัสเกินไป แค่ขยับเล็กน้อยนางก็ปวดแล้ว นางจึงทำได้เพียงยอมแพ้

“เสี่ยวปิง ข้าอยากพาเสี่ยวยาเข้าไปในเมืองก่อน”นางกลัวว่าหากตัวเองยังอยู่ที่เรือนของเสี่ยวปิงต่อไป ท่านพี่กับพี่สะใภ้จะมาสร้างปัญหาให้กับเสี่ยวปิงอีก

“เช่นนั้นเจ้า แก้ไขปัญหาเรื่องพวกเขาได้หรือยัง? ”ลั่วเสี่ยวปิงเอ่ยถาม

จางเสี่ยวหลิงได้ยินเช่นนั้น นางเม้มปาก“ข้า......”

เมื่อเห็นจางเสี่ยวหลิงมีท่าทางเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็เดาอะไรบางอย่างออก

แม้ว่าจะไม่ค่อยพอใจกับผลลัพธ์นี้มากนัก แต่เพราะอย่างไรเสียจางเสี่ยวหลิงก็เป็นคนท้องถิ่นของที่นี่ อยากจะให้นางเปลี่ยนใจก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น

“ข้าเช่าที่พักอาศัยอยู่ในเมือง ประเดี๋ยวข้าจะให้ไป๋เสาพาเจ้าไป”ลั่วเสี่ยวปิงพูดแล้วก็หันหลังอยากจะจากไป แต่เมื่อคิดดูแล้ว ก็กล่าวขึ้นมาว่า“สำหรับเรื่องซุปหมาล่า เพียงแค่เจ้าต้องการ ก็ยังสามารถเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกันได้”

“ข้าอยาก!”ครั้งนี้ จางเสี่ยวหลิงตอบอย่างมั่นใจมาก

ลั่วเสี่ยวปิงเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เดินตรงเข้าไปในเรือนโดยตรง

และในขณะนี้เองคนตระกูลลั่วก็ได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เรือนของจางต้าโถวแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังทราบเรื่องที่แม่หม้ายหลี่กล่าวโทษลั่วเสี่ยวปิงอีกด้วย

ถึงแม้ว่าตอนนี้ตระกูลลั่วจะแยกเรือนกันแล้ว แต่อย่างไรเสียทุกคนก็เป็นคนที่อาศัยอยู่ในเรือนเดียวกัน ดังนั้นตอนที่ทุกคนฟังเรื่องซุบซิบพวกเขาทั้งหมดจึงนั่งอยู่ในเรือนด้วยกัน

จ้าวซื่อมีสีหน้าขุ่นเคือง“แม่หม้ายหลี่คนนั้นช่างไร้ประโยชน์จริงๆ มีโอกาสโยนความดีๆเช่นนี้แต่กลับพลาดมันไปเสียอย่างนี้”

ย่าลั่วเองก็มีสีหน้าเสียดาย จากนั้นก็กล่าวขึ้นมาอย่างเกลียดชัง“นังหนูนั่นเป็นคนมีคารมคมคาย ไม่รู้จริงๆว่าจะมีใครจัดการนางได้”

มีเพียงฟ่านลี่ฮัวที่เห็นว่าบุตรชายของตนเองไม่พูดสิ่งใดเลยเป็นเวลานานแล้ว จึงอดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้ว่า“เหอซิ่ง เจ้านึกอะไรออกหรือ?”

เดิมทีตอนที่เริ่มแยกเรือนกัน ฟ่านลี่ฮัวเองก็โวยวาย เพราะอย่างไรเสียบุตรชายของตัวเองก็ไม่ใช่บุตรชายของตัวเองอีกต่อไปแล้ว นางจะยังคาดหวังอะไรได้อีก

แต่ท้ายที่สุดแล้วลั่วเหอซิ่งก็ปลอบโยนนาง บอกว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงแผนรับมือชั่วคราวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถเข้าสอบคัดเลือกขุนนางได้ ด้วยเหตุนี้ฟ่านลี่ฮัวถึงได้หยุดลง

เพียงแค่บุตรชายยังเห็นว่านางเป็นแม่อยู่ เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้

ดังนั้นในตอนนี้ นอกจากบ้านสองที่กำลังพูดบ่นอยู่ ทางด้านบ้านใหญ่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก

เพียงแต่ตอนนี้ทุกคนกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของลั่วเสี่ยวปิงอยู่ ดังนั้นจึงอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุขเช่นนี้

เมื่อคำพูดนี้ของฟ่านลี่ฮัวถูกเอ่ยออกมา ทุกคนก็พากันหันไปมองทางลั่วเหอซิ่ง ต่างก็คาดหวังว่าลั่วเหอซิ่งจะมีความคิดอะไรดีๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง