แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 247

ผู้ที่เข้ามาคือซูซิ่วเหม่ย หญิงชราซูกับเจิ้งติงหลาน ทั้งสองคนถือถาดอยู่ในมือ บนใบหน้าของพวกนางเต็มไปด้วยความยินดีและความตื่นเต้น

“ฮูหยิน นายท่านให้พวกเรามาปรนนิบัติฮูหยินเปลี่ยนชุดเจ้าค่ะ”อย่างไรเสียหญิงชราซูก็เป็นคนที่ผ่านโลกมามาก ดังนั้นจึงได้เป็นผู้ที่สงบสติอารมณ์และเอ่ยปากพูดได้ก่อน

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นทั้งสองคนเป็นเช่นนี้ จึงได้มองไปทางชุดแต่งงาน

พับไว้อย่างหนาแน่น แค่มองดูก็รู้ว่ามีเสื้อหลายชั้น

ดูจากลายปักดอกไม้ที่โผล่พ้นออกมา นางก็สามารถเดาได้เลยว่าเพราะเหตุใดหญิงชราซูและเจิ้งติงหลานถึงได้ดูตื่นเต้นขนาดนั้น

ไม่ต้องไปคิดถึงด้ายที่ใช้เย็บปักเลย เพราะมันคือด้ายทองคำบริสุทธิ์ ข้างบนนั้นยังถูกประดับประดาไปด้วยอัญมณี ลงทุนมากซะจนลั่วเสี่ยวปิงยังอดที่จะประหลาดใจไม่ได้

ทันใดนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็คิดสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้

โดยทั่วไปแล้วชุดแต่งงานฝ่ายหญิงจะเป็นผู้ที่ปักเองกับมือ และถึงแม้จะไม่ได้ปักด้วยตัวเอง ไปสั่งทำที่ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ก็ต้องใช้เวลานานอยู่พอสมควร

แน่นอน ว่าต้องมีคนที่เชี่ยวชาญทำการค้าในส่วนนี้ที่อาจจะตั้งแสดงสินค้าสำเร็จรูปไว้ให้ผู้คนได้เลือกซื้อ แต่มันไม่มีทางเป็นงานฝีมือที่ประณีตเช่นนี้แน่นอน แค่มองแวบแรกก็รู้ว่าใช้วัสดุที่ไม่ธรรมดา

แม้นางจะไม่เชี่ยวชาญทางด้านงานปักฝีมือ แต่ลั่วเสี่ยวปิงก็สามารถมั่นใจได้ว่าชุดแต่งงานชุดนี้ต้องใช้เวลาในการทำอยู่ไม่น้อย ไม่มีทางเป็นชุดที่หาซื้อได้ชั่วคราวแน่นอน

ดังนั้นจะกล่าวได้หรือไม่ว่า ในเวลาก่อนหน้านี้ที่นางยังไม่รู้ฉีเทียนเห้าก็ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว?

ในตอนที่กำลังคิดเช่นนี้อยู่ คนหลายคนก็ได้ช่วยกันกางชุดแต่งงานชุดนั้นออกทีละชั้นๆ อย่างที่คิดมันเต็มไปด้วยงานปักที่วิจิตรงดงาม งานปักซับซ้อนและดูสวยงาม

ภาพที่ปักอยู่บนนั้นคือภาพลายมังกรและหงส์

ในราชวงศ์ต้าชิ่ง แม้ว่ามังกรและหงส์จะใช้เฉพาะภายในราชวงศ์ แต่ในวันแต่งงานของคนสองคน ก็ได้รับอนุญาตให้ใช้ภาพปักลายมังกรและหงส์ได้

แน่นอน ภาพปักลายมังกรและหงส์ไม่ใช่สิ่งที่ทุกเรือนจะสามารถใช้ได้ ไม่เพียงแต่มีข้อกำหนดสำหรับช่างปักหญิงที่ปักภาพปักลายมังกรและหงส์ แม้แต่ลายปักนั้นก็ไม่ใช่ว่าบ้านใครก็สามารถใช้ได้

ยิ่งกว่านั้น การจะปักภาพลายมังกรและหงส์ก็ต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับการให้ความสนใจอย่างเป็นรูปธรรมนั้นลั่วเสี่ยวปิงเองก็ไม่เข้าใจ แม้กระทั่งหญิงชราซูที่เคยเป็นคนใช้ในตระกูลใหญ่ๆเองก็ไม่ได้เข้าใจมากนัก รู้สึกเพียงแค่ว่าฉีเทียนเห้ายอมทำชุดแต่งงานแบบนี้ให้กับลัวเสี่ยวปิง นั่นเท่ากับว่าเขาให้ความสำคัญกับลั่วเสี่ยวปิงเป็นอย่างมาก ในใจจึงได้รู้สึกยินดีแทนลั่วเสี่ยวปิง

เพราะอย่างไรเสียสำหรับหญิงชราซูแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงได้ดี เช่นนั้นสำหรับพวกเขาที่เป็นคนรับใช้ก็เป็นการดีด้วยไม่ใช่หรือ?

ชุดแต่งงานชุดนี้ของลั่วเสี่ยวปิงต้องใช้ความพยายามสูงมากจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าหากอาศัยเพียงลั่วเสี่ยวปิงตัวคนเดียวคงไม่สามารถสวมใส่มันได้

คนหลายคนภายในห้องต่างก็ไม่กล้าลงมือ ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นไป๋เสาที่ออกมาสั่งการ ส่วนคนที่เหลือก็คอยช่วย ถึงได้สวมชุดแต่งงานทุกผืนจนเสร็จสิ้น ตลอดกระบวนการลั่วเสี่ยวปิงทำเพียงแค่ยกมือทั้งสองข้างขึ้น ไม่ต้องเอ่ยถามอะไรเลยทั้งสิ้น

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เมื่อสวมชุดแต่งงานเสร็จแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้สึกถึงอาการเหนื่อยหอบเล็กน้อย

การคาดการณ์เบื้องต้น ยังไม่รวมเครื่องประดับที่อยู่ในถาดนั้น เพียงแค่ชุดแต่งงานก็คิดว่าคงจะมีน้ำหนักไม่น้อยกว่าห้ากิโลกรัม

ในขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงเหนื่อยจนอยากจะพักหายใจ ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นว่าคนอื่นๆที่อยู่ภายในห้องกำลังจ้องมาที่ตัวเองอย่างตกตะลึง ราวกับกำลังมองนางฟ้าบนสวรรค์ จนทำให้นางรู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย

แต่เมื่อลั่วเสี่ยวปิงได้ยืนอยู่หน้ากระจกทองเหลืองขนาดใหญ่ที่ถูกขนเข้ามาพร้อมกับของแต่งงาน ลั่วเสี่ยวปิงเองก็ตะลึงกับตัวเองในกระจกเหมือนกัน

ถึงแม้จะยังไม่ได้แต่งหน้าทำผม เพียงแค่สวมใส่ชุดแต่งงานสีแดง และผิวพรรณที่ขาวอมชมพูของนาง ก็ดูมีออร่าและความงามที่จับใจผู้คนอย่างบอกไม่ถูก

มองดูตัวเองที่อยู่ในกระจก ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็เริ่มมีความรู้สึกว่าตัวเองคือเจ้าสาว ทันใดนั้นจิตใจของนางก็รู้สึกกระสับกระส่าย

ต่อจากนั้น ก็เริ่มแต่งหน้าทำผม

ตอนนี้เอง ลั่วเสี่ยวปิงถึงได้รู้ว่าแม่สื่อหวังคนนี้ยังเป็นผู้ที่มีครอบครัวสมบูรณ์ ก็ไม่แปลกที่ฉีเทียนเห้าจะเชิญนางมา

เพียงแต่เมื่อเครื่องสำอางถูกแต่งแต้มอยู่บนใบหน้า อารมณ์ที่เดิมทีมีแต่ความกระสับกระส่ายของลั่วเสี่ยวปิงได้ตื่นตัวขึ้นมาทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง